ฟุมิโอะ คิชิดะ (Fumio Kishida) นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น และ แอนโทนี แอลบานีส (Anthony Albanese) นายกรัฐมนตรีออสเตรเลียร่วมกันลงนามในข้อตกลงทวิภาคีด้านความมั่นคง ณ เมืองเพิร์ท ออสเตรเลีย ซึ่งมีเป้าหมายหลักคือการต่อต้านอิทธิพลจีน

ข้อตกลงฉบับนี้มีเนื้อหาต่อยอดจากแถลงการณ์ร่วมเกี่ยวกับความร่วมมือด้านความมั่นคง (Joint Declaration on Security Cooperation) ที่ทั้ง 2 ประเทศลงนามในปี 2007 รวมถึงยังเป็นการขยายผลจากข้อตกลงด้านการทหารที่เปิดทางให้ทั้ง 2 ประเทศซ้อมรบร่วมกันได้ง่ายขึ้น

นี่ถือเป็นข้อตกลงด้านความมั่นคงฉบับแรกที่ญี่ปุ่นทำกับประเทศอื่น นอกเหนือไปจากสหรัฐอเมริกา

เนื้อหาที่ข้อตกลงนี้ครอบคลุมได้แก่ การปฏิบัติการร่วมทางการทหาร ข่าวกรอง ความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์ การปฏิบัติการในอวกาศ การบังคับใช้กฎหมาย การขนส่งทางยุทธวิธี และการปกป้องระบบโทรคมนาคม

นอกจากนี้ ยังมีส่วนหนึ่งของเนื้อหาที่เผยว่าความร่วมมือของทั้ง 2 ประเทศเป็นไปเพื่อ “ยืนหยัดต่อการคุกคามทางเศรษฐกิจและการเผยแพร่ข้อมูลเท็จ” ซึ่งเป็นสิ่งที่หลายประเทศกล่าวหาจีนอยู่ในขณะนี้

คิชิดะระบุว่ากรอบความร่วมมือฉบับล่าสุดนี้จัดทำขึ้นมาภายใต้ “สภาพแวดล้อมเชิงยุทธศาสตร์ที่เลวร้ายขึ้นเรื่อย ๆ” และยังเป็นกรอบที่กำหนดความร่วมมือด้านความมั่นคงและการทหารระหว่างทั้ง 2 ประเทศไปอีก 10 ปี ทั้งยังจะช่วยเสริมความร่วมมือด้านความมั่นคงระหว่างทั้ง 2 ประเทศกับสหรัฐฯ ด้วย

ทั้งนี้ การเดินทางไปเข้าร่วมประชุมครั้งนี้ของคิชิดะ นับเป็นการประชุมร่วมกับแอลบานีสครั้งที่ 4 แล้ว นับจากที่รัฐบาลของแอลบานีสชนะการเลือกในเดือนพฤษภาคม

เพิร์ท เมืองที่ผู้นำทั้ง 2 ฝ่ายลงนามในข้อตกลงนี้ ถือว่าเป็นเมืองที่มีความสำคัญในด้านความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจระหว่างทั้ง 2 ประเทศ เนื่องจากเป็นเมืองที่ผลิตก๊าซธรรมชาติเหลว (LNG) ไปยังญี่ปุ่นมากที่สุด และยังเป็นแหล่งผลิตข้าวสาลีที่ใช้ทำเส้นอุด้ง อาหารขึ้นชื่อของญี่ปุ่น

ในส่วนของภัยทางนิวเคลียร์ คิชิดะเผยว่าการที่รัสเซียขู่ใช้อาวุธนิวเคลียร์โจมตียูเครนถือเป็นภัยต่อมนุษยชาติ และเป็นสิ่งที่ยอมรับไม่ได้

ที่มา CNBC, Reuters

พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส