ทุกคนย่อมอยากเป็นผู้ประสบความสำเร็จ ตั้งเป้าหมายที่สูงเพื่อไปให้ถึง และมีความสมบูรณ์แบบในทุกด้าน แม้ความคิดเหล่านี้จะเป็นแรงผลักดันชั้นดีให้เรากลายเป็นคนมีคุณภาพ แต่ความคาดหวังที่มากเกินไป หรือกลายเป็น Perfectionist ที่ทุกอย่างต้องถูกต้องสมบูรณ์แบบไปเสียหมด อาจสร้างผลกระทบต่อร่างกายและจิตใจของคุณได้เช่นกัน

Perfectionist คืออะไร?

Perfectionist คือ คนที่มีความสมบูรณ์แบบไปทุกด้าน ยึดถือมาตรฐานที่สูงจนบางครั้งแทบเป็นไปไม่ได้ มักคิดว่าสิ่งที่ตนเองทำอาจยังไม่ดีพอ

บางคนเชื่อผิด ๆ ว่าการยึดติดกับความสมบูรณ์แบบจะเป็นตัวกระตุ้นที่ดีในการพัฒนาตนเอง แต่ก็ไม่เป็นเช่นนั้นเสมอไป เพราะความสมบูรณ์แบบสามารถทำให้คุณรู้สึกไม่มีความสุขกับชีวิตส่งผลต่อความสัมพันธ์ส่วนตัว การศึกษา หรือการทำงานของคุณ และสามารถนำไปสู่ภาวะซึมเศร้า วิตกกังวล กินผิดปกติ และทำร้ายตนเองได้ ร้ายแรงกว่านั้นในที่สุดอาจทำให้คุณเลิกพยายามที่จะประสบความสำเร็จ 

ความเป็น Perfectionist สามารถเกิดขึ้นกับวัยหนุ่มสาวเช่นเดียวกับผู้ใหญ่ เพราะเด็กและวัยรุ่นมักถูกผลักดันให้เป็นคนที่ประสบความสำเร็จมากเกินไปในการทำงานที่โรงเรียน รวมถึงกิจกรรมต่าง ๆ เช่น กีฬาสี ชมรม และงานต่าง ๆ สาเหตุเหล่านี้อาจนำไปสู่ความหลงใหลในความสำเร็จ จนบางครั้งอาจกลายเป็นตัวขัดขวางความสามารถในการบรรลุเป้าหมายได้

ลักษณะของคนที่เป็น Perfectionist

อย่างที่บอกว่าความปรารถนาที่จะประสบความสำเร็จ และความสมบูร์แบบเป็นสิ่งที่ดี แต่การตั้งมาตรฐานที่สูงเกินไปจนกดดันตนเอง สามารถสร้างปัญหากับชีวิตคุณได้เช่นกัน โดยลักษณะของคนที่เป็น Perfectionist มีดังนี้

  • รู้สึกเหมือนพยายามทำอะไรก็ล้มเหลวไปหมด
  • ผัดวันประกันพรุ่งเป็นประจำ หรืออาจต่อต้านการเริ่มงานเพราะกลัวว่าจะทำออกมาได้ไม่ดีพอ
  • กลายเป็นผู้ควบคุมความสัมพันธ์ส่วนตัวและในบทบาทการทำงานของตนเองกับเพื่อนร่วมงาน
  • หมกมุ่นอยู่กับกฎและการทำงาน หรือกลายเป็นคนเฉยเมยกับหลาย ๆ เรื่อง 

อะไรที่ทำให้คนกลายเป็น Perfectionist

สาเหตุของคนที่มีความเป็น Perfectionist ไม่ชัดเจนเสมอไป แต่มักเป็นพฤติกรรมที่เรียนรู้จากคนที่มีความสมบูรณ์แบบ พวกเขาจะเชื่อว่าตนเองมีค่าเพียงเพราะสิ่งที่พวกเขาทำมันประสบความสำเร็จ หรือสิ่งที่พวกเขาทำเป็นการทำเพื่อผู้อื่น ‌งานวิจัยบางชิ้นระบุว่าคนที่หลงใหลในความสมบูรณ์แบบมีองค์ประกอบ 3 ประการ ดังนี้:

  • ความสมบูรณ์แบบที่มุ่งเน้นตนเอง
  • ความสมบูรณ์แบบเชิงอื่น ๆ
  • ความสมบูรณ์แบบที่กำหนดโดยสังคม

แต่ไม่ว่าจะมีบุคลิก Perfectionist ประเภทไหน ก็มักจะวางมาตรฐานที่แข็งกร้าวกับตนเอง และอาจคิดว่านี่เป็นสิ่งจำเป็นในการทำให้ตนเองหรือคนอื่นพอใจ และเพื่อให้คนอื่นมองว่าตนเองนั้นสมบูรณ์แบบไปทุกด้าน

ผลกระทบจากการเป็น Perfectionist

1.ผลผลิตของงานลดลง

‌ผลอย่างหนึ่งของความเป็น Perfectionist คือการผัดวันประกันพรุ่ง อาจเพราะคุณมองว่าทุกอย่างต้องเป็นระบบระเบียบ รวมถึงคิดแนวทางในการสู่ความสำเร็จที่มากเกินไป การคิดแบบนี้ในบางครั้งอาจทำให้งานของคุณไม่ก้าวไปไหน หรือทำให้ผลิตชิ้นงานออกมาได้น้อยและไม่มีประสิทธิภาพมากกว่าเดิม ที่สำคัญอาจเกิดความเครียดที่เพิ่มมากขึ้น

คุณอาจจมปลักอยู่กับสิ่งที่คุณพยายามทำให้สมบูรณ์แบบจนคุณไม่ได้ทำมันเลย หรือคุณอาจจะเลื่อนโครงการบางอย่างออกไปเพราะคุณกังวลว่าโครงการจะไม่สมบูรณ์แบบ

2.มีปัญหาด้านอารมณ์

หากคุณเป็น Perfectionist คุณมักจะกดดันตนเองอย่างมาก หรือคุณจะรับรู้ถึงแรงกดดันจากผู้ที่อยู่ในชีวิตหรือสังคมของคุณ ซึ่งทั้งหมดนี้ล้วนก่อให้เกิดความเครียดได้มากมาย และในสถานการณ์ที่มีความเครียดสูง คุณอาจมีความเสี่ยงต่อปัญหาอื่น ๆ ‌ได้แก่

  • ความวิตกกังวลและภาวะซึมเศร้า
  • ความคิดฆ่าตัวตาย
  • ความเหงา
  • ใจร้อนและหงุดหงิดง่าย
  • โกรธง่าย
  • ชอบครอบงำและบังคับผู้อื่น

3.ความวิตกกังวลและภาวะซึมเศร้า

‌การเป็น Perfectionist สามารถทำให้เกิดความวิตกกังวลและภาวะซึมเศร้าได้ เนื่องจากความเครียดและความวิตกกังวลก่อตัวขึ้นเมื่อคุณไม่สามารถปฏิบัติตามมาตรฐานระดับสูงที่คุณตั้งไว้ คุณจึงอาจรู้สึกหดหู่โดยอาการเหล่านี้อาจเป็นอันตรายอย่างยิ่ง โดยเฉพาะหากคุณมีความคิดฆ่าตัวตายหรือรู้สึกไร้ค่า อารมณ์ด้านลบเหล่านี้อาจเป็นอันตรายได้ 

4.ปัญหาสุขภาพร่างกาย

‌ผู้ที่เป็น Perfectionist อาจประสบกับความผิดปกติด้านสุขอนามัยและสุขภาพ ในกรณีที่รุนแรงอาจมีความผิดปกติในการรับประทานอาหาร เช่น คุณรู้สึกว่าจำเป็นต้องควบคุมอาหารอย่างสมบูรณ์แบบและเข้มงวด แนวโน้มของผู้ชอบความสมบูรณ์แบบมักจะวนเวียนอยู่กับการควบคุม และเมื่อคุณสูญเสียการควบคุมอาจเกิดปัญหาสุขภาพจิตอื่น ๆ ตามมาได้

5.ความสัมพันธ์ที่ตึงเครียด

‌ผลอีกประการหนึ่งของผู้ที่นิยมความสมบูรณ์แบบ คือความสัมพันธ์กับครอบครัวหรือเพื่อนค่อนข้างตึงเครียด โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากคุณตั้งมาตรฐานสูงกับคนที่คุณรัก สิ่งนี้จะเพิ่มความเครียดและความกดดันให้กับความสัมพันธ์ของคุณและอาจทำให้ความสัมพันธ์ล้มเหลวได้

รวมไปถึงการต้องการความสมบูรณ์แบบจากเพื่อน หรือเพื่อนร่วมงาน โดยทั่วไปแล้วคุณไม่สามารถยัดเยียดควาดคิดนี้สำหรับคนอื่นได้ แต่เมื่อคุณนำกระบวนการคิดนี้มาใช้ในความสัมพันธ์ หมายความว่าคุณกำลังตัดสินอีกฝ่ายพอ ๆ กับที่คุณตัดสินตนเอง และนั่นจะส่งผลลบต่อความสัมพันธ์ของคุณกับผู้อื่น

6.ไม่อยู่กับปัจจุบัน

ข้อเสียอีกประการหนึ่งของ Perfectionist คือ มักไม่อยู่กับปัจจุบัน เพราะวิตกกังวลหรือวิพากษ์วิจารณ์สิ่งที่เกิดขึ้นรอบตัว คุณอาจกังวลเกี่ยวกับการตัดสินใจในอนาคตหรือย้อนนึกถึงสิ่งที่เกิดขึ้นในเมื่อวาน และไม่ว่าจะด้วยวิธีใด คุณไม่ได้จดจ่ออยู่กับปัจจุบันที่อยู่ตรงหน้า นั่นเป็นข้อจำกัดอีกอย่างหนึ่งที่นำไปสู่การผัดวันประกันพรุ่งและการเกลียดตัวเอง

ทำอย่างไรเมื่อการเป็น Perfectionist กระทบต่อชีวิต

หากคุณมีความเป็น Perfectionist คุณมักพยายามปกปิดปัญหาส่วนตัว จึงอาจทำให้การรักษายากขึ้น แต่อย่าลืมว่าสิ่งสำคัญคือต้องขอความช่วยเหลือทันทีที่คุณต้องการ โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากความเป็น Perfectionist รบกวนการใช้ชีวิตและมีความสุขของคุณ ให้ปรึกษาแพทย์หรือผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพจิต  และหากคุณกำลังคิดที่จะทำร้ายตนเองหรือผู้อื่น ให้รีบไปพบแพทย์โดยด่วน

นอกจากนี้ วิธีการบำบัดทางความคิดและพฤติกรรม อาจช่วยให้คุณเรียนรู้วิธีคิดใหม่ ๆ เกี่ยวกับเป้าหมายและความสำเร็จของคุณได้ โดยคุณสามารถลดความต้องการที่จะสมบูรณ์แบบได้ด้วยวิธีต่อไปนี้

  • กำหนดเป้าหมายที่เป็นจริงและบรรลุผลได้
  • แบ่งงานที่ท่วมท้นออกเป็นขั้นตอนย่อย ๆ
  • มุ่งเน้นไปที่ 1 กิจกรรม หรือ 1 งานในแต่ละครั้ง
  • ยอมรับว่าทุกคนทำผิดพลาดได้
  • ตระหนักว่าข้อผิดพลาดส่วนใหญ่คือโอกาสในการเรียนรู้
  • เผชิญหน้ากับความกลัวที่จะล้มเหลว โดยคงความเป็นจริงเกี่ยวกับผลลัพธ์ที่เป็นไปได้

แม้ว่าความสมบูรณ์แบบจะกลายเป็นเหมือนหนทางนำคุณไปสู่การบรรลุผลสำเร็จ แต่บางครั้งความต้องการที่จะสมบูรณ์แบบมากเกินไป อาจกำลังนำพาปัญหามาสู่คุณทีละนิดโดยที่คุณอาจไม่รู้ตัว สิ่งที่ดีที่สุดคือการที่คุณรู้เท่าทันอารมณ์ของตนเอง และยอมรับว่าคนเราสามารถผิดพลาดกันได้ ไม่จำเป็นต้องสมบูรณ์แบบ หรือเป็น Perfectionist ตลอดเวลา ที่สำคัญไม่ลืมที่จะใส่ใจความรู้สึกและความสุขของตนเองเท่านี้ก็เพียงพอแล้ว

ที่มา webmd , healthline

พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส