ช่วงเช้าของวันที่ 3 สิงหาคม 2566 นายพิสุทธิ์ รักวงษ์ ทนายความของนิติบุคคลและลูกบ้านโครงการแอชตัน อโศก, นางสาว อนันทชา เมธีธารพงศ์วาณิช และนางสาวกุลชลิกา รุ่งวรา ในฐานะตัวแทนของลูกบ้าน ได้เดินทางไปยื่นหนังสือให้ นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร โดยขอให้ กทม. ตั้งคณะกรรมการร่วม 3 ฝ่าย ได้แก่ กรุงเทพมหานคร, ลูกบ้าน และอนันดาฯ เพื่อหาเจรจาหาทางออกร่วมกัน

ทั้งนี้ ผู้ว่าฯ กทม. ยืนยันว่า ลูกบ้านของโครงการแอชตัน อโศก ยังสามารถใช้ทางเข้า – ออกของโครงการฯ ได้ตามปกติ เนื่องจากตัวอาคารไม่ได้มีปัญหาเรื่องความปลอดภัย ส่วนกรณีเกิดเหตุเพลิงไหม้นั้น รถดับเพลิงยังสามารถเข้าไประงับเหตุได้ผ่านทางเข้า – ออกของโครงการฯ ในปัจจุบัน จึงไม่มีความจำเป็นต้องสั่งปิดอาคารแต่อย่างใด

ต่อมาเวลา 09.30 น. บริษัท อนันดา เอ็มเอฟ เอเชีย อโศก จำกัด ผู้พัฒนาโครงการแอชตัน อโศก ได้แจ้งความคืบหน้าการดำเนินการเพื่อหาแนวทางออกสำหรับเจ้าของร่วม และชี้แจงประเด็นต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องผ่านจดหมาย Company Statement โดยมีเนื้อหาช่วงหนึ่งระบุว่า ลูกค้าที่ซื้อและทำสัญญาจะซื้อจะขายตั้งแต่ปี 2561 เป็นต้นไป ได้รับทราบสถานะคดีตามที่บริษัทฯ ได้แจ้งไว้ในบันทึกแนบท้ายสัญญาจะซื้อจะขายห้องชุด ดังนั้น ลูกค้าของโครงการจึงรับทราบสถานะของคดีมาโดยตลอด

และภายในวันเดียวกัน (3 ส.ค. 66) เวลา 15.30 น. สำนักข่าวไทยพีบีเอสรายงานว่า บริเวณชั้นล็อบบี้ของโครงการแอชตัน อโศก ได้มีการตั้งโต๊ะแถลงข่าวของทนายความของนิติบุคคลและลูกบ้านโครงการแอชตัน อโศก เพื่อชี้แจงข้อเท็จจริงในฝั่งของนิติบุคคลและลูกบ้าน

โดย นายพิสุทธิ์ ชี้แจงว่า Company Statement ของอนันดา เอ็มเอฟฯ ไม่เป็นความจริง เนื่องจากนิติบุคคลและลูกบ้านยืนยันว่า ไม่เคยรับทราบเรื่องดังกล่าวมาก่อน และเรียกร้องให้ อนันดา เอ็มเอฟฯ แสดงความรับผิดชอบในการดูแลลูกค้า เช่น ชดใช้เยียวยากรณีต้องรื้อถอนโครงการ, ขอให้ลูกบ้านได้สิทธิ์ย้ายหรือเปลี่ยนไปอยู่โครงการอื่น ๆ ของอนันดาฯ หรือการขอเงินคืนกรณีที่มีลูกบ้านไม่อยากอยู่กับโครงการอนันดาฯ เป็นต้น รวมถึงขอให้ อนันดา เอ็มเอฟฯ สร้างความมั่นใจให้ลูกบ้าน โดยขอให้มีการลงนามโดยผู้มีอำนาจ

“เราฝากไปถึง อนันดา เอ็มเอฟฯ ขอให้แสดงความรับผิดชอบ และมาพบเราภายใน 7 วัน นับจากวันนี้ (3 ส.ค. 66) เพื่อหาทางออกร่วมกัน ขอให้บริษัทฯ แสดงความจริงใจด้วยการขอโทษ และแสดงความรับผิดชอบในฐานะเจ้าของโครงการ” นายพิสุทธิ์กล่าว

นายพิสุทธิ์ ยังเปิดเผยอีกว่า หาก อนันดา เอ็มเอฟฯ ไม่ดำเนินการดังกล่าวภายใน 7 วัน จะมีการดำเนินการฟ้องร้องและเรียกค่าเสียหายต่อศาลแพ่งกว่า 5,000 ล้านบาท รวมถึงเตรียมฟ้องคดีอาญาและศาลปกครอง ฐานทอดทิ้งลูกบ้านต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น

ที่มา : ThaiPBS, DailyNews, ข่าวสด

พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส