ติ๊กต็อก (TikTok) ตอกย้ำความมุ่งมั่นของการเป็นแพลตฟอร์มที่รวบรวมเนื้อหาและพื้นที่ทางการค้าเข้าไว้ด้วยกัน ผ่านการนำเสนอเครื่องมือบนแพลตฟอร์มที่ช่วยส่งเสริมประสบการณ์ในการจับจ่ายใช้สอยให้กับผู้ใช้ ซึ่งถูกขับเคลื่อนด้วยคอนเทนต์ที่สนุกสนานสร้างความบันเทิง พร้อมเปิดช่องทางให้ผู้ใช้ได้ค้นพบสินค้าใหม่ ๆ และแหล่งข้อมูลที่จะช่วยในการตัดสินใจซื้อครั้งถัดไป

ซึ่งทางติ๊กต็อกจะมี ติ๊กต็อก ช็อป (TikTok Shop) พื้นที่ที่รวบรวมการซื้อขายสินค้าไว้ได้อย่างราบรื่นและไร้รอยต่อ ทำให้ผู้ใช้สามารถซื้อสินค้าให้เสร็จสมบูรณ์ได้ในแพลตฟอร์มเดียว ซึ่งกลายเป็นทางเลือกที่สะดวกและง่ายยิ่งขึ้นสำหรับผู้ใช้จำนวน 85% ที่ต้องสลับแอปพลิเคชันระหว่างเส้นทางการซื้อสินค้าออนไลน์

ติ๊กต็อกสร้างประสบการณ์ความบันเทิงในระหว่างการช้อปปิ้งหรือ Shoppertainment ให้เกิดขึ้นจริงได้บนแพลตฟอร์ม โดยมีผู้ใช้เข้าถึงแพลตฟอร์มกว่า 325 ล้านคนในแต่ละเดือนและให้การสนับสนุนภาคธุรกิจกว่า 15 ล้านธุรกิจทั่วภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

เทรนด์ใหม่แห่งการชอปปิงนี้ได้เปิดโอกาสครั้งใหญ่เมื่อความต้องการของผู้ใช้ได้เปลี่ยนแปลงไป งานวิจัยจาก BCG พบว่า เทรนด์นี้จะนำมาซึ่งโอกาสทางธุรกิจกว่า 1 ล้านล้านเหรียญทั่วภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกภายในปี 2025 และสำหรับประเทศไทยก็เล็งเห็นถึงโอกาสการเติบโตสูงถึง 12,400 ล้านเหรียญ
ซึ่งนับว่าเป็นโอกาสครั้งสำคัญในปัจจุบัน

นอกจากนี้ ติ๊กต็อกยังมีการเปิดเผยข้อมูลที่น่าสนใจอีกมากมาย อาทิ

  • ปัจจุบัน การซื้อสินค้าถูกขับเคลื่อนด้วยคอนเทนต์ความบันเทิง จากผลวิจัยพบว่า 77% ของผู้บริโภค ซื้อสินค้าจากอิทธิพลของคอนเทนต์ที่สร้างความสนุกสนานและบันเทิง ในขณะที่ 2 ใน 3 ของผู้บริโภคที่ซื้อสินค้าครั้งแรก ตัดสินใจซื้อสินค้าจากความต้องการทางอารมณ์และจิตใจ
  • จากงานวิจัยพบว่า 6 ใน 10 ของผู้บริโภคกล่าวว่า การรับชมคอนเทนต์
    ของแบรนด์ ไม่ได้กระตุ้นให้พวกเขาต้องการซื้อสินค้า และในขณะเดียวกัน 34% ของผู้บริโภค ตั้งคำถามเกี่ยวกับคอนเทนต์ของแบรนด์และนั่นทำให้พวกตัดสินใจไม่ซื้อสินค้านั้น
  • งานวิจัยแสดงให้เห็นว่า 70% ของผู้บริโภคเชื่อในคอนเทนต์บนติ๊กต็อกและนำไปสู่การตัดสินใจซื้อสินค้า ส่วน 1 ใน 4 ของผู้บริโภคบนติ๊กต็อกพิจารณาซื้อสินค้าบนติ๊กต็อก ช็อป เพราะคอนเทนต์ความบันเทิงจากเหล่าครีเอเตอร์ ผู้มีชื่อเสียง และแบรนด์
  • ความบันเทิงบนแพลตฟอร์มติ๊กต็อกผลักดันให้เกิดการค้นพบสินค้าใหม่ ๆ จนเกิดเป็นวัฒนธรรมของการค้นพบสินค้าผ่านการแนะนำที่ได้รวบรวมคอมมูนิตี้ความบันเทิง และช่องทางในการซื้อสินค้าเข้าไว้ด้วยกันบนแพลตฟอร์ม
  • จากรายงานพบว่า 97% ของผู้ใช้ติ๊กต็อกมีการจับจ่ายใช้สอยในเทศกาล Mega Sales หลังการรับชมโฆษณาบนติ๊กต็อก และมีความพร้อมที่จะใช้จ่ายในเทศกาล Mega Sales สูงกว่าผู้ที่ไม่ได้ใช้งาน ติ๊กต็อกถึง 3.5 เท่า โดยคิดเป็นจำนวนเงินเฉลี่ยอยู่ที่ 10,000 – 17,600 บาท 

สิรินิธิ์ วิรยศิริ Head of Business Marketing – Thailand ของ TikTok กล่าวว่า “Shoppertainment ได้
กลายมาเป็นยุคใหม่ของการขายออนไลน์ และภายในปี 2025 คาดว่า Shoppertianment จะสามารถปลดล็อกโอกาสทางธุรกิจมูลค่ากว่า 1 ล้านล้านเหรียญทั่วภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ถึงเวลาในการจุดประกาย Shoppertainment บนแพลตฟอร์ม TikTok เพื่อมอบประสบการณ์การช้อปปิ้งที่เสมือนจริงและไร้ขีดจำกัดให้กับผู้บริโภค”

“ผู้ใช้ TikTok กำลังมองหาประสบการณ์การช้อปปิ้งที่ลื่นไหลและไร้รอยต่อ ซึ่งเกิดขึ้นเฉพาะบนแพลตฟอร์ม TikTok พื้นที่ที่ความบันเทิงและการค้าเกิดขึ้นในเวลาเดียวกันอย่างไร้รอยต่อ โดยเทศกาล Mega Sales ที่กำลังจะมาถึงนี้ถือเป็นโอกาสครั้งสำคัญสำหรับแบรนด์ เพราะผู้บริโภคเตรียมพร้อมที่จะตอบรับกับข้อเสนอที่ดีที่สุดในการชอปปิง ถึงเวลาแล้วที่แบรนด์จะได้ทดลอง เรียนรู้ และนำโซลูชันต่าง ๆ ที่จะช่วยผลักดันการเติบโตและการตลาดที่มีประสิทธิภาพให้กับแบรนด์”

พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส