โรคลมหลับ (Narcolepsy) เป็นโรคเกี่ยวกับการนอนหลับที่ทำให้คนง่วงนอนมากในระหว่างวัน ผู้ที่เป็นโรคลมหลับจะพบว่าการตื่นนอนเป็นเรื่องที่ยาก และพวกเขามักผล็อยหลับไปในทันที สิ่งนี้อาจทำให้เกิดปัญหาร้ายแรงในการใช้ชีวิตประจำวันได้

แม้ว่าโรคลมหลับจะเป็นภาวะที่เป็นมาตลอดชีวิตซึ่งไม่มีทางรักษาให้หายขาดได้ แต่อย่างไรก็ตาม ยาและการเปลี่ยนแปลงวิถีชีวิตสามารถช่วยจัดการกับอาการได้ พร้อมทั้งการสนับสนุนจากผู้อื่น เช่น ครอบครัว เพื่อน หัวหน้า และครู สามารถช่วยให้ผู้ป่วยรับมือกับโรคนี้ได้

สาเหตุของโรคลมหลับ

ปัจจุบันยังไม่ทราบสาเหตุที่แท้จริงของโรคลมหลับ แต่จากการศึกษาพบว่าอาจเกิดจากสารเคมีในสมองที่ช่วยควบคุมการตื่นนอนชื่อว่า Hypocretin มีระดับต่ำ นอกจากนี้ยังอาจเป็นไปได้ว่าพันธุกรรมมีบทบาทในการทำให้เกิดโรคลมหลับ

อาการของโรคลมหลับ

1.ผู้ป่วยเป็นโรคลมหลับมักง่วงนอนในตอนกลางวันมากเกินไป และไม่มีสัญญาณเตือนล่วงหน้า สามารถเกิดขึ้นได้ทุกที่และทุกเวลา อาจเกิดขึ้นเมื่อคุณรู้สึกเบื่อหรือระหว่างทำงาน เช่น คุณอาจกำลังทำงานหรือพูดคุยกับเพื่อน ๆ อยู่แล้วผล็อยหลับไป ซึ่งอาจเป็นอันตรายอย่างยิ่งหากคุณเผลอหลับขณะขับรถ คุณอาจเผลอหลับไปเพียงไม่กี่นาทีหรือนานถึงครึ่งชั่วโมง แม้หลังตื่นมักจะรู้สึกสดชื่นแต่สักพักก็จะง่วงอีก

นอกจากนี้ คุณยังอาจรู้สึกตื่นตัวและมีสมาธิน้อยลงในระหว่างวัน อาการง่วงนอนในตอนกลางวันมักเป็นอาการแรกที่ปรากฏขึ้น จากนั้นจะทำให้ไม่มีสมาธิและทำงานได้ยาก

ขณะที่บางคนที่เป็นโรคลมหลับยังคงทำงานต่อไปได้แม้ผล็อยหลับไปชั่วขณะ เช่น คุณอาจเผลอหลับขณะเขียน พิมพ์งาน และอาจทำงานนั้นต่อไปในขณะที่หลับ แต่เมื่อคุณตื่นขึ้นคุณจะจำไม่ได้ว่าคุณทำอะไรลงไป และคุณอาจทำได้ไม่ดีนัก

2.การสูญเสียความแข็งแรงของกล้ามเนื้ออย่างกะทันหัน เรียกว่า Cataplexy อาจทำให้พูดไม่ชัดหรือกล้ามเนื้อส่วนใหญ่อ่อนแรง อาการอาจใช้เวลาไม่กี่นาที

นอกจากนี้ ผู้ป่วยโรคลมหลับที่มีอาการกล้ามเนื้ออ่อนแรง อาจมีอาการคอตกเวลาที่อารมณ์เปลี่ยนแปลง เช่น เมื่อคุณหัวเราะ ศีรษะและคอของคุณอาจตกอย่างไม่สามารถควบคุมได้ หรือเข่าของคุณอาจสูญเสียความแข็งแรง และล้มลงอย่างกะทันหัน 

3.มีอาการคล้ายกับการถูกผีอำ คือ ภาวะที่ร่างกายเป็นอัมพาตขณะนอนหลับ ไม่สามารถขยับตัวได้ โดยปกติแล้วจะเป็นช่วงเวลาสั้น ๆ ไม่กี่วินาทีหรือหลายนาที แต่มันอาจจะน่ากลัว คุณอาจจะรู้ตัวว่ากำลังเกิดอะไรขึ้นและระลึกได้ในภายหลัง

4.มีอาการภาพหลอน (Hypnagogic hallucination) เป็นการเห็นภาพหลอนขณะนอนหลับ เช่น มองเห็นปีศาจ หรือสิ่งน่ากลัวต่าง ๆ

นอกจากนี้ ยังมีลักษณะอาการอื่น ๆ เช่น อาจมีภาวะหยุดหายใจขณะหลับจากการอุดกั้น ซึ่งการหายใจจะเริ่มขึ้นและหยุดลงในตอนกลางคืน หรืออาจมีปัญหาในการนอนหลับหรือหลับไม่สนิท เรียกว่า โรคนอนไม่หลับ

ผลกระทบของโรคลมหลับ

ปกติแล้วโรคลมหลับมักเริ่มขึ้นระหว่างอายุ 10-30 ปี โดยอาจส่งผลกระทบโดยทั่วไป ดังนี้

1.โรคลมหลับอาจทำให้เกิดปัญหาในที่ทำงานหรือในชีวิตส่วนตัวของคุณ ประสิทธิภาพการทำงานของคุณอาจลดลง รวมทั้งคนอื่นอาจมองว่าคนที่เป็นโรคลมหลับเป็นคนขี้เกียจหรือเซื่องซึม และส่งผลกระทบต่อความสัมพันธ์กับบุคคลใกล้ชิดตามมา 

2.ความรู้สึกที่รุนแรง เช่น ความโกรธหรือความยินดี สามารถกระตุ้นให้เกิด Cataplexy ได้

3.ทำร้ายร่างกาย การหลับกะทันหันอาจส่งผลให้เกิดการบาดเจ็บได้ เพราะคุณมีความเสี่ยงที่จะเกิดอุบัติเหตุทางรถยนต์มากขึ้นหากคุณเผลอหลับขณะขับรถ และความเสี่ยงที่จะถูกมีดบาด หรือไฟไหม้มากขึ้นหากคุณเผลอหลับขณะทำอาหาร

4.โรคอ้วน ผู้ที่เป็นโรคลมหลับมักจะมีน้ำหนักเกิน บางครั้งน้ำหนักจะเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วเมื่อเริ่มมีอาการง่วงนอน

จะดูแลตนเองหรือจัดการกับอาการอย่างไร ?

คุณไม่ควรพยายามวินิจฉัยและรักษาโรคลมหลับด้วยตนเอง นั่นเป็นเพราะอาการของภาวะนี้มักเกิดร่วมกับภาวะอื่น ๆ เช่น ภาวะหยุดหายใจขณะหลับ หรือโรคลมบ้าหมู ซึ่งเป็นอันตรายเช่นกัน ภาวะนี้อาจทำให้กิจกรรมบางอย่าง เช่น การขับรถหรือว่ายน้ำเป็นอันตรายได้ ดังนั้นคุณควรพบแพทย์เพื่อรับการวินิจฉัยและรักษา โดยระยะเวลาฟื้นตัวหรือระยะเวลาที่รู้สึกถึงผลของการรักษาจะขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย 

คนส่วนใหญ่ที่เป็นโรคลมหลับจะมีอาการดีขึ้นจากการรักษา และการปรับพฤติกรรมเกี่ยวกับการนอนก็ช่วยได้เช่นกัน แม้ว่าจะไม่สามารถป้องกันอาการโรคลมหลับได้เสมอไป แต่หลาย ๆ คนก็สามารถจัดการกับอาการนี้และปรับตัวให้เข้ากับผลกระทบส่วนใหญ่ได้

อย่างไรก็ตาม หากคุณมีอาการง่วงนอนตอนกลางวันมากเกินไป ซึ่งส่งผลต่อชีวิตส่วนตัวหรือการทำงานของคุณให้รีบปรึกษาแพทย์เพื่อทำการรักษาทันที

ที่มา mayoclinic , clevelandclinic

พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส