[รีวิวเกม] ‘Fae Farm’ เกมปลูกผักทำไร่ในโลกแฟนตาซีที่ไม่ควรพลาด
Our score
7.5

Fae Farm

จุดเด่น

  1. เกมเพลย์ผสมผสาน 2 แนวได้ลงตัว
  2. กราฟิกน่ารักดูดีในระดับน่าพอใจ

จุดสังเกต

  1. ดันเจี้ยนขาดความซับซ้อนไปหน่อย
  2. เกมเพลย์ขาดความสดใหม่

อีกแนวเกมที่ค่ายอินดี้นิยมสร้างคือแนวปลูกผักทำไร่แบบเดียวกับ ‘Havest Moon’ ยิ่งหลังจากความสำเร็จระดับปรากฏการณ์ของ ‘Stardew Valley’ ยิ่งทำให้มีหลายทีมงานนิยมหยิบแนวทางเกมแนวปลูกผักมาทำในรูปแบบของตัวเองโดยการผสมผสานหลากหลายแนวทางเข้าด้วยกัน

เช่นเกมล่าสุด ‘Fae Farm’ ที่เป็นการนำแนวปลูกผักทำไร่ผสมยำกับแนวทางแฟนตาซีแอ็กชัน RPG ที่เรียบง่าย โดยเป็นผลงานของค่าย Phoenix Labs สตูดิโอเล็ก ๆ ที่ตั้งอยู่ในประเทศแคนาดา โดย ‘Fae Farm’ จะวางขายบนคอนโซล Nintendo Switch และ PC ซึ่งยังไม่มีการออกวางขายบนเครื่องคอนโซลอื่นในตอนนี้ แต่ในอนาคตอาจจะออกบนเครื่องอื่นด้วย

ส่วนเนื้อเรื่องในเกม ‘Fae Farm’ จะไม่ได้ซับซ้อนหรือแตกต่างจากแนวเดียวกันนัก โดยจะเริ่มที่เกาะนาม “Azoria” ที่สวยงามแต่ก็มีความน่ากลัวซ่อนอยู่ และมีเหตุร้ายเกิดขึ้นทั่วเกาะ รวมทั้งเกิดคลื่นยักษ์ที่น่ากลัวที่ทำให้เรือของตัวเอกถูกนำพามายังเกาะ โดยในเบื้องต้นเราจะสามารถสร้างตัวละครได้เองแล้วออกไปทำภารกิจบนเกาะที่เต็มไปด้วยความลับซ่อนอยู่มากมาย

กราฟิกมาแนวน่ารักเหมาะสมกับแนวเกม

แม้ว่าจะไม่ได้มาจากค่ายใหญ่แต่ทีมงานสร้างก็ลงทุนใช้ Unreal Engine ในการสร้างกราฟิก แม้จะไม่ได้อยู่ในระดับสุดยอด แต่รายละเอียดก็ทำออกมาได้ดีพอตัว แต่มันก็ยังอยู่ในระดับดีพอใช้เนื่องจากมันออกบน Nintendo Switch เชื่อว่าแฟน ๆ คงไม่ได้คาดหวังอะไรในส่วนนี้อยู่แล้ว โดยรวมถือว่าอยู่ในระดับดีขาดแค่รายละเอียดและแสงเงาที่ดูธรรมดาไปหน่อยเท่านั้น โดยเกมนำเสนอด้วยมุมกล้องแบบ 2 มิติมองจากด้านบน

ส่วนความลื่นไหลก็พอมีเฟรมเรตอยู่ระดับกลาง ๆ มีอาการร่วงอยู่บ้างหากอยู่ในฉากที่มีรายละเอียดเยอะ แต่ก็อยู่ในระดับที่รับได้ ในด้างเพลงประกอบในเกมก็ทำมาเรียบ ๆ ตามแนวทางปลูกผักทำไร่ แต่ก็มีการเสริมเพลงที่ตื่นเต้นในส่วนของฉากตะลุยดันเจี้ยน และมีแนวทางดนตรีประกอบจากเกมตะวันตกอยู่มาก แต่เสียดายที่ไม่มีเสียงพากย์ใส่เข้ามาแต่ก็พอเข้าใจว่ามันถูกสร้างจากค่ายเล็ก ๆ โดยรวมถือว่าทำออกมาได้ดีแล้ว

เกมเพลย์ปลูกผักในโลกแฟนตาซี

รูปแบบการเล่นในเบื้องต้นจะเหมือนกับเกมแนวปลูกผักที่เราจะได้ดูแลฟาร์ม ที่มันยังดูเหมือนกับสถานที่รกร้าง ผู้เล่นต้องทำการพรวนดินปลูกพืชผัก และสร้างสิ่งที่อยู่ในฟาร์มเพื่อนำผลผลิตไปขายหาเงิน ซึ่งในส่วนนี้มีการสร้างระบบที่ทำให้การเล่นลื่นไหลกว่าเกมแนวทำฟาร์มทั่วไป เพราะว่าเราไม่ต้องเปลี่ยนไอเทมเอง ทุกอย่างทำแบบอัตโนมัติเช่นหากเราหว่านเมล็ดแล้วจะรดน้ำแบบต่อเนื่องได้เลยไม่ต้องมีการกดเข้าเมนูเพื่อเปลี่ยนเอาที่รดน้ำออกมา แถมยังมีปุ่มทางลัดเพื่อใช้ไอเทมเติมพลังได้อย่างรวดเร็ว

ส่วนนี้เองทำให้เกมเพลย์ลื่นไหลสุด ๆ ทำให้เราสร้างสวนที่สวยงามและเต็มไปด้วยผลผลิตมากมายได้อย่างรวดเร็วกว่าเกมอื่น นอกจากนี้ยังมีการผสานสิ่งเหนือธรรมชาติเข้ามาช่วยในการทำไร่ด้วยเช่นการใช้เวทมนตร์ยิ่งทำให้การเล่นในส่วนนี้สะดวกรวดเร็วไปอีก เช่นการใช้พลังพิเศษในการปลูกพืชให้โตขึ้นได้ภายในพริบตาก็มีมาให้ใช้ด้วยแต่จะเสียค่าพลัง MP ต้องหายามาเติมตามแนวทางเกม RPG

และนอกจากทำไร่แล้วยังมีระบบใส่เข้ามามากมายที่โดดเด่นคือการสร้างสิ่งของเช่นอุปกรณ์ตกแต่งบ้าน ไปจนถึงสิ่งที่ช่วยสร้างสิ่งใหม่ ๆ เพิ่มเช่นครัวเพื่อทำอาหาร ที่การได้มาเราก็ต้องออกไปค้นหาวัตถุดิบที่มีอยู่ทั่วเกาะ และยังมีระบบการเลี้ยงสัตว์เหมือนกับเกมปลูกผักทั่วไปด้วย โดยรวมเกมเพลย์ไม่ได้มีอะไรยุ่งยากเข้าใจง่ายตามแนวทางของเกม แต่มีอะไรให้ทำมากมายทำให้เราอยู่กับเกมได้ยาวนาน

อีกส่วนนอกจากการทำไร่สร้างไอเทมแล้ว ยังมีการรับภารกิจในเกาะที่เราต้องทำตามที่ตัวละครที่เป็นชาวบ้านกำหนด และเมื่อทำสำเร็จก็จะปลดล็อกสิ่งใหม่ ๆ เช่นไอเทมเพื่อใหม่ที่มีทั้งของที่ต้องมีเช่นเบ็ดตกปลา หรืออาวุธไว้ต่อสู้กับศัตรู นอกจากนี้ยังมีภารกิจที่ต้องทำอาหารแปลก ๆ ตามที่เกมกำหนด และการรับภารกิจก็แค่เดินไปคุยกับตัวละครที่สามารถกดเข้าไปดูบนเมนูแผนที่ว่ามันอยู่ตรงจุดไหน ส่วนการทำภารกิจต้องอ่านข้อมูลที่ต้องใช้ภาษากันเล็กน้อยซึ่งส่วนใหญ่ก็เป็นคําศัพท์ภาษาอังกฤษง่าย ๆ ทำให้เราทำตามได้แบบไม่ติดขัด

ผสมผสานกับระบบ RPG ได้ลงตัวมีอะไรให้ทำเยอะ

อีกส่วนที่ทำให้เกมสนุกแม้จะไม่ได้แปลกใหม่คือการผสมผสานเอาแนวทางแอ็กชัน RPG เข้าไปยำรวมด้วย ซึ่งในเกมจะมีดันเจี้ยนซ่อนอยู่มากมาย แต่ยังเข้าไม่ได้เราต้องไปทำภารกิจบนเกาะเพื่อค่อย ๆ ปลดล็อกเปิดทางเข้าไป ซึ่งเกมเพลย์ในส่วนนี้จะมาแนวสำรวจฉากต่อสู้กับศัตรูในดันเจี้ยน เพราะเราจะได้บังคับตัวละครโดยตรงเข้าไปสำรวจฉากในรูปแบบ 2 มิติมุมมองจากด้านบนที่เรียบง่าย

ฉากในเกมอาจจะไม่ได้ซับซ้อนอะไรนัก เพราะหากใส่ฉากที่ยาวเกินไปเราจะลืมการทำไร่ของเราไปเลย ส่วนภารกิจในดันเจี้ยนก็มีการต่อสู้กับศัตรูที่เราต้องเรียนรู้ท่าไม้ตายและเวทมนตร์ใหม่ ๆ แน่นอนว่าในดันเจี้ยนจะมีสมบัติและแร่หายากให้เราเก็บไปสร้างไอเทมใหม่ ๆ เสียดายบอสที่ซ่อนอยู่ในฉากจะท้าทายเราด้วยปริศนาและทำภารกิจไม่ได้ต่อสู้โดยตรงทำให้น่าผิดหวังไปหน่อย

แต่โดยรวมก็ไม่ได้ดูแย่เพราะว่ายังมีอะไรให้ทำมากมายเช่นการฟาร์มของไปสร้างสิ่งใหม่ ๆ และการสร้าง Seals เพื่อเป็นฐานให้กับเราในแต่ละด่าน และข่าวดีคือเราสามารถเล่นกับเพื่อนได้ด้วย เรียกว่าในส่วนนี้ทำให้การเล่นสนุกขึ้นเพราะจะได้สำรวจฉากไปพร้อมกับเพื่อน ๆ ได้

โดยรวมแล้วเกม ‘Fae Farm’ แม้อาจจะไม่ได้แปลกใหม่เพราะการยำรวมแนว RPG กับปลูกผักทำไร่มีมายาวนานแล้วเช่นซีรีส์ ‘Rune Factory’ แต่ ‘Fae Farm’ ก็ยังคงมีความสนุกที่โดดเด่นและแตกต่าง โดยเฉพาะความเรียบง่ายลื่นไหลของระบบการเล่นแต่มีอะไรให้ทำมากมาย แม้จะมีข้อเสียที่ฉากดันเจี้ยนขาดความซับซ้อนไปหน่อย แต่หากคุณชอบแนวปลูกผักที่เข้าใจง่ายเล่นได้เพลิน ๆ มันก็ถือเป็นทางเลือกที่ไม่ควรมองข้าม

พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส