[รีวิวเกม] ‘Song of Nunu: A League of Legends Story’ แอ็กชันแก้ปริศนาในโลกของ ‘LOL’ (เกมรองรับภาษาไทย)
Our score
7.0

Song of Nunu: A League of Legends Story

จุดเด่น

  1. เกมเพลย์แก้ปริศนาที่สนุก
  2. เกมรองรับภาษาไทย

จุดสังเกต

  1. ในส่วนแอ็กชันธรรมดาไปหน่อย
  2. เกมเป็นเส้นตรงเกินไป

หนึ่งในการหากินของค่ายเกมคือหากสร้างซีรีส์จนโด่งดังประสบความสำเร็จมาก ๆ ต้องมีการสร้างภาคแยกออกมาเพื่อเรียกเงินจากแฟน ๆ เช่นซีรีส์ ‘League of Legends’ หรือเรียกย่อ ๆ ว่า ‘LOL’ ที่ต้นฉบับเป็นเกมแนว Moba ที่โด่งดังอย่างมาก จนทำให้เกิดภาคแยกออกมากมาย

โดยก่อนหน้านี้มีการวางขายเกม ‘Ruined King A League of Legends Story’ ที่มาแนว RPG เทิร์นเบส และ ‘Convergence: A League of Legends Story’ เกมแนว Metroidvania แบบแอ็กชัน 2 มิติ และยังมีอีกหลายเกม และล่าสุด ‘Song of Nunu: A League of Legends Story’ ที่มาแนวแอ็กชัน 3 มิติที่เน้นการแก้ปริศนา วางขายบน Nintendo Switch และ PC นอกจากนี้มีข่าวดีคือมันรองรับภาษาไทยด้วย

ในเกม ‘Song of Nunu: A League of Legends Story’ เราจะได้รับบทเป็นหนุ่มน้อยนาม “Nunu” ที่ต้องออไปค้นหา “Heart of the Blue” และต้องร่วมมือกับตัวเยติ “Willump” ที่ต้องออกไปผจญภัยในดินแดนที่หนาวเย็นและเต็มไปด้วยอันตราย ผ่านการเล่าเรื่องที่เหมือนกับการ์ตูนที่มีคัตซีนให้ชมตลอดการเล่นแน่นอนว่าในเมื่อมันมีซับไทยทำให้เราอินไปกับเรื่องราวได้มากกว่าแน่นอน

กราฟิกแนวการ์ตูนที่โดดเด่น

ภาพในเกมถือว่าทีมงานทำออกมาได้ดีพอตัว แม้ว่ามันจะออกบน Nintendo Switch (และ PC) ซึ่งก็ไม่น่าจะคาดหวังว่าจะมีภาพงาม ๆ มาให้เสพกัน แต่ผู้สร้างก็สามารถทำตัวละครในรูปแบบการ์ตูนจากตะวันตกออกมาได้ดี มีการใส่ใจในรายละเอียดของตัวละคร แม้กระทั้งแววตาของตัวละครหลักก็ทำออกมาได้ราวกับมันมีชีวิตจริง

แน่นอนว่าภาพในเกมไม่สามารถเทียบกับมาตฐานกราฟิกระดับสูงได้ แต่มันก็ดูดีในแบบการ์ตูนแม้ว่ารายละเอียดของฉากโดยรวมจะดูโล่ง ๆ ไปหน่อยแต่ก็ไม่ได้ดูแย่เลย ส่วนเพลงมาแนวแฟนตาซีที่มีเพลงเพราะ ๆ อยู่พอตัว และเนื่องจากดนตรีเป็นสิ่งหลักตามชื่อเกม ทำให้มีหลายฉากที่ผู้เล่นต้องกดปุ่มเพื่อสร้างเสียงดนตรีที่ไพเราะติดหูด้วย และแน่นอนว่ามีเสียงพากย์ใส่เข้ามาตลอดถือว่าในส่วนนี้ทำออกมาได้ดีพอตัวเลย

เกมเพลย์แอ็กชันสำรวจแก้ปริศนา

สิ่งแรกที่ต้องทำความเข้าใจก่อนคือ รูปแบบการเล่นของเกมจะไม่ได้ดุเดือดแบบเกมแอ็กชัน 3 มิติทั่วไปเพราะเกม ‘Song of Nunu: A League of Legends Story’ จะเน้นการสำรวจและแก้ปริศนาเป็นหลัก แม้จะมีฉากที่ได้ต่อสู้อยู่ด้วยก็ตามแต่หลัก ๆ แล้วจะไม่เน้น ดังนั้นหากคุณเล่นความเป็นแอ็กชันแบบเต็มสูบคงต้องไปมองหาเกมอื่น

อย่างไรก็ตามแม้ว่ามันจะเน้นสำรวจแต่ผู้สร้างทำออกมาได้ดี เพราะมีการใส่ฉากที่เราต้องออกกำลังกันด้วยเช่นการกระโดดไปยังที่สูงหรือไต่กำแพงเพื่อหาทางไปต่อ แต่ที่โดดเด่นคือมีการใช้ความสามารถของ 2 ตัวละครหลักที่มีความแตกต่างกัน เช่น “Nunu” จะตัวเล็กและมีความคล่องตัวไปในที่แคบได้ รวมทั้งยังใช้การปาหิมะเพื่อร่วมกันแก้ปริศนาได้

นอกจากนี้หนุ่มน้อยของเรายังมาพร้อมกับขลุ่ยวิเศษที่ใช้เล่นเพลงเพื่อแก้ปริศนา เช่นการเปิดประตูหรือซ่อมแซมทางของฉากให้เราไปต่อได้ ซึ่งการเล่นเพลงจะใช้ระบบกดปุ่มตามจังหวะเพื่อเล่นดนตรี ที่ส่วนนี้คล้ายกับ ‘Zelda: Ocarina of Time’ ที่ยิ่งเล่นก็จะมีเพลงใหม่ ๆ ที่กดยากขึ้นมาให้เล่น อย่างไรก็ตามแม้จะแก้ปริศนาได้ดีแต่หนุ่มน้อย “Nanu” ก็ไม่สามารถสู้ศัตรูได้โดยตรงต้องเพิ่งพาผู้ช่วยอย่าง “Willump”

ไม่เน้นต่อสู้แต่ไม่น่าเบื่อ

โดยในส่วนของฉากต่อสู้แม้จะไม่เน้นแต่ผู้เล่นจะได้สัมผัสผ่านตัวละคร “Willump” ตัวเยติที่ตัวใหญ่ยักษ์และทรงพลังที่ใช้กรงเล็บที่แหลมคมโจมตีศัตรูได้รุนแรง ผู้สร้างสามารถใส่การกดท่าคอมโบได้รวดเร็ว แต่ไม่ค่อยซับซ้อนนักมีการกดท่าเผด็จศึกแบบเรียบง่ายมาก ทำให้ในส่วนแอ็กชันดูเรียบ ๆ ไปหน่อยแต่ก็ไม่ถึงขั้นน่าเบื่อ เพราะอย่างที่บอกว่าผู้เล่นต้องทำความเข้าใจตั้งแต่เริ่มเกมแล้วว่ามันไม่เน้นในส่วนแอ็กชัน อย่างไรก็ตามก็มีการใส่ฉากที่เราจะได้พุ่งตัวไปบนน้ำแข็งด้วยความเร็วสูงเหมือนเกมแข่งรถใส่มาให้เล่นกันด้วย ทำให้มันไม่น่าเบื่อและมีความหลากหลายมากขึ้น

และมีหลายฉากที่ทั้ง 2 ตัวละครต้องร่วมกันแก้ปริศนา ซึ่งผู้เล่นต้องเลือกใช้ความสามารถพิเศษของแต่ละตัวละครเพื่อหาทางไปต่อ แน่นอนว่าในเมื่อตัวเกมรองรับภาษาไทยทำให้ผู้เล่นสามารถอ่านคำบอกใบ้เพื่อหาทางไปต่อได้อย่างง่ายดาย แต่ไม่ใช่ว่ามันไม่มีข้อเสีย เพราะว่าปริศนาบางจุดดูยุ่งยากเกินไปทำให้ผู้เล่นอาจจะหงุดหงิดที่ต้องกดหลายครั้ง และเนื้อเรื่องค่อยข้างเป็นเส้นตรงเกินไป โดยรวมไม่สามารถเทียบกับปริศนาของ ‘Zelda’ ได้เลยแต่ก็ไม่ได้ดูแย่ยังมีความสนุกให้สัมผัสอยู่

สำหรับการมาของ ‘Song of Nunu: A League of Legends Story’ เกมที่เน้นการแก้ปริศนาที่ดูดีพอตัว และได้ขยายโลกของ ‘LOL’ ให้ยิ่งใหญ่ขึ้น และต่อให้คุณไม่เคยเล่นซีรีส์นี้มาก่อนหรือไม่ชอบแนว Moba ก็สามารถลองได้ เพราะเกมเพลย์แตกต่างแม้ว่าจะสนุกไม่สุดแต่โดยรวมก็ไม่ได้แย่ แถมยังรองรับซับไทยเต็มรูปแบบใครอยากหาเกมแอ็กชันผจญภัยจะลองไปหามาเล่นก็น่าจะตอบโจทย์

พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส