ถ้าถามว่านักเตะคนไหน ทำผลงานได้น่าเซอร์ไพรที่สุดในฤดูกาลนี้ หนึ่งในนั้นต้องมีชื่อของ ‘ราฟินญ่า’ ปีกทีมชาติบราซิล วัย 27 ปี ของบาร์เซโลน่าอย่างแน่นอน ด้วยสถิติการมีส่วนร่วมกับประตูที่ตอนนี้ตัวเขามีส่วนไปแล้วถึง 17 ประตูรวมทุกรายการ แบ่งเป็นยิง 9 และ แอสซิสต์อีก 8 จากการลงสนามแค่ 13 นัดเท่านั้น นับเป็นช่วงที่เขาฟอร์มดีที่สุดในชีวิตเลยก็ว่าได้ ซึ่งถ้านับย้อนไป 2-3 เดือนที่แล้วในช่วงซัมเมอร์ที่ผ่านมา ชื่อของ ‘ราฟินญ่า’ ยังเป็นชื่อที่แฟนบาร์ซ่าหลายคนเชียร์ให้ทีมขายทิ้งอยู่เลย
อะไรเป็นจุดเปลี่ยนที่ทำให้เขาฟอร์มร้อนแรง จนกลายเป็นนักเตะที่ในชั่วโมงนี้ทีมขาดไม่ได้ เรื่องราวทั้งหมดจะเป็นอย่างไร เราจะเล่าให้ฟัง
ช่วงเริ่มต้นที่ยากลำบากของ ราฟินญ่า
ราฟินญ่า (Raphinha) ย้ายมาสู่ถิ่นคัมป์นู ในช่วงซัมเมอร์ปี 2022 จากลีดส์ ยูไนเต็ด ด้วยค่าตัวที่ค่อนข้างสูงราว 58 ล้านยูโร ซึ่งแน่นอนว่าย่อมมาพร้อมกับความคาดหวังและความกดดันที่มากเป็นธรรมดา ราฟินญ่า เผยว่า ในช่วงเวลา 6 เดือนแรกกับบาร์เซโลน่า เป็นช่วงเวลาที่ยากมากสำหรับตัวเขาและครอบครัว แต่หลังจากผ่านช่วงฟุตบอลโลก 2022 หลายสิ่งก็เริ่มดีขึ้น รวมไปถึงฟอร์มการเล่นของเขา
ราฟินญ่า เสริมอีกว่า ตัวเขารู้นะว่าเขาต้องทำอะไร แต่มันยากมากกับการปรับตัว รวมไปถึงข่าวที่ออกมาตำหนิและวิจารณ์ ทำให้ตัวเขารู้สึกแย่ หมดพลัง จนเกือบที่จะเป็นซึมเศร้า และ มีความคิดที่อยากเลิกฟุตบอลอาชีพ
อย่างไรก็ตาม แม้ว่า ราฟินญ่า จะต้องเผชิญช่วงเวลาในการปรับตัวที่ค่อนข้างยากลำบาก แต่หลังจากที่เขาเริ่มปรับตัวได้ ราฟินญ่า ก็เริ่มทำผลงานได้ดี ภายใต้การคุมทัพของ ชาบี เอร์นานเดซ และจบฤดูกาลด้วยสถิติการมีส่วนร่วมกับประตูไป 22 ประตู แบ่งเป็นยิง 10 และ แอสซิสต์ 12 พร้อมพาบาร์เซโลน่า คว้าแชมป์ลาลีก้า สเปนได้อย่างยิ่งใหญ่
ถึงกระนั้นแล้ว แม้ ราฟินญ่า จะเริ่มปรับตัวและเริ่มทำผลงานได้ดี แต่ในช่วงซัมเมอร์ ปี 2023 ราฟินญ่า กลับตกเป็นข่าวว่าบอร์ดบริหารของบาร์ซ่า มีความลังเลที่จะขายหรือเก็บตัวไว้ดี เพราะด้วยปัญหาในเรื่องการเงิน แต่ในท้ายที่สุด ราฟินญ่า ก็ได้อยู่ต่อ เนื่องจากตัวกุนซืออย่าง ชาบี มองว่า ราฟินญ่า ยังคงเป็นกำลังหลักสำคัญของทีม และ ต้องการที่จะเก็บเอาไว้
เข้าสู่ฤดูกาลที่สอง ในซีซั่น 2023-24 เป็นปีที่ค่อนข้างยากลำบากสำหรับทั้ง บาร์เซโลน่า และ ราฟินญ่า พวกเขาเริ่มต้นฤดูกาลได้ไม่ค่อยดี ฟอร์มทีมแชมป์เมื่อฤดูกาลที่แล้ว ไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป แถมยังมีเรื่องปัญหาเรื่องนอกสนามอีก ระหว่าง ชาบี เอร์นานเดซ กุนซือของทีม และ โจน ลาปอร์ตา ประธานสโมสร แม้ว่าในช่วงท้ายบาร์เซโลน่าจะเร่งฟอร์มจนสามารถจบอันดับ 2 ได้ แต่ก็ถือเป็นปีที่ล้มเหลวพอสมควร
ส่วนฟอร์มของ ราฟินญ่า ในปีนี้ถ้าดูตามสถิติก็ถือไม่ได้แย่ขนาดนั้น หลังสามารถทำผลงานได้ดีขึ้นในช่วงท้ายฤดูกาล โดยมีส่วนร่วมกับประตูไป 23 ประตู แบ่งเป็นยิง 10 และ แอสซิสต์ 13
แต่อย่างไรก็ดี แฟนบอลบาร์ซ่าหลายคนก็ยังเกิดข้อสงสัยในตัวของ ราฟินญ่า อยู่ เพราะถ้าดูเกมในจริง ๆ ราฟินญ่าก็ยังไม่ได้มีอิทธิพลต่อทีมมากเท่าที่ควร โดยมองว่าตัวเขามีความหวือหวาจริง แต่ยังขาดความสม่ำเสมอ ไม่สามารถฝากความหวังในระยะยาวได้ บวกกับการขึ้นมาของ ลามีน ยามาล ปีกขวาอนาคตไกลของทีม ทำให้แฟนบอลไม่ต้องการตัวของ ราฟินญ่า อีกต่อไป
สิ่งเหล่านี้ทำให้แฟนบาร์ซ่าหลายคนเริ่มเชียร์ให้ทีมขาย ราฟินญ่า ทิ้งไปซะ แล้วเอาค่าตัวไปต่อยอดเพื่อซื้อ นิโก้ วิลเลี่ยมส์ ปีกทีมชาติสเปน ชุดแชมป์ยูโร 2024 ของแอธเลติก บิลเบา ซึ่งแฟนบาร์ซ่าบางคนก็เชียร์จนออกนอกหน้าจนถึงขั้นเอาเสื้อบาร์เซโลน่าเบอร์ 11 สกีนชื่อ นิโก้ วิลเลี่ยมส์ แทนที่ของ ราฟินญ่า เลยทีเดียว
เกิดใหม่ในยุคของ ฮันซี่ ฟริค
จากที่กล่าวมา ทุกอย่างดูเหมือนว่าอนาคตของ ราฟินญ่า กับทีมจะหมดลงไปแล้ว จนกระทั่งการเข้ามาของ ฮันซี่ ฟริค อดีตกุนซือของบาเยิร์น มิวนิค และ ทีมชาติเยอรมัน ในซีซั่น 2024-25 ทำให้ ราฟินญ่า เหมือนกลับมาเกิดใหม่อีกครั้ง ฮันซี่ ฟริค เลือกให้โอกาสกับ ราฟินญ่า ได้พิสูจน์ตัวเองอีกครั้งในช่วงปรีซีซั่น ซึ่ง ราฟินญ่า ก็คว้าโอกาสนั้นไว้ได้ จนได้เป็นตัวหลักและกัปตันของทีมในฤดูกาลนี้
ซึ่งหลังจากได้รับความไว้ใจจาก ฮันซี่ ฟริค ตัวของ ราฟินญ่า ก็ไม่ทำให้ผิดหวังโชว์ฟอร์มสุดร้อนแรงด้วยการ กดไป 2 แฮตทริก ในเกมที่พบ เรอัล บายาโดลิด และ เกมล่าสุดกับ บาเยิร์น มิวนิค ทำให้ตอนนี้ ราฟินญ่า มีส่วนร่วมกับประตูไปแล้วถึง 17 ประตูรวมทุกรายการ แบ่งเป็นยิง 9 และ แอสซิสต์อีก 8 จากการลงสนามแค่ 13 นัดเท่านั้น นับเป็นช่วงที่ฟอร์มดีที่สุดในชีวิตการค้าแข้งของเขาเลยก็ว่าได้
ฮันซี่ ฟริค เผยว่า ตัวเขาไม่เคยเห็นผู้เล่นแบบ ราฟินญ่า ในทีมอื่น ๆ เลย เขามีความทุ่มเท และ เต็มที่เป็นอย่างมากทั้งตอนมีบอลและไม่มีบอล เขาเป็นคนที่มีทัศนคติที่ดีทั้งในการฝึกซ้อม และ ในการแข่งขัน เขาทำได้อย่างยอดเยี่ยมทั้งเกมรุกและเกมรับ รวมไปถึงเทคนิคของเขาซึ่งเป็นสิ่งมันวิเศษจริง ๆ
อะไรเป็นจุดเปลี่ยนที่ทำให้ ราฟินญ่า ฟอร์มร้อนแรง
หนึ่งในจุดเปลี่ยนสำคัญแน่นอนว่าเป็นการเข้ามาของ ฮันซี่ ฟริค ที่สามารถปลุกฟอร์ม และ ใช้งาน ราฟินญ่า ได้อย่างถูกวิธี ด้วยการโยก ราฟินญ่า จากปีกขวาไปปีกซ้าย พร้อมให้อิสระในการเล่นมากขึ้นกว่าในยุคของ ชาบี ซึ่งทำให้ตัวของ ราฟินญ่า มีส่วนร่วมกับเกมรุกของทีมมากขึ้น ทั้งการสร้างสรรค์โอกาสและการทำประตู
อีกหนึ่งอย่างที่เป็นจุดเปลี่ยนคือ ตัวของ ราฟินญ่า เอง ที่ในฤดูกาลนี้มีการพัฒนาความแข็งแรง และ ความฟิตของร่างกาย ที่ดีขึ้นกว่าฤดูกาลก่อน บวกกับความพยายามและความทุ่มเทที่ใส่เต็มตลอด 90 นาที จนกลายเป็นนักเตะที่มีสถิติวิ่งมากสุดในทีมบาร์เซโลน่า
ในท้ายที่สุด ราฟินญ่า จะสามารถยืนระยะรักษาฟอร์มแบบนี้ได้นานขนาดไหน และ จะสามารถพาบาร์เซโลน่าประสบความสำเร็จได้หรือไม่ ก็ต้องรอติดตามชม แต่ที่แน่ ๆ ราฟินญ่า ในเวลานี้ ได้เปลี่ยนความคิดของแฟนบาร์ซ่าไปอย่างสิ้นเชิง จากความพยายาม ก้มหน้าก้มตาทำงานหนัก จนสามารถพิสูจน์ตัวเอง และ ได้กลายเป็นที่รักของแฟนบาร์ซ่าในเวลานี้