ใครที่ใช้บริการตู้ฝากเงินสดอัตโนมัติ หรือ CDM บ่อย ๆ ต้องรู้ เพราะตั้งแต่วันที่ 11 พฤศจิกายน 2566 การฝากเงินสดผ่านตู้อัตโนมัติของทุกธนาคาร จะต้องกรอกเลข 13 หลัก หรือเสียบบัตร ATM ยืนยันตัวตนก่อนทุกครั้ง เพื่อให้สามารถตรวจสอบเส้นทางการเงินได้ทั้งผู้รับและผู้โอน

หลังจากมีการใช้วิธีฝากเงินผ่านตู้ CDM เป็นช่องทางฟอกเงินที่ได้จากการก่ออาชญากรรม ยาเสพติด และการพนัน รวมถึงการหลอกลวงทางการเงิน และสนับสนุนทางการเงินแก่การก่อการร้าย เพื่อส่งผ่านไปยังผู้กระทำผิด โดยไม่สามารถตรวจสอบเส้นทางการเงิน และไม่สามารถนำตัวผู้กระทำผิดที่แท้จริงมาลงโทษได้

ทุกสถาบันการเงิน ต้องจัดให้ลูกค้าแสดงตนก่อนการทำธุรกรรม ตามกฎหมายว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน โดยการทำธุรกรรมเงินสดผ่านเครื่องฝากเงินตู้ CDM ต้องสามารถตรวจสอบได้ทั้งต้นทางและปลายทาง เพื่อเพิ่มความปลอดภัยและความมั่นใจให้กับประชาชนในการทำธุรกรรม ตลอดจนสร้างภูมิคุ้มกันให้กับระบบการเงิน

สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) และ สมาคมธนาคารไทย จึงได้ร่วมกันพิจารณาวิธีการแสดงตนของผู้ฝากเงินสดผ่านตู้ CDM โดยคำนึงถึงความสะดวกของผู้ใช้บริการ และไม่สร้างภาระค่าใช้จ่ายเกินความจำเป็น

โดยการแสดงตนผ่านตู้ CDM สามารถทำได้ 2 รูปแบบ คือ

  1. ผู้ฝากเงินใส่หมายเลขประจำตัวประชาชน 13 หลักของตน หมายเลขโทรศัพท์มือถือและรหัส OTP (One-Time Password) ที่ได้รับ โดยมีวงเงินฝากสูงสุด 30,000 บาท ต่อครั้ง (รวมค่าธรรมเนียม)
  2. ผู้ฝากเงินใช้บัตรเอทีเอ็ม บัตรเดบิต หรือบัตรเครดิตของตน ร่วมกับรหัสส่วนตัว (PIN) โดยมีวงเงินฝากสูงสุด 100,000 บาท ต่อครั้ง (รวมค่าธรรมเนียม)

ทั้งนี้  การแสดงตนที่ตู้ CDM ด้วยวิธีการดังกล่าว จะเริ่มใช้ตั้งแต่วันที่ 11 พฤศจิกายน 2566 เป็นต้นไป  โดยในระยะต่อไป ปปง. ธปท. และสมาคมธนาคารไทย จะประเมินผลการดำเนินการ เพื่อพัฒนาทางเลือกอื่น ๆ เพิ่มเติมต่อไป  ซึ่งรายละเอียดและเงื่อนไขการให้บริการสามารถศึกษาได้ที่เว็บไซต์ธนาคาร หรือ สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ Call Center ของธนาคารที่ใช้บริการ

พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส