[รีวิวเกม] Harvest Moon: The Winds of Anthos ซีรีส์ปลูกผักฉบับยกเครื่องใหม่
Our score
7.0

Harvest Moon: The Winds of Anthos

จุดเด่น

  1. ฉากและงานออกแบบยกเครื่องใหม่
  2. เกมเพลย์ลื่นไหลเข้าใจง่าย

จุดสังเกต

  1. กราฟิกขาดรายละเอียดเหมือนเกมบน PS2
  2. เกมเพลย์เรียบง่ายเกินไปหน่อย

เชื่อว่าแฟนเกมแนวปลูกผักในตำนานอย่าง Harvest Moon คงจะรู้กันดีว่าหลังจากมีดราม่า เพราะค่ายที่เป็นเจ้าของชื่อ Harvest Moon ได้แยกออกมาสร้างเกมเอง ส่วนทีมงานต้นฉบับก็เปลี่ยนไปใช้ชื่อ Story of Seasons เรียกว่ามันจะแยกออกเป็น 2 เกมมาให้เล่นกัน

อย่างไรก็ตามตลอดหลายปีที่ผ่านมาเกมที่ใช้ชื่อว่า Harvest Moon กลับทำออกมาได้ไม่ค่อยดีนัก เพราะไม่ได้ทีมงานต้นฉบับมาทำให้ บางภาคทำออกมาได้ย่ำแย่ชนิดที่ว่าเกมแจกฟรีบนสมาร์ตโฟนยังดูดีกว่ามาก แต่การมาของภาค Harvest Moon: The Winds of Anthos ที่เปิดตัวอย่างมาก็สร้างความประทับใจแรกเห็นเพราะกราฟิกถูกยกระดับขึ้นอย่างเห็นได้ชัด

ส่วนตัวละครมีสัดส่วนที่สมจริงไม่ได้มาแบบ SD หัวโตแบบภาคก่อน ๆ ทำให้มันน่าสนใจกว่าเดิมมาก เพราะเชื่อว่าแฟน ๆ คงคาดหวังว่ามันจะมายกระดับให้ซีรีส์ Harvest Moon ดูดีเทียบเท่า Story of Seasons เสียที โดยเกมวางขายบน Nintendo Switch, PlayStation 5, PlayStation 4, Xbox One, Xbox Series X และ Series S รวมทั้งออกบน PC ด้วย

เนื้อเรื่องยังคงเหมือนเดิม

ส่วนเนื้อเรื่องใน Harvest Moon: The Winds of Anthos จะเกิดขึ้นในดินแดนแห่ง Anthos ที่สงบสุขและมีเทพธิดา Goddess และ Harvest Sprites คอยดูแลให้พ้นจากภัยพิบัติ แต่แล้วก็เกิดเหตุร้ายเพราะภูเขาไฟได้เกิดระเบิดครั้งใหญ่ทำให้ทวยเทพได้ใช้พลังทั้งหมดเพื่อหยุดเหตุร้ายไม่ให้เกิด อย่างไรก็ตามหลังจากนั้นก็ไม่เคยมีใครพบเห็นเหล่าเทพอีกเลย ทำให้ผู้เล่นต้องออกตามหาและคืนความอุดมสมบูรณ์ให้ Anthos อีกครั้ง

กราฟิกไม่ได้ดีอย่างที่คิด

จุดเด่นแรกของเกมที่น่าจะเป็นจุดขายในตัวอย่างที่ปล่อยออกมาก่อนเกมวางขายคือ กราฟิกที่สวยงามดูดีกว่า Harvest Moon ภาคเก่า แต่พอได้สัมผัสของจริงมันไม่เหมือนที่คุยกันไว้ เพราะทุกอย่างยังคงขาดรายละเอียดไม่ว่าจะเป็นฉากหรือตัวละครที่เหมือนกับเกมบน PS2 มากกว่าจะเป็นเกมฟอร์มดีในยุคปัจจุบัน ทำให้น่าผิดหวังสำหรับคนที่อยากเสพอะไรที่ดูสวยงาม เพราะมันยังคงมีทุนสร้างไม่มากเหมือนกับภาคก่อน

จริงอยู่ตัวละครในเกมได้ปรับสัดส่วนให้สมจริงมากขึ้น แต่การเคลื่อนไหวก็ยังคงดูแข็ง ๆ ไม่สมจริงรวมทั้งการแสดงผลใบหน้าก็เรียบง่ายไม่โดดเด่น จริงอยู่ที่เกมแนวปลูกผักทำไร่ไม่จำเป็นต้องมีภาพสวย แต่หากจะลงทุนอีกสักนิดมันจะยกระดับซีรีส์นี้ไปได้ไกลกว่านี้ ส่วนเพลงประกอบก็มาแนวเรียบง่ายเน้นดนตรีเบา ๆ สบาย ๆ แต่ก็เข้ากับฉากในเกมที่เป็นเมืองในชนบทที่ผู้คนใช้ชีวิตไปอย่างช้า ๆ ไม่เร่งรีบ แต่น่าเสียดายที่ยังคงไม่มีเสียงพากย์เหมือนเดิม

เกมเพลย์เหมือนเดิมไม่เปลี่ยนแต่ปรับให้ลื่นขึ้น

เมื่อเริ่มเล่นเกมมันก็คือแนวปลูกผักพื้นฐานที่เข้าใจง่ายมาก ๆ เหมือนเดิม เราจะได้จับจอบพรวนดิน, หว่านเมล็ดพืช, ใส่ปุ๋ย, รดน้ำ และเก็บเกี่ยวพืชผลเอาไปขายเหมือนเดิม ซึ่งส่วนนี้ดูจะเรียบง่ายไปหน่อยและไม่มีอะไรแปลกใหม่ตามที่คาดหวังไว้ แต่มองในแง่ดีคือมันก็คือรูปแบบที่เราคุ้นเคยและหลงรักซีรีส์ปลูกผักตั้งแต่ภาคแรก

และข้อดีแรกที่เห็นคือผู้สร้างได้ปรับให้เกมเพลย์ลื่นไหลขึ้น เช่นการปรับระบบใช้ไอเทมที่ไม่ต้องกดเข้าเมนูเพื่อมาเปลี่ยนแล้ว ทำให้การเล่นลื่นกว่าเดิมมาก เช่นหากเราพรวนดินแล้วอยากไปหว่านเมล็ดก็ทำต่อเนื่องได้เลย ตัวละครจะรู้ว่าดินส่วนนี้พรวนไปแล้วและจะหว่านเมล็ด มีแต่การเลือกชนิดของพืชที่จะปลูกเท่านั้นที่จะกดเข้าเมนู แต่ก็ทำได้รวดเร็วมากทำให้มันไม่น่าเบื่อเลย ส่วนระบบค่าพลังชีวิตที่ดูจะอึดเป็นพิเศษ เพราะมันแทบไม่ลดลงเมื่อทำกิจกรรมทำให้เราสามารถเล่นได้โดยไม่ต้องกังวลมากนัก

ฉากแบบ 3 มิติเต็มรูปแบบ

ฉากในเกมมาในรูปแบบ 3 มิติแบบเต็มรูปแบบ แม้อาจจะไม่ได้แปลกใหม่เพราะมีหลายภาคที่ใช้แบบนี้ แต่มันก็ทำได้ดีพอตัว ดินแดน Anthos แม้ไม่ได้กว้างใหญ่อะไรมากแต่ก็มีอะไรให้ทำมากมาย ที่ส่วนใหญ่เคยเห็นกันมาแล้วในภาคก่อนเช่นการตกปลา หรือหาวัตถุดิบมาสร้างสิ่งของเช่นการตัดต้นไม้เพื่อเอาไม้มาสร้างเฟอร์นิเจอร์ หรือลงไปสำรวจในเหมืองเพื่อหาแร่หายากเพื่อมาสร้างเป็นสิ่งอำนวยความสะดวก
และยังคงมีระบบเลี้ยงสัตว์มาให้ใช้งานเหมือนเดิม แถมยังมีหลากหลายชนิดมากกว่าภาคอื่นด้วย ส่วนนี้ถือว่าดีสำหรับคนชอบเลี้ยงสัตว์บอกใบ้ไว้ก่อนว่ามีบางชนิดทำเราประหลาดใจด้วย

ฟังดูแล้วอาจจะไม่น่าเล่นแต่ก็ต้องชื่นชมในความเรียบง่ายเข้าใจง่าย ทำให้การเล่นไม่มีติดขัดเพราะมีการบอกใบ้ตลอดว่าต้องไปทำอะไรตรงจุดไหนไม่ว่าจะเป็นเครื่องหมายบนแผนที่ หรือคำบอกใบ้ที่บางครั้งก็เหมือนไม่ใบ้เพราะมันบอกตรง ๆ เลย ซึ่งอาจจะมองว่าขาดความท้าทายแต่สำหรับเกมยุคใหม่ต้องการอะไรรวดเร็วถือว่าเป็นเรื่องดีมาก

ส่วนระบบสานสายสัมพันธ์กับตัวละครอื่นก็มีมาให้และสานต่อไปจนถึงแต่งงานได้เหมือนเดิม แต่มันดูเหมือนว่ามันไม่ค่อยมีความละเอียดเท่า Story of Seasons ถือว่ายังคงเป็นข้อด้อยที่เนื้อเรื่องและตัวละครยังคงเป็นรองไม่สามารถสู้ได้ในส่วนนี้ แต่มันก็ไม่ได้ดูย่ำแย่จนเกินไปเพราะด้วยเกมเพลย์ที่ลื่นไหลเข้าใจง่ายก็เหมาะสำหรับแฟนเกมหน้าใหม่ที่อยากลองเล่น

การกลับมาของ Harvest Moon: The Winds of Anthos ซีรีส์ปลูกผักที่หากคาดหวังว่าจะยกเครื่องใหม่ทั้งหมดอาจจะต้องผิดหวังเพราะมีหลายส่วนเหมือนเดิม แถมรายละเอียดในเกมยังไม่สามารถเทียบเท่ากับ Story of Seasons แต่มันก็พอมีข้อดีที่ความง่ายในการเล่นรวมทั้งความลื่นไหลไม่มีสะดุด ใครชอบเล่นแนวทำไร่ที่ไม่มีอะไรให้เครียดกดดันมากนักมันก็ยังมีความสนุกให้ค้นหาอยู่

พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส