สื่อต่างประเทศรายงานว่า นายฟิลิป ปิแอร์ (Philip Pierre) นายกรัฐมนตรีเซนต์ลูเซีย ประเทศเล็ก ๆ ในทะเลแคริบเบียน กล่าวในที่ประชุมสมัชชาใหญ่แห่งสหประชาชาติ โดยระบุว่า ประเทศหมู่เกาะจำนวนมากกำลังได้รับผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ และต้องเผชิญกับความเสี่ยงในการอยู่รอด

โดยนายกรัฐมนตรีเซนต์ลูเซียระบุว่า ระดับน้ำทะเลและอุณหภูมิที่เพิ่มสูงขึ้นเรื่อย ๆ เป็นผลของความล้มเหลวอย่างยิ่งยวดของประเทศร่ำรวยในการดำเนินการอย่างเร่งด่วนเพื่อแก้ไขการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ

นอกเหนือจากนายกรัฐมนตรีเซนต์ลูเซียแล้ว ผู้นำหลายคนได้กล่าวสุนทรพจน์ในการประชุมดังกล่าว โดยเน้นย้ำว่าประเทศที่พัฒนาแล้วขาดความเร่งด่วนในการแก้ปัญหาสภาพอากาศ และล้มเหลวในการควบคุมการปล่อยก๊าซเรือนกระจก ซึ่งเป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้ระดับน้ำทะเลเพิ่มสูงขึ้น และกลายเป็นภัยคุกคามต่อบรรดาประเทศหมู่เกาะ และประเทศที่อยู่ในพื้นที่ต่ำ

รายงานข่าวระบุว่า การเรียกร้องดังกล่าวถือเป็นการกระตุ้นเตือนประเทศที่พัฒนาแล้ว ภายหลังหลายประเทศร่วมลงนามในข้อตกลงปารีส (Paris Agreement) ว่าด้วยการลดการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ เมื่อปี 2015 เพื่อตั้งเป้าที่จะจำกัดการเพิ่มขึ้นของอุณหภูมิโลกให้อยู่ที่ 1.5 องศาเซลเซียส

ซึ่งนักวิทยาศาสตร์ระบุว่าจะช่วยลดผลกระทบที่เลวร้ายที่สุดจากภาวะโลกร้อนได้ และเพื่อให้บรรลุเป้าหมายดังกล่าว ชาวโลกจำเป็นต้องลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกทั่วโลกลงครึ่งหนึ่งภายในปี 2030 รวมถึงลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนสุทธิเป็นศูนย์ภายในปี 2050

ที่มา : Reuters

พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส