หลังเกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์ในโซเชียลถึงกรณีผู้โดยสารคนไทยได้เดินทางด้วยสายการบินชื่อดัง ต่อมาพบว่ามีของสูญหาย และพนักงานต้อนรับบนเครื่องไม่ได้ปลุกให้ตนตื่น ทำให้ตนนอนราบตั้งแต่ขึ้นเครื่องจนกระทั่งเครื่องลงจอด ซึ่งเป็นที่ถกเถียงถึงประเด็นความปลอดภัยของของพนักงานต้อนรับต่อผู้โดยสารว่าถือเป็นการกระทำที่หละหลวมต่อหน้าที่ และไม่ปฏิบัติตามกฎความปลอดภัยของสายการบินหรือไม่ ?

Passengers in an economy class airplane

ความปลอดภัยคือมาตรฐานหลักของทุกสายการบิน

หลายคนที่มีประสบการณ์ในการเดินทางด้วยเครื่องบิน อาจจะได้รับการดูแลที่แตกต่างกันออกไปในแต่ละรูปแบบของเที่ยวบิน แต่มีสิ่งหนึ่งที่เป็นมาตรฐานของทุกสายการบินเสมอ นั่นคือเรื่องความปลอดภัย ซึ่งถือเป็นหัวใจหลักและสิ่งที่ผู้ให้บริการสายการบินต้องฝึกอบรมผู้ที่เกี่ยวข้องให้พร้อมต่อการดูแลผู้โดยสารในทุกสถานการณ์ โดยเฉพาะเมื่อต้องรับมือกับเหตุฉุกเฉิน พนักงานต้อนรับคือผู้ที่อยู่ใกล้ชิดและต้องให้ความช่วยเหลือผู้โดยสารอย่างทันท่วงที

โดยปกติ ก่อนเครื่องบินจะขึ้นบิน ทางพนักงานต้อนรับบนเครื่องจะให้ผู้โดยสารปฏิบัติตามคำแนะนำ และการสาธิตการใช้งานอุปกรณ์ต่าง ๆ อาทิ การใช้ที่รัดเข็มขัด (Seatbelt), การใส่ท่อออกซิเจน, การสวมชูชีพ และการใช้ประตูทางออกฉุกเฉิน เป็นต้น

ซึ่งพนักงานต้อนรับบนเครื่องจะเป็นผู้ตรวจตราดูแลผู้โดยสารให้อยู่ในระเบียบของความปลอดภัยตามข้อกำหนดของสายการบิน กล่าวโดยรวมคือ แม้จะไม่ได้มีข้อกำหนดชัดเจนว่าผู้ปฏิบัติงานต้อนรับต้องปลุกหรือไม่ปลุกผู้โดยสารระหว่างการเดินทาง แต่หากสิ่งนั้นเกี่ยวข้องกับความปลอดภัย ก็ย่อมรวมอยู่ในความรับผิดชอบของผู้ปฏิบัติงาน

ช่วงที่เสี่ยงอันตรายที่สุดของการเดินทางด้วยเครื่องบิน

การบินของเครื่องบินถูกแบ่งเป็นหลายช่วง ได้แก่ การขึ้น (Take off), การไต่ระดับเบื้องต้น (Initial Climb), การบินตามเส้นทางหรือการบินในระดับความสูงคงที่ (En Route or Cruise), การเข้าใกล้สนามบิน (Approach) และการลงจอด (Landing)

ช่วงการขึ้น, การเข้าใกล้สนามบิน และการลงจอด เป็นช่วงที่อันตรายที่สุด การศึกษาของ Boeing พบว่า ระหว่างปี 2012 ถึง 2021 ประมาณ 67% ของอุบัติเหตุร้ายแรงทั้งหมดที่เกี่ยวข้องกับเครื่องบิน Boeing เกิดขึ้นในช่วงเหล่านี้ จากรายงานการศึกษาของ Airbus ก็ได้สรุปว่า อุบัติเหตุส่วนใหญ่ในช่วง 20 ปีที่ผ่านมา เกิดขึ้นระหว่างช่วงเข้าใกล้สนามบินและการลงจอด ซึ่งเป็นช่วงที่อาจมีเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดเกิดขึ้น

อีกทั้งระหว่างที่อยู่บนเครื่องอาจเกิดภาวะตกหลุมอากาศจากสภาพอากาศที่ไม่สามารถควบคุมได้ ดังนั้นในกรณีนี้ การปรับเบาะให้ตั้งตรงและคาดเข็มขัดนิรภัยเป็นสิ่งที่สำคัญมาก เพื่อป้องกันไม่ให้ผู้โดยสารได้รับบาดเจ็บหรืออันตราย หากรู้ล่วงหน้าว่าจะต้องเผชิญกับหลุมอากาศ นักบินจะประกาศเพื่อให้ผู้โดยสารทราบก่อน และพนักงานต้อนรับต้องเดินตรวจสอบความเรียบร้อยของผู้โดยสารแต่ละที่นั่ง เพื่อให้มั่นใจว่าจะไม่มีผู้โดยสารคนใดที่เสี่ยงเกิดอันตราย

เวลาไหนที่ควรคาดเข็ดขัดนิรภัยเพื่อความปลอดภัย

สำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย แนะนำว่าควรคาดเข็มขัดนิรภัยตลอดเวลาที่นั่งอยู่กับที่ในเครื่องบิน ดังนี้

  1. ระหว่างเครื่องบินขึ้นและลง (Take off & Landing) ตามสถิติช่วงเวลานี้ เป็นช่วงที่มีแนวโน้มเกิดอุบัติเหตุบ่อยที่สุดระหว่างเที่ยวบิน ผู้โดยสารจึงควรคาดเข็มขัดนิรภัยตลอดเวลาที่มีสัญญาณแจ้งรัดเข็มขัด
  1. บินอยู่ที่ระดับความสูง (Cruising) ผู้โดยสารยังควรรัดเข็มขัดนิรภัยตลอดเวลาในขณะที่นั่งอยู่กับที่ แม้สัญญาณรัดเข็มขัดในเครื่องบินจะดับแล้ว เพราะเครื่องบินสามารถตกหลุมอากาศได้ทุกเมื่อ ซึ่งอาจจะทำให้ผู้โดยสารลอยขึ้นไปกระแทกกับส่วนต่าง ๆ ของเครื่องบินได้ 
  1. หลังจากเครื่องบินลงถึงพื้นดินแล้ว (After landing) แม้เครื่องบินจะลงถึงพื้นดินและความเร็วของเครื่องบินลดลงแล้ว แต่ยังมีระยะทางที่ต้องขับเคลื่อนไปยังหลุมจอด ซึ่งอาจเกิดเหตุการณ์ที่ทำให้ต้องเบรกกะทันหันได้ “ผู้โดยสารจึงยังต้องรัดเข็มขัดจนกว่าเครื่องบินจะจอดสนิทและสัญญาณรัดเข็มขัดดับลง”

อย่างไรก็ตาม แม้จะมีคำแนะนำให้คาดเข็มขัดตลอดเวลา แต่หลายคนมักคาดเพียงช่วงสำคัญที่มีความเสี่ยงสูงเท่านั้น หรือคาดตามสัญญาณแจ้งเตือนของสายการบิน ทำให้บางช่วงผู้โดยสารปลดเข็มขัดออก โดยเฉพาะเมื่อนอนบนไฟลต์ที่ใช้ระยะเวลาบินนานหลายชั่วโมง ทำให้จะต้องมีพนักงานต้อนรับคอยเตือนเพื่อให้ผู้โดยสารรู้สึกตัวและตื่นขึ้นมาคาดเข็มขัดนิรภัยให้ถูกต้อง

เหตุผลที่ต้องปรับที่นั่งเครื่องบินให้ตั้งตรง

อย่างที่เราคุ้นเคยกันดีกับคำขอจากพนักงานต้อนรับบนเครื่องบินที่ให้ปรับพนักพิงเบาะนั่งและโต๊ะถาดให้อยู่ในตำแหน่งตั้งตรงก่อนเครื่องขึ้นและลง นี่ไม่ใช่แค่ความรับผิดชอบของสายการบิน แต่เป็นข้อกำหนดที่จำเป็นอย่างยิ่งด้านความปลอดภัยในการบิน ซึ่งมีผลบังคับใช้ตามกฎหมายของรัฐบาลกลางสหรัฐอเมริกา (U.S. Code of Federal Regulations, Part 121)

เหตุผลที่ต้องปรับเบาะตั้งตรงมี 2 สาเหตุหลัก ๆ คือ

 1. ความแข็งแรงและปลอดภัย

เบาะนั่งถูกออกแบบและสร้างมาให้มีความมั่นคงและให้การรองรับโครงสร้างได้มากที่สุดในระหว่างที่อาจเกิดการกระแทกเมื่ออยู่ในตำแหน่งตั้งตรง

2. เพื่อความรวดเร็วในการอพยพ

ในกรณีฉุกเฉินทุกวินาทีมีความสำคัญอย่างยิ่งที่นั่งที่เอนจะกีดขวางทางและเพิ่มเวลาที่ต้องใช้ในการอพยพผู้โดยสารออกจากเครื่องบินอย่างเหมาะสม

สุดท้ายนี้เพื่อความปลอดภัย ผู้โดยสารเองจะต้องปฏิบัติตามกฎหรือข้อกำหนดของสายการบิน และคำแนะนำของพนักงานต้อนรับอย่างเคร่งครัด ซึ่งจะเป็นวิธีป้องกันอันตราย รวมไปถึงลดความเสี่ยงที่อาจจะเกิดขึ้นได้ อย่างไรก็ตามในส่วนของพนักงานต้อนรับที่ถูกฝึกอบรมอย่างหนักเพื่อดูแลความปลอดภัยของผู้โดยสาร จะต้องตรวจสอบความเรียบร้อยและความปลอดภัยของผู้โดยสารในการเดินทางตั้งแต่ขึ้นเครื่องจนถึงปลายทางโดยสวัสดิภาพ