สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า ประเทศลาวอนุมัติการขุดและซื้อขายสกุลเงินดิจิทัลด้วยพลังงานไฟฟ้าจากน้ำ ซึ่งเป็นการเปลี่ยนแปลงนโยบายครั้งสำคัญในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ หลังจากเมื่อไม่กี่เดือนก่อน ธนาคารกลางได้ออกคำเตือนในการใช้งานสกุลเงินดิจิทัลตามหลังการปราบปรามการขุดสกุลเงินดิจิทัลในประเทศจีน

ขณะที่นักวิเคราะห์ มองว่าการเคลื่อนไหวดังกล่าวเป็นเพราะลาวเล็งเห็นว่าการขุดหรือการซื้อขายสกุลเงินดิจิทัลเป็นอีกหนึ่งรายได้ของประเทศที่สามารถชดเชยเม็ดเงินที่เสียไปจากธุรกิจท่องเที่ยวในช่วงการระบาดใหญ่ของโควิด-19 อีกทั้งลาวยังมีแหล่งสร้างไฟฟ้าพลังน้ำด้วย

ด้านสำนักนายกรัฐมนตรีของลาวประกาศว่า มีบริษัท 6 แห่ง รวมถึงกลุ่มก่อสร้างและธนาคารได้รับการอนุญาตให้มีอำนาจในการเริ่มขุดและซื้อขายสกุลเงินดิจิทัล เช่น บิตคอยน์ (Bitcoin), อีเธอร์เรียม (Ethereum) และไลต์คอยน์ (Litecoin) โดยการผลักดันดังกล่าวแสดงให้เห็นถึงการหันมาสนใจในเงินดิจิทัลมากขึ้น หลังจากที่ธนาคารกลางของประเทศได้เตือนให้ระวังการใช้คริปโตเคอเรนซี่

กระทรวงต่าง ๆ ของรัฐบาลจะทำงานร่วมกับธนาคารแห่งประเทศลาวและบริษัทพลังงานไฟฟ้าลาว ซึ่งเป็นหน่วยงานสาธารณูปโภคระดับชาติ เพื่อควบคุมอุตสาหกรรมในการขุดและซื้อขายสกุลเงินดิจิทัลในครั้งนี้ ส่วนผลการสอบสวนและปรึกษาหารือ จะมีการพูดคุยในที่ประชุมรัฐบาลปลายเดือนนี้

เดวิด ทัก (David Tuck) หุ้นส่วนของลีริอันท์ แอดไวเซอรี่ (Lyriant Advisory) ที่ปรึกษาด้านธุรกิจกล่าวว่า “หนึ่งในข้อจำกัดหลักสำหรับการขุดคริปโตก็คือต้องใช้พลังงานมหาศาล” ซึ่งการใช้ไฟฟ้าพลังน้ำเพื่อขุดคริปโตเคอเรนซีอาจทำให้ลาวสามารถทำการตลาดในอุตสาหกรรมนี้ได้เป็นอย่างดี อีกทั้งยั้งทำให้ลาวเป็นอีกหนึ่งในประเทศที่ให้ความสำคัญกับการลดการปล่อยคาร์บอน ท่ามกลางการขุดเหรียญดิจิทัลที่ถูกวิพากษ์วิจารณ์จากนานาประเทศว่าเป็นตัวปล่อยคาร์บอนชั้นดี

อ้างอิง

พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส