วันที่ 7 มีนาคม 2565 ทีแอนด์บี มีเดีย โกลบอล (ประเทศไทย) ผู้ผลิตภาพยนตร์และแอนิเมชันระดับโลก เปิดตัว ‘คราวน์ โทเคน’ (Crown Token : CWT) โทเคนดิจิทัลเพื่อการใช้ประโยชน์ (Utility Coin) ที่นำจุดเด่นของทรัพย์สินทางปัญญา (Intellectual Property : IP) มาต่อยอดสู่ธุรกิจโลกเสมือน พร้อมประกาศความร่วมมือกับพันธมิตรชั้นนำทั้งไทยและต่างประเทศ พัฒนาแพลตฟอร์ม NFT ที่มีชื่อว่า ‘ADOT’ ซึ่งเตรียมเปิดตัวในเร็ว ๆ นี้

งาน Crown Token “CWT” EVENT นั้นจัดขึ้นที่ สามย่าน มิตรทาวน์ ฮอลล์ ชั้น 5 ศูนย์การค้าสามย่านมิตรทาวน์ โดยหนุ่ย-พงศ์สุข หิรัญพฤกษ์ เป็นพิธีกรในงานเปิดตัวครั้งนี้

หนุ่ย-พงศ์สุข หิรัญพฤกษ์ พิธีกรในงาน Crown Token “CWT” EVENT

ดร.ชวัลวัฒน์ อริยวรารมย์ ประธานกรรมการบริหารและผู้ก่อตั้ง บริษัท ทีแอนด์บี มีเดีย โกลบอล (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า ความร่วมมือในครั้งนี้จะช่วยพลิกโฉมอุตสาหกรรมความบันเทิง และเชื่อมโยงโอกาสของศิลปิน ครีเอเตอร์ รวมถึงผู้ชม ที่สามารถมีส่วนร่วมและได้รับประสบการณ์ในรูปแบบใหม่ ผ่านการถือครอง คราวน์ โทเคน ซึ่งเปิดให้ทำการซื้อขายบน ZIPMEX แล้ว เมื่อวันที่ 3 มีนาคมที่ผ่านมา

ในส่วนของพันธมิตรระดับโลกนั้น ทางทีแอนด์บียังได้จับมือกับ แอนดรูว์ กอร์ดอน (Andrew Gordon) ผู้อยู่เบื้องหลังแอนิเมชันชื่อดังระดับโลกอย่าง “Monsters, Inc.” และ “Toy Story”, เคนจิ เซียว (Kenji Xiao) ผู้มีประสบการณ์ในวงการแอนิเมชันในจีน และ Sunac Culture Group ซี่งเป็นพาร์ตเนอร์จากจีนที่มีเครือข่ายในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ สวนสนุกธีมพาร์ค และเป็นหนึ่งในผู้นำด้านแฟมิลีเอนเตอร์เทนเมนต์ของจีน ในการทุ่มทุนสร้างผลงานแอนิเมชันและซีรีส์แอนิเมชันสู่ตลาดโลกในระหว่างปี 2565-2568 ได้แก่ “Legends of the Two Heroes”, “FriendZSpace”, “Looking for Gods”, “New Legend”, “The Forestias” และ “Blue City” ซึ่งแอนิเมชันเหล่านี้จะถูกนำไปต่อยอดบนแพลตฟอร์ม NFT ที่มีชื่อว่า ‘ADOT’

ดร.ชวัลวัฒน์ อริยวรารมย์ ประธานกรรมการบริหารและผู้ก่อตั้ง บริษัท ทีแอนด์บี มีเดีย โกลบอล (ประเทศไทย) จำกัด

นางสาวพรรณธร ลออรรถวุฒิ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารสายงานพัฒนาธุรกิจ กลุ่มบริษัท ทีแอนด์บี มีเดีย โกลบอล และ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท วูคา ดิจิตอล จำกัด เปิดเผยว่า คราวน์ โทเคน จะช่วยเพิ่มมูลค่าและต่อยอดให้กับผลงานของศิลปินและผู้ผลิตคอนเทนต์ ดังนั้น การสร้างระบบนิเวศ (Ecosystem) ของ คราวน์ โทเคน จะไม่ใช่เพียงแค่ในกลุ่มองค์กร แต่จะเป็นโทเคนที่เชื่อมโยงกับพาร์ตเนอร์ในทุกอุตสาหกรรมเพื่อเพิ่มมูลค่า รวมถึงการสร้างโอกาสร่วมกัน ทั้งยังเป็นการช่วยเพิ่มการใช้งานของ คราวน์ โทเคน ให้กว้างขึ้นอีกด้วย โดยความเชื่อมต่ออย่างครบวงจรและเต็มรูปแบบของ คราวน์ โทเคน และ “ADOT” ซึ่งเป็นแพลตฟอร์ม NFT นั้น ทางทีแอนด์บีได้พันธมิตรระดับโลกอย่าง เพลลาร์ เทคโนโลยี (Pellar Technology) จากประเทศออสเตรเลียเข้ามาร่วมพัฒนา

นางสาวพรรณธร ลออรรถวุฒิ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารสายงานพัฒนาธุรกิจ กลุ่มบริษัท ทีแอนด์บี มีเดีย โกลบอล
และประธานกรรมการบริหาร บริษัท วูคา ดิจิตอล จำกัด

ในส่วนของแพลตฟอร์ม “ADOT” นั้น จะเชื่อมโยงทรัพย์สินทางปัญญา (IPs) ทั้งภาพยนตร์ ละคร แอนิเมชัน เพลง และเอ็นเทอร์เทนเมนต์ในรูปแบบต่าง ๆ ให้มาสู่สินทรัพย์ดิจิทัล (Digital Assets) ซึ่งจะสร้างโอกาสให้กับศิลปิน คอนเทนต์ ครีเอเตอร์ ผู้ผลิต รวมไปถึงผู้ชมที่จะมีส่วนร่วมและได้รับประสบการณ์รูปแบบใหม่ ผ่านการถือครอง คราวน์ โทเคน หนึ่งในนั้นคือการได้รับสิทธิประโยชน์ เช่น การรับ NFT Airdrop จากแอนิเมชันทั้ง 6 เรื่อง, สิทธิในการโหวตทิศทางของภาพยนตร์และแอนิเมชันในเครือทีแอนด์บี, สิทธิในการร่วมเป็นส่วนหนึ่งของภาพยนตร์และ NFT, สิทธิพิเศษต่าง ๆ จาก SMO Live Platform รวมถึงสิทธิในการมีส่วนร่วมใน ‘ทรานส์ลูเซีย’ (Translucia Metaverse) ซึ่งเป็นเมกะโปรเจกต์ของทีแอนด์บี

ซึ่งแพลตฟอร์ม ADOT จะเป็นแพลตฟอร์ม NFT ที่มีลูกเล่นมากมายให้กับบรรดาศิลปินและครีเอเตอร์ อาทิ Utility Function ที่ครีเอเตอร์สามารถกำหนดได้ว่าเมื่อ Collector เก็บชิ้นงานได้ครบทั้ง Collection ทาง Collector สามารถนำมาแลกเปลี่ยน (Redeem) เป็น NFT ชนิดพิเศษที่ให้สิทธิพิเศษ เช่น เข้าร่วมงาน Meet & Greet ทั้ง Online และ Offline กับศิลปินหรือครีเอเตอร์ นอกจากนี้ ADOT ยังมีกิจกรรมอื่น ๆ อย่างเช่น การร่วมสร้างสรรค์ การร่วมสร้างคอมมูนิตี้ กับเหล่าบรรดาศิลปินและครีเอเตอร์ที่ชื่นชอบ

ทางทีแอนด์บีคาดว่า แพลตฟอร์ม NFT นี้ จะ “เปลี่ยน” และ “เปิด” โอกาสธุรกิจให้กับทุกกลุ่มอุตสาหกรรม รวมถึงอุตสาหกรรมเอ็นเตอร์เทนเมนต์ทั้งในระดับประเทศและระดับโลก ทั้งการสร้างรายได้ การป้องกันการละเมิดลิขสิทธิ์ ให้กับศิลปินและครีเอเตอร์ รวมไปถึงผู้ชมหรือแฟนคลับของศิลปิน ในการมีส่วนร่วมกับกิจกรรมต่าง ๆ บนโลกเสมือน และยังสร้างธุรกิจได้อีกด้วย ถือเป็นการขับเคลื่อนและกระตุ้นเศรษฐกิจแบบรอบด้าน

ทั้งนี้ ‘ADOT’ แพลตฟอร์ม NFT จะรองรับ คราวน์ โทเคน (Crown Token : CWT) ซึ่งเป็นมิติใหม่และเป็นก้าวสำคัญของโทเคนดิจิทัลเพื่อการใช้ประโยชน์ (Utility Token) ให้กับผู้ซื้อทั้งชาวไทยและต่างชาติ ซึ่งนอกจากจะเปิดให้ซื้อขายในไทยได้แล้ว ยังได้เตรียมความพร้อมเพื่อเปิดซื้อขายในภูมิภาคในเร็ว ๆ นี้ อีกด้วย