ทันทีที่มีการประกาศยุบสภา คำถามสำคัญที่เกิดขึ้นในหมู่ประชาชนคือสถานะของโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจที่หลายคนตั้งตารออย่าง “โครงการคนละครึ่งพลัส เฟส 2” จะเป็นอย่างไร ?

ล่าสุดวันนี้ (12 ธันวาคม 2568) ได้รับคำตอบที่ชวนให้ผิดหวัง เมื่อนายภราดร ปริศนานันทกุล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ได้ออกมาชี้แจงยืนยันว่า โครงการดังกล่าวต้องพับไว้ก่อน ด้านนายบวรศักดิ์ อุวรรณโณ รองนายกรัฐมนตรี ฝ่ายกฎหมาย บอกยังมีหวังรอเข้าประชุม กกต. 15 ธันวาคมนี้

“คนละครึ่งพลัส” เป็นโครงการที่ประสบความสำเร็จและได้รับผลตอบรับอย่างดีตั้งแต่เฟสแรก และถูกคาดหวังว่าจะช่วยลดภาระค่าครองชีพ รวมถึงกระตุ้นเศรษฐกิจได้อีกครั้งในเฟสที่ 2 โดยเฉพาะสำหรับผู้ที่ตกหล่นจากสิทธิ์เดิม แม้ว่าก่อนหน้าที่จะมีการยุบสภาเพียงไม่กี่วัน โครงการนี้กำลังจะถูกนำเสนอเข้าสู่การพิจารณาของคณะรัฐมนตรี (ครม.) ก็ตาม

ทำไม “คนละครึ่งพลัส เฟส 2” ถึงไปต่อไม่ได้ในรัฐบาลรักษาการ

เหตุผลสำคัญที่ทำให้โครงการนี้ไปต่อไม่ได้ เนื่องจากการยุบสภาครั้งนี้ส่งผลให้รัฐบาลอนุทิน เปลี่ยนสถานะเป็น “รัฐบาลรักษาการ” โดยมีหน้าที่ในการบริหารบ้านเมืองในช่วงที่ยังรอการจัดตั้งรัฐบาลชุดใหม่หลังจากการเลือกตั้ง เพื่อไม่ให้การบริหารบ้านเมืองเกิดการชะงัก

แม้ว่าในฐานะรัฐบาลรักษาการนั้น ครม. ชุดเดิมจะยังคงปฏิบัติหน้าที่ต่อไปจนกว่า ครม. ชุดใหม่จะเข้ารับตำแหน่งหลังการเลือกตั้งทั่วไป แต่ก็ยังมีข้อจำกัดที่สำคัญอยู่

รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ. 2560 ได้กำหนดขอบเขตการใช้อำนาจของรัฐบาลรักษาการไว้อย่างชัดเจนใน มาตรา 169 ซึ่งเป็นสาเหตุสำคัญที่นำไปสู่การพับโครงการคนละครึ่งพลัส เฟส 2 ข้อจำกัดดังกล่าวระบุไว้หลัก ๆ ดังนี้

1. ห้ามอนุมัติโครงการใหม่ รัฐบาลรักษาการ ไม่สามารถกระทำการอันมีผลเป็นการอนุมัติงานหรือโครงการ หรือมีผลเป็นการสร้างความผูกพันต่อคณะรัฐมนตรีชุดต่อไป เว้นแต่ที่กำหนดไว้แล้วในงบประมาณรายจ่ายประจำปี

2. ห้ามแต่งตั้งโยกย้าย ไม่สามารถแต่งตั้งหรือโยกย้ายข้าราชการหรือพนักงานของหน่วยงานของรัฐ หรือให้บุคคลดังกล่าวพ้นจากตำแหน่ง เว้นแต่จะได้รับความเห็นชอบจากคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ก่อน

3. ห้ามใช้จ่ายงบสำรองฉุกเฉิน ไม่สามารถกระทำการอันมีผลเป็นการอนุมัติให้ใช้จ่ายงบประมาณสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น เว้นแต่จะได้รับความเห็นชอบจาก กกต. ก่อน

4. ห้ามใช้ทรัพยากรของรัฐเพื่อการเลือกตั้ง ไม่ใช้ทรัพยากรหรือบุคลากรของรัฐเพื่อกระทำการใดอันอาจมีผลต่อการเลือกตั้ง

ดังนั้น ภายใต้ข้อกำหนดตามมาตรา 169 ที่ห้ามมิให้รัฐบาลรักษาการอนุมัติโครงการใหม่ที่สร้างภาระผูกพันทางการเงินต่อ ครม. ชุดต่อไป ทำให้รัฐบาลรักษาการไม่สามารถเดินหน้าในเรื่องงบประมาณและกระบวนการอนุมัติโครงการคนละครึ่งพลัส เฟส 2 ได้อย่างเต็มที่ จึงเป็นเหตุให้ต้องมีการพับโครงการเก็บไปในที่สุด

แม้จะมีข้อจำกัดทางกฎหมาย แต่ก็ยังมีช่องทางในการพิจารณาความเป็นไปได้ในการดำเนินการต่อ นายบวรศักดิ์ อุวรรณโณ ได้เปิดเผยหลังการยุบสภาว่า รัฐบาลมีกำหนดจะนัดประชุมร่วมกับสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ในวันที่ 15 ธ.ค. นี้ เพื่อหารือถึงเรื่องที่เกี่ยวกับการเลือกตั้ง รวมถึงประเด็นที่รัฐบาลได้พูดไว้ก่อนที่จะยุบสภา เช่น โครงการคนละครึ่งพลัส เฟส 2 โดยจะมีการสอบถาม กกต. ว่าจะสามารถอนุมัติให้ดำเนินการโครงการนี้ได้หรือไม่

อย่างไรก็ตาม ทุกสายตาจะจับจ้องไปที่ผลของการหารือในวันที่ 15 ธันวาคมนี้ เพื่อติดตามว่าผลสรุปจะออกมาในทิศทางไหน ที่จะช่วยให้ประชาชนได้รับประโยชน์สูงสุดภายใต้กรอบความถูกต้องตามกฎหมายเช่นเดียวกัน