เริ่มแล้ววันนี้กับงาน Blockchain Genesis, Thailand Blockchain Week 2023 งานมหกรรม บล็อกเชนที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในประเทศไทย ปีนี้จัดขึ้นเป็นปีที่ 6 ติดต่อกัน มาพร้อมกับธีม ‘Build in Bear, Rise in Bull’ จับทันทุกเทรนด์ในโลกบล็อกเชนจากมุมมองผู้บริหารโปรเจกต์ชั้นนำทั้งระดับประเทศและระดับโลก ทั้งนี้ ยังเป็นการเปิดมุมมองต่ออนาคตบล็อกเชนในประเทศไทยจากตัวแทนองค์กรภาครัฐและนักการเมืองด้วย

ภาพรวมของตลาดสินทรัพย์ดิจิทัลตอนนี้ พบว่าบิตคอยน์มีแนวโน้มการเติบโตสูงที่สุด เมื่อเทียบกับสินทรัพย์ชนิดอื่น ๆ อีกทั้ง Bitcoin Halving ในปี 2024 ที่กำลังจะมาถึงและการอนุมัติ Bitcoin SPOT ETF ที่มีแนวโน้มในเชิงบวกขึ้นเรื่อย ๆ อีกทั้งปัจจัยต่าง ๆ ภายในประเทศไทย ไม่ว่าจะเป็นตัวเลขเชิง สถิติของจำนวนบัญชีซื้อขาย และมูลค่าการซื้อขายในประเทศไทยที่เพิ่มสูงขึ้นเรื่อย ๆ รวมไปถึงบริษัทยักษ์ใหญ่และสถาบันการเงินที่เริ่มเข้ามาลงทุนเพื่อให้บริการในตลาดคริปโท ทั้งหมดเหล่านี้ล้วนเป็นปัจจัยเชิงบวกที่ทำให้ตลาดคึกคักมากขึ้น

สำหรับงานในปีนี้เรียกว่ายิ่งใหญ่กว่าทุกปีที่ผ่านมา เพราะด้วยรูปแบบของงานที่หลากหลาย การรวบรวมเหล่าคนดังในวงการ Cryptocurrency และ Blockchain ชั้นนำทั้งไทยและต่างประเทศมากกว่า 170 ท่านมาร่วมพูดคุย เสวนา และให้ความรู้มากกว่า 50 Sessions บนเวทีทั้ง 3 เวทีภายในงาน สำหรับ Section ที่เป็นต่างชาติ ทางผู้จัดงานเตรียมหูฟังแปลภาษาไว้รองรับกว่า 250 เครื่อง และการร่วมกิจกรรมสนุก ๆ ลุ้นรับของรางวัล อีกมากมาย รวมถึงมี Workshop ที่คัดสรรคุณภาพมาอย่างดีและรับประกันความรู้อัดแน่น นอกจากนี้ยังมีบริษัทชั้นนำที่น่าสนใจมาร่วมออกบูธอีกมากมายตลอดทั้ง 2 วัน

สัญชัย ปอปลี ผู้ร่วมก่อตั้งและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท คริปโตมายด์ กรุ๊ป โฮลดิ้ง จำกัด ในฐานะผู้จัดงานหลัก กล่าวว่า สำหรับงานในปีนี้จัดขึ้นภายใต้แนวคิด ‘Build in Bear, Rise in Bull’ เนื่องจากในช่วงตลาดหมี มักเป็นช่วงที่นักลงทุนกังวลเกี่ยวกับปัจจัยต่าง ๆ เช่น เศรษฐกิจโลก นโยบายการเงินของธนาคารกลาง และกฎระเบียบเกี่ยวกับสินทรัพย์ดิจิทัล ส่งผลให้ราคา สินทรัพย์ดิจิทัลลดลง แต่ในทางกลับกัน ในช่วงตลาดหมี ก็ถือเป็นโอกาสที่ดีสำหรับนักลงทุนที่จะสะสม สินทรัพย์ดิจิทัลในราคาถูก โดยนักลงทุนที่ประสบความสำเร็จมักใช้ช่วงเวลานี้ในการพัฒนาความรู้และ ทักษะที่จำเป็นสำหรับการลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัลอย่างมีประสิทธิภาพ

สิ่งเหล่านี้เป็นเครื่องยืนยันว่าประเทศไทยมีศักยภาพเพียงพอที่จะเป็น Cryptocurrency Hub ของ ASEAN ที่มีการควบคุมจากสำนักงาน ก.ล.ต. อย่างเหมาะสม นอกจากนี้ยังมีผู้เล่นมากราย มี Community ที่ครอบคลุม และเพื่อผลักดันให้คนไทยมีความพร้อมสำหรับเทรนด์ของอนาคต จึงเกิดเป็นงานบล็อกเชน ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของประเทศ Blockchain Genesis, Thailand Blockchain Week 2023 ขึ้น

สัญชัย ปอปลี ผู้ร่วมก่อตั้งและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท คริปโตมายด์ กรุ๊ป โฮลดิ้ง จำกัด

ประเสริฐ จันทรรวงทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (DE) กล่าวว่า ในยุคปัจจุบันเทคโนโลยีกำลังมีบทบาทสำคัญในการขับเคลื่อนสังคมและเศรษฐกิจ และหนึ่งในเทคโนโลยีที่น่าจับตามองมากที่สุดคือเทคโนโลยีบล็อกเชน หากประเทศไทยสามารถประยุกต์ใช้ เทคโนโลยีบล็อกเชนได้อย่างเต็มที่ จะสามารถก่อให้เกิดประโยชน์มากมาย ทั้งการเพิ่มประสิทธิภาพการ ทำงาน ช่วยลดขั้นตอนและค่าใช้จ่ายในการทำธุรกรรมต่าง ๆ รวมถึงลดความเสี่ยงการทุจริต สร้างความ โปร่งใสและตรวจสอบได้ อีกทั้งเปิดโอกาสทางการค้า ขยายตลาดไปยังต่างประเทศ สร้างงานใหม่ เกิดธุรกิจและอาชีพใหม่ ๆ ที่เกี่ยวข้องกับเทคโนโลยีบล็อกเชน เนื่องจากมีความเป็น Open and Neutral ที่ทุกคนมีสิทธิ์เข้าถึงได้อย่างเท่าเทียม และเพื่อให้ประเทศไทยสามารถใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยี บล็อกเชนได้อย่างเต็มที่ คนไทยทุกคนต้องเตรียมพร้อมรับมือ ปรับตัว และเรียนรู้เกี่ยวกับเทคโนโลยีนี้ โดยอาจเริ่มจากการทำความรู้จักกับเทคโนโลยีบล็อกเชน ศึกษากรณีการใช้งานต่าง ๆ และติดตามข่าวสารอยู่เสมอ เพื่อทำให้ก้าวไปสู่โลกใบใหม่ที่ไร้พรมแดนและสร้างประโยชน์ให้คุณได้สูงสุด

ประเสริฐ จันทรรวงทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (DE)

สำหรับงาน Blockchain Genesis, Thailand Blockchain Week 2023 จะจัดขึ้น 2 วัน ระหว่างวันที่ 11-12 พฤศจิกายน 2566 ณ ศูนย์การค้าใจกลางเมือง Samyan Mitrtown Hall

สำหรับผู้ที่สนใจ สามารถซื้อบัตรได้ที่ www.eventpop.me/e/15676/blockchainth2023 และสามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมที่  www.blockchain-th.com, www.facebook.com/blockchainthailandevent, https://twitter.com/BGTHOfficial

พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส