สิริซอฟต์ (Sirisoft) ผู้ให้บริการด้านการให้คำปรึกษาและพัฒนาเทคโนโลยีสารสนเทศชั้นนำของไทย ผนึกกำลัง เร้ดแฮท ประเทศไทย (Red Hat) ผู้ให้บริการด้านโซลูชันโอเพนซอร์สระดับแนวหน้าของโลก และ VST ECS (ประเทศไทย) บริษัทในเครือของวีเอสที อีซีเอสกรุ๊ป ประเทศฮ่องกง ผู้นำด้านการจัดจำหน่ายสินค้าไอทีในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิค ร่วมกันเปิดตัว Red Hat OpenShift Platform Plus แพลตฟอร์มแอปพลิเคชันคอนเทนเนอร์ ที่ถูกต่อยอดมาจาก Docker และ Kubernetes ที่จะช่วยให้องค์กรสามารถสร้าง (Develop) ติดตั้งใช้งาน (Deploy) ตลอดจนบริหารจัดการ (Manage) Cloud-Native Applications ได้อย่างครบวงจร ยิ่งไปกว่านั้นยังมาพร้อมกับการจัดการคลัสเตอร์ (Advanced Cluster Security: ACS) ที่ทำให้การทำงานครอบคลุม ปลอดภัย และง่ายกว่าที่เคย

ปัจจุบันการพัฒนา Cloud-Native Applications ได้รับความนิยมสูงกว่า 95% ของแอปพลิเคชันยุคใหม่ เนื่องจากเป็นแนวทางการสร้าง ปรับใช้ และจัดการแอปพลิเคชันที่ทันสมัย ผ่านการประมวลผลบนคลาวด์ ตั้งแต่เริ่มต้น ตอบโจทย์องค์กรยุคใหม่ที่ต้องการแอปพลิเคชันที่สามารถปรับขนาดได้ มีความยืดหยุ่นสูง อัปเดตได้รวดเร็ว และมีความเสถียรสูง

สิริวัฒน์ ธนุรเวท ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท สิริซอฟต์ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า“โลกในยุคปัจจุบันเกิดการเปลี่ยนแปลงในทุกวินาที บริษัทซอฟต์แวร์จึงจำเป็นต้องเข้าใจในเรื่องของเป้าหมายทางธุรกิจของลูกค้าให้ชัดเจน และส่งมอบงานที่ตรงโจทย์ ตรงเวลา และตรงงบประมาณของลูกค้า ฉะนั้นเราจึงเชื่อในเรื่องของวัฒนธรรมแบบ DevOps ที่ทุกคนเข้าใจโจทย์ตรงกัน แชร์ปัญหา แชร์โซลูชันร่วมกัน เก็บไว้บนพื้นที่เดียวกัน ทุกคนสามารถทำงานได้อย่างไร้รอยต่อ รวมถึงเครื่องมืออย่าง Red Hat OpenShift Platform Plus จึงเป็นเครื่องมือสำคัญที่ช่วยให้วัฒนธรรมแบบ DevOps เกิดขึ้นได้ง่าย”  

สุพรรณี อำนาจมงคล ผู้จัดการประจำประเทศไทย บริษัท เร้ดแฮท (ประเทศไทย) จำกัด (Red Hat) กล่าวว่า เมื่อโลกเราขับเคลื่อนด้วย Digital Transformation สิ่งที่เราเห็นได้เลยคือทุกอย่างถูกขับเคลื่อนด้วยซอฟต์แวร์ ดังนั้น Cloud-Native Application Platform จึงเป็นตัวช่วยที่ทำให้การผลิตซอฟต์แวร์จัดการง่ายขึ้น เร็วขึ้น มีความผิดพลาดที่ลดน้อยลง และใช้เวลากู้คืนได้ไวที่สุดและถึงแม้ว่า Kubernetes จะเป็นแพลตฟอร์มที่ผู้ใช้งานสมัยนี้นิยมใช้ แต่ในแง่การบริหารจัดการ Kubernetes ให้เรียนรู้การจัดการคลัสเตอร์ต่าง ๆ ไม่ได้ง่ายขนาดนั้น เนื่องจากมีอีกหลายส่วนประกอบที่ต้องจัดหามาประกอบร่างกัน เช่น จัดการระบบปฏิบัติการ หาระบบช่วยดูแลติดตั้งเพิ่มเติม เพื่อให้ Kubernetes ทำงานได้ในทุกส่วนจริง ๆ และรองรับการพัฒนาในอนาคต เพราะฉะนั้น Kubernetes เพียงตัวเดียวอาจจะไม่เพียงพอสำหรับการพัฒนาซอฟต์แวร์แบบ Cloud-Native”

“Red Hat จึงพัฒนา Red Hat OpenShift Platform Plus ขึ้นมา เพื่อเป็นการจัดการ Cloud-Native Application Platform และสามารถดึงประสิทธิภาพในการทำงานของคนในทีม ประมวลผลการทำงานทั้งหมดได้เป็นอย่างดี รวมถึงเรื่องความปลอดภัยตั้งแต่การสร้าง ติดตั้งใช้งาน ตลอดจนบริหารจัดการ และในแต่ละขั้นตอน เรามีผู้เชี่ยวชาญช่วยสแกนคลัสเตอร์ เปรียบเทียบกับโปรไฟล์ หาช่องโหว่ ประเมินความก้าวหน้าของงานเป็นเปอร์เซ็นต์ และออกมาเป็นรายงานให้ทำงานได้ง่ายขึ้น”

นอกจากนี้ สิริวัฒน์ กล่าวทิ้งท่ายว่า “ข้อดีของการพัฒนาซอฟต์แวร์แบบ Cloud-Native ต้องใช้ Container Platform ที่มีมาตรฐานสูง สามารถตอบโจทย์ทั้ง Pain Point และความต้องการของลูกค้าเรื่องความรวดเร็วในการพัฒนาซอฟต์แวร์ อาทิ ตอบโจทย์เรื่องซอฟต์แวร์ที่ Deploy ได้ช้า จัดการปัญหาเรื่อง Scale Application ได้ง่ายกว่า ปิดช่องโหว่ด้านความปลอดภัย ยืดหยุ่นสูง รองรับการพัฒนาได้หลายภาษา เข้าได้กับหลายเทคโนโลยี และมีตัวช่วยในการทำแบบอัตโนมัติ โดยสิริซอฟต์พร้อมดูแลลูกค้าตั้งแต่ดีไซน์ระบบ พัฒนาระบบ ดูแลเรื่องความปลอดภัย ไปจนถึง Logging solution และ CI/CD Pipeline”

สำหรับองค์กร บริษัท หรือ Developer ที่สนใจใช้งาน Red Hat OpenShift Platform Plus หรือต้องการพัฒนาแอปพลิเคชันในรูปแบบ Cloud Native แบบครบวงจร สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ https://www.sirisoft.co.th/ หรือติดต่อสอบถามได้ที่ [email protected]

พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส