‘God of War’ เป็นอีกหนึ่งแฟรนไชส์เกมที่เป็นเอ็กซ์คลูซีฟสำหรับเครื่องเล่นเกมจากค่ายโซนี่มาอย่างยาวนานนับย้อนไปได้ถึงภาคแรกบนเครื่อง PlayStation 2 เมื่อปี 2005 จนมาถึงตัวเกมภาคล่าสุดที่ถูกส่งมาปิดท้ายเครื่อง PlayStation 4 เมื่อปี 2018 และรีดเร้นศักยภาพของคอนโซลเจนนี้ได้อย่างเต็มที่ เรียกว่าทั้งภาพและวิธีการเล่าเรื่องที่ลื่นไหลแทบเป็นลองเทคยาวต่อเนื่องทั้งเกมเพลย์และคัตซีนจนจบเกม คือน่าตื่นตะลึงจนในช่วงสัปดาห์ที่ตัวเกมออกมานั้น มันแทบจองรางวัล “เกมแห่งปี” แบบนอนมาเลยทีเดียว

และเมื่อมีการประกาศว่ามันจะได้รับการพอร์ตมาลงเครื่องคอมพิวเตอร์นั้น มันจึงเป็นทั้งความน่าตื่นตะลึงในการที่มันก้าวข้ามความเป็นเอ็กซ์คลูซีฟที่แทบกลายเป็นไอคอนของเครื่อง PlayStation ออกมาได้ จนเรียกได้ว่ามันคือปาฏิหาริย์เลยทีเดียว และให้โอกาสเกมเมอร์สายพีซีได้สัมผัสความยิ่งใหญ่ของการเล่าเรื่องและเกมเพลย์สุดมันจนได้ ใครสนใจอ่านรีวิวในส่วนนี้ยังสามารถอ่านได้จากรีวิวฉบับ PlayStaion 4 ของแบไต๋ได้ ที่นี่ เลย

God of War PC

และสำหรับคอเกมสายไม่ชอบขีดจำกัดแบบชาวพีซีนี่มันก็น่าสนใจไม่น้อยว่าตัวเกมจะมีอะไรให้ปรับแต่งมากน้อยขนาดไหน แต่ส่วนตัวผู้รีวิวนั้นค่อนข้างมั่นใจคุณภาพในการพอร์ตเกมจากค่ายหลักของโซนี่มาลงคอมพิวเตอร์พอสมควร เมื่อพิจารณาจากผลงานที่ผ่านมา แต่ที่สนใจกว่าคือคุณภาพในการเล่นสำหรับคอมพิวเตอร์ระดับกลาง ๆ ซึ่งเป็นคอมพิวเตอร์ส่วนใหญ่ของผู้ใช้ในปัจจุบันด้วยปัจจัยด้านปัญหาการขาดตลาดและราคาที่ขึ้นสูงของชิ้นส่วนคอมพิวเตอร์จนยากแก่การอัปเกรดหรือประกอบคอมพิวเตอร์ใหม่ที่สเปกสูงไปด้วย ซึ่งต้องขอบคุณโซนี่ประเทศไทยที่ให้เกมมาทดสอบในครั้งนี้ด้วย

กราฟิกและประสิทธิภาพ

สเปกแนะนำของเกมอยู่ที่ระดับ intel i5-6600k หรือ AMD Ryzen 5 2400 G ซึ่งออกต้นปี 2018 และหน่วยประมวลผลกราฟิกขอแค่ NVIDIA GTX 1060 (6GB) หรือ AMD RX 570 (4GB) ซึ่งออกมากลางปี 2016 และต้นปี 2017 ตามลำดับ นั่นเท่ากับว่าคอมระดับบนเมื่อ 4-5 ปีก่อนยังเล่นได้ในระดับที่เพลิดเพลิน ที่ความละเอียด 1080p ที่ 30 FPS ได้แล้ว ซึ่งตามปกติก็ต้องบอกว่าในยุคที่เทคโนโลยีพัฒนาไปไวมากอายุเครื่อง 2-3 ปีก็เรียกว่าตกรุ่นไปไกลแล้ว แต่เกมยังทำให้สามารถเล่นได้ในระดับดีก็ถือว่าปราณีกับผู้เล่นพอสมควร

God of War PC

แน่นอนว่าสำหรับบางคนเฟรมเรตที่ 30 FPS อาจเป็นปัญหา แต่ตัวเกมก็ยังมีตัวเลือกการปรับแต่งให้พอประมาณทีเดียวที่จะรีดเฟรมเรตให้สูงขึ้น แม้จะไม่ได้มีให้ปรับละเอียดสุด ๆ แต่ก็ถือว่าเพียงพอทีเดียว ทั้งตัวเลือกการปรับระดับของกราฟิกอย่าง คุณภาพพื้นผิววัตถุ แสงเงา การสะท้อน บรรยากาศ ที่มีตั้งแต่ low จนถึง ultra และตัวสเปกแนะนำก็ทำได้คุณภาพเท่าระดับ original หรือเท่าตัวดั้งเดิมบน PlayStation 4 แล้ว ปรับแต่งดี ๆ คอมระดับแนะนำก็อาจทำเฟรมเรตได้ที่ประมาณ 40-60 FPS ทีเดียว

ตัวเกมมีการเพิ่มเรื่องกราฟิกจากต้นฉบับมาในเรื่องการให้แสงเงา การสร้างบรรยากาศที่ลุ่มลึกขึ้น รวมถึงรายละเอียดของโมเดล วัตถุ และพื้นผิวที่ดีขึ้น ดังนั้นเขาก็รับประกันว่าใครคอมที่สูงพอก็จะได้คุณภาพภาพที่สวยขึ้นกว่า PlayStation 4 แน่นอน แต่อันนี้ส่วนตัวมองว่าการปรับแต่งตัวเลือกกราฟิกทั้งหลายไม่ได้ส่งผลกับคุณภาพภาพที่ได้แบบแตกต่างขนาดนั้น ในการปรับแต่งระดับ origin ไประดับสูงคือมองความต่างไม่ค่อยออกเท่าจากระดับต่ำมาระดับ origin

God of War PC
คุณภาพภาพที่ไม่ได้รู้สึกต่างเลวร้ายแม้จะปรับตัวเลือกกราฟิกต่ำกับสูงแล้วก็ตาม แต่จะมีผลกับเฟรมเรตและการเล่นมากกว่า

ซึ่งมองในแง่ดีว่าคอมกลาง ๆ กับคอมระดับบนถ้าเล่นที่ความละเอียด 1080p มันไม่ได้สวยต่างกันมากขนาดน้อยเนื้อตามใจ ว่ากันในจุดแข็งคือตัวเกมมีงานศิลป์ที่ดีมาก ๆ อยู่แล้ว ดังนั้นแค่เล่นได้ลื่นพอก็ประทับใจในเรื่องกราฟิกของเกมได้ไม่ยากเลยแม้จะปรับได้แค่ระดับ origin ก็ตาม และอีกอย่างเกมมันเป็นเส้นตรงที่ผลักเราให้เดินหน้าตลอดจนเราไม่ได้อยากหยุดชื่นชมธรรมชาติอย่างพวกเกมโลกเปิดกว้างอะไรขนาดนั้นด้วย

God of War PC
ถึงจะพูดว่าไม่ค่อยมีอารมณ์หยุดชมวิว แต่ฉากในเกมก็สวยติดตาอยู่ดี สังเกตความละเอียดของพวกใบไม้ที่ปลิวไปตามสายลมนั่นสิ

แต่ต้องยอมรับว่าตัวเลือกกราฟิกเหล่านี้รวมถึงสเปกเครื่องระดับที่เกินที่แนะนำนั้นปั้นมาเพื่อเน้นประสิทธิภาพการเล่นมากกว่า คือคอมที่ดีกว่าจะได้เฟรมเรตที่สูงขึ้นเป็น 60 FPS หรือมากกว่านั้นก็ได้ถึง 120 FPS และแทนที่จะเล่นแค่ที่ความละเอียด 1080p คุณก็จะได้เล่นกับจอที่ละเอียดขึ้นได้อย่างพวก 1440p หรือ 4K แถมตัวเกมยังรองรับจอแบบ 21:9 ultra-widescreen มาด้วย ใครเน้นเรื่องจอเรื่องเฟรมเรตจะได้เห็นความต่างกันก็ตรงนี้มากกว่า

God of War PC
ฉากอลังการของเกมเมื่อได้จอแบบ 21:9 ก็ยิ่งเพิ่มอารมณ์ได้อย่างดี ทั้งยังมีวิสัยทัศน์การมองเห็นศัตรูในฉากที่มากขึ้นด้วย

ยังน่าจะต้องพูดถึงด้วยว่าตัวเกมรองรับเทคโนโลยีช่วยประมวลด้านภาพทั้งของฝั่ง NVIDIA อย่าง Deep Learning Super Sampling (DLSS) ที่มากับการ์ดจอรุ่น RTX กับ NVIDIA Reflex ที่ช่วยลดความหน่วงการตอบสนองได้อีกซึ่งก็ใช้ได้กับการ์ดจอตั้งแต่ GTX 900 ขึ้นไปเลยทีเดียว อันนี้บอกเลยว่ามีผลแน่ ๆ ถ้าคุณเจอศัตรูที่ต้องชิงจังหวะมาก ๆ แล้วเล่นไม่ผ่านซะที คุณอาจอยากได้ตัวช่วยนี้มาก ๆ

ส่วนฝั่ง AMD ก็มีเทคโนโลยี AMD FidelityFX Super Resolution (FSR) ที่คล้าย ๆ ตัว DLSS มาให้แบบไม่ต้องน้อยใจกัน แต่ ณ เวลานี้ก็ต้องยอมรับว่าทั้ง FSR และ DLSS มันยังให้คุณภาพภาพสวยทดแทนเท่าใช้ความแรงจากฮาร์ดแวร์จริง ๆ ยังไม่ได้ แต่ใครที่สเปกคอมกลาง ๆ และอยากเน้นเรื่องการเล่นให้ลื่นมากขึ้นก็พอช่วยได้บ้าง

God of War PC

การเล่น

โดยภาพรวมต้องบอกว่าประทับใจมากกับการเล่น แม้จะเคยเล่นผ่านคอนโทรลเลอร์มาแล้วในตอนที่ีออกมากับ PlayStation 4 แต่การได้เล่นกับคีย์บอร์ดและเมาส์ก็เป็นอีกรสชาติที่สนุกดี การวางปุ่มทำได้ค่อนข้างดี คือปุ่มหลักที่ใช้ประจำ ผสมด้วยปุ่มที่อยู่ใกล้ ๆ แบบใช้มือเดียวก็กดได้หมด (เช่น Q E R F Shift Ctl) โดยเฉพาะการได้ใช้เมาส์ปรับมุมกล้องรวมถึงเกมเพลย์ส่วนที่ต้องใช้การเล็งเพื่อขว้างขวานหรือยิงธนู มันลื่นและคล่องตัวมาก ๆ แต่ก็แน่นอนว่าถ้าเครื่องคอมของเรามีเฟรมเรตที่น้อยก็อาจกลายเป็นความทรมานไปแทนได้เหมือนกัน โดยเฉพาะการหันหรือหมุนกล้องไว ๆ

แต่แม้การวางปุ่มกดบนคีย์บอร์ดจะทำได้ดีอย่างที่บอก ทว่าก็ต้องยอมรับว่าอรรถรสของการต่อคอมโบ การเล่นท่าที่ต้องผสมหลายปุ่มต่อกันก็ยากกว่าเล่นบนคอนโทรลเลอร์ไม่น้อย เพราะมันมีปุ่มที่ต้องใช้ร่วมกับปุ่มการเคลื่อนที่อีกอย่างน้อย 6 ปุ่มทีเดียว หลายท่าที่อุตส่าห์ปลดล็อกสกิลมาได้แต่เพราะการกดบางปุ่มต่อกันที่ไม่คล่อง บางท่าก็ไม่ได้ใช้ไปเลย ส่วนตัวถ้าแนะนำก็อยากให้เล่นผ่านคอนโทรลเลอร์จะมันมือกว่า

God of War PC

ตัวเกมแนะนำให้ติดตั้งบน SSD มากกว่าบน HDD และต้องใช้พื้นที่ประมาณ 70 GB ซึ่งอันนี้ก็เห็นด้วยว่าควรติดตั้งบน SSD เพราะเกมใช้วิธีการเล่าแบบไร้รอยต่อไหลยาวต่อเนื่องไปแทบไม่มีฉากโหลดให้เห็นเลย การรันบน SSD จึงจะเหมาะสมกว่า แต่กระนั้นแม้การโหลดเข้าเกมจะทำได้ไวและแทบไม่เห็นสัญลักษณ์การเซฟอัตโนมัติเลย ทว่าก็มีเจอที่เกิดการกระตุกอย่างเห็นได้ชัดเพราะเกมเซฟอัตโนมัติอยู่หนึ่งครั้งเหมือนกัน

และนอกจากนี้แม้การพอร์ตมาจะทำได้ยอดเยี่ยมแทบไม่พบเจอปัญหาอะไรเลย แต่ก็มีครั้งหนึ่งที่เจอกับปัญหาตัวละครตกฉากจนเกมไปต่อไม่ได้ต้องโหลดเซฟใหม่เลยเช่นกัน รวมถึงบั๊กเล็กน้อยแบบตัวจมเข้าไปในฉาก แต่ก็ไม่ได้เยอะจนน่ารำคาญใจ และก็ไม่ได้ชัดอะไรขนาดถ้าไม่มานั่งจับผิดก็คงไม่เจอ ซึ่งถ้ามีอัปเดตมาแก้อีกนิดหน่อยก็น่าจะสมบูรณ์แบบทีเดียว คุณภาพการพอร์ตเกมต้องบอกว่าแม้จะซื้อเดย์วันแบบยังไม่อัปแพตช์ใด ๆ ก็ยังน่าประทับใจสุด ๆ จริง ๆ

God of War PC

สรุป

ตัดเรื่องอื่น ๆ แล้วดูพื้นฐานตัวเกมอย่างเดียว ต้องบอกว่านี่คือเกมแห่งปีที่มีโอกาสมาให้สัมผัสอีกครั้งบนพีซี แค่ตัวกราฟิก การออกแบบศิลป์ การออกแบบเกมเพลย์ เนื้อเรื่อง การพากย์การแสดง คือที่สุดแห่งที่สุดจริง ๆ ขนาดว่ามันคือเกมเมื่อปี 2018 ผ่านมาเกือบ 4 ปีมันก็ยังคงความเจ๋งและความน่าประทับใจเหมือนตอนที่ได้เล่นครั้งแรกอยู่ดี แล้วการมาลงพีซีครั้งนี้ก็มีการเพิ่มรองรับเทคโนโลยีใหม่ ๆ และปรับปรุงคุณภาพกราฟิกอีกหลายอย่าง อาจจะเห็นชัดบ้างไม่ชัดบ้างในเรื่องของความแตกต่าง

God of War PC

แต่มันก็ดูน่าสนใจมากอยู่ดีกับการปลดปล่อยศักยภาพของตัวเกมให้เกินกว่าที่เครื่องคอนโซลเคยกรอบจำกัดไว้ แม้จะขึ้นอยู่ที่กำลังทรัพย์ของแต่ละคนจะไหวด้วย แต่ขั้นแนะนำของมันก็ไม่ได้สูงสุดเอื้่อมอะไรเลย เชียร์ให้มีเทพโล้นซ่ามาประดับไอดีเกมของคุณเอาไว้ก็เป็นศิริมงคลมากอยู่แล้วครับ คุ้มแน่นอน และเผื่อใครชอบจนทนไม่ไหวไปถอยเครื่อง PlayStation เพื่อรอเล่น God of War Ragnarök ที่กำลังจะมาในช่วงปีนี้ด้วย ก็น่าจะยิ่งดีกับทางผู้พัฒนาเกมต่อไปทีเดียว

ที่ติดใจและเสียดายนิด ๆ คืออยากให้ตัวเกมเพิ่มอะไรพิเศษ ๆ ในส่วนของคอนเทนต์สำหรับชาวพีซีเกมเมอร์อีกสักนิดจัง และที่ตั้งตารอเลยคือรอดูว่าชาวม็อดจะมีอะไรมาทำให้ว้าวหลังจากนี้ แน่นอนว่าม็อดแปลไทยเป็นหนึ่งในสิ่งที่คาดหวังที่สุดกับเกมเน้นการเล่าเรื่องมหากาพย์ที่ลอร์ในเกมมากมายเกมนี้

God of War PC

พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส