BT beartai ชวนส่องประวัติ “อนุทิน ชาญวีรกูล” หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย หรือ “เสี่ยหนู” ว่าที่นายกรัฐมนตรีคนที่ 32 ของประเทศไทย 

นายอนุทิน ชาญวีรกูล เกิดเมื่อวันที่ 13 กันยายน พ.ศ. 2509 ที่กรุงเทพมหานคร มีชื่อเล่นที่สื่อมวลชนนิยมเรียกกันว่า “เสี่ยหนู” และถูกเรียกว่า “หมอหนู” ในช่วงที่ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ระหว่างการระบาดของโควิด-19

นายอนุทินเป็นบุตรคนโตของ นายชวรัตน์ ชาญวีรกูล อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย และผู้ก่อตั้งบริษัท ซิโน-ไทย เอ็นจีเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น จำกัด (มหาชน) มีน้องชายคือ นายมาศถวิน ชาญวีรกูล และน้องสาวคือ นางอนิลรัตน์ นิติสาโรจน์ ซึ่งทั้งสองคนต่างเป็นผู้บริหารในเครือบริษัท ซิโน-ไทย

ประวัติการศึกษา

นายอนุทินสำเร็จการศึกษาระดับมัธยมศึกษาจากโรงเรียนอัสสัมชัญ และจบปริญญาตรีด้านวิศวกรรมศาสตร์จาก มหาวิทยาลัย Hofstra สหรัฐอเมริกาในปี พ.ศ. 2532 นอกจากนี้ยังได้เข้าศึกษาในหลักสูตรพิเศษอีกหลายแห่ง เช่น

  • คณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ (Mini MBA)
  • หลักสูตรผู้บริหารระดับสูง จากสถาบันและมหาวิทยาลัยชั้นนำมากมาย อาทิ หลักสูตรวิทยาการตลาดทุน (วตท.9), หลักสูตรผู้บริหารระดับสูงด้านการบริหารงานพัฒนาเมือง (มหานคร 1), หลักสูตรผู้บริหารระดับสูงด้านวิทยาการพลังงาน (วพน.1), หลักสูตรผู้บริหารกระบวนการยุติธรรม (บ.ย.ส.17) และหลักสูตรวิทยาลัยป้องกันราชอาณาจักร (วปอ.61)

นอกจากนี้ ยังได้รับปริญญาดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ จากหลายสถาบัน ทั้งสาขาบริหารธุรกิจ รัฐประศาสนศาสตร์ การจัดการ และเศรษฐศาสตร์

ประสบการณ์การทำงานและตำแหน่งทางการเมือง

เริ่มต้นเส้นทางอาชีพด้วยการเป็นวิศวกรที่ Mitsubishi Corporation นิวยอร์ก ก่อนจะกลับมาทำงานที่ประเทศไทยและก้าวขึ้นสู่ตำแหน่งผู้บริหารในเครือบริษัท ซิโน-ไทย และตำแหน่งกรรมการผู้จัดการบริษัท ซิโน-ไทย เอ็นจีเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น จำกัด (มหาชน) ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2538-2547

ในเส้นทางการเมือง อนุทินเคยดำรงตำแหน่งสำคัญหลายตำแหน่ง โดยเริ่มต้นเส้นทางการเมืองในปี พ.ศ. 2539 ในฐานะที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ก่อนจะได้รับตำแหน่งรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ และรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุขในเวลาต่อมา

หลังจากนั้น อนุทินถูกตัดสิทธิ์ทางการเมืองเป็นเวลา 5 ปี เนื่องจากเคยเป็นกรรมการบริหารของพรรคไทยรักไทย และเมื่อพ้นกำหนดในปี พ.ศ. 2555 จึงได้กลับเข้าสู่เส้นทางการเมืองอีกครั้งด้วยการเป็นสมาชิกพรรคภูมิใจไทย ซึ่งเป็นพรรคที่ก่อตั้งโดยบิดาของเขา นายชวรัตน์ ชาญวีรกูล และในที่สุดก็ได้ก้าวขึ้นเป็นหัวหน้าพรรคต่อจากบิดา

จากการเลือกตั้งปี 2557 นายอนุทินลงสมัคร ส.ส. แบบบัญชีรายชื่อลำดับที่ 1 ของพรรคภูมิใจไทย แต่การเลือกตั้งครั้งนั้นถูกศาลรัฐธรรมนูญสั่งให้เป็นโมฆะ

รัฐบาล พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา (2562-2566)

ในการเลือกตั้งปี 2562 นายอนุทินได้รับเลือกตั้งเป็น ส.ส. แบบบัญชีรายชื่อลำดับที่ 1 และได้รับการเสนอชื่อเป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี หลังการเลือกตั้ง พรรคภูมิใจไทยได้เข้าร่วมจัดตั้งรัฐบาลกับพรรคพลังประชารัฐ โดยนายอนุทินได้รับตำแหน่ง รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข

ในช่วงที่ดำรงตำแหน่งในกระทรวงสาธารณสุข นายอนุทินเคยใช้คำว่า “โควิดกระจอก” ซึ่งต่อมากลายเป็นประเด็นดราม่าเมื่อการระบาดของโควิด-19 รุนแรงขึ้นในประเทศไทย จนมีผู้ติดเชื้อและเสียชีวิตเป็นจำนวนมาก

รัฐบาลเพื่อไทย (2566-ปัจจุบัน)

ในการเลือกตั้งปี 2566 นายอนุทินได้รับเลือกตั้งเป็น ส.ส. แบบบัญชีรายชื่อลำดับที่ 1 และเป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีอีกครั้ง ต่อมาพรรคภูมิใจไทยได้เข้าร่วมจัดตั้งรัฐบาลกับพรรคเพื่อไทย โดยนายอนุทินได้รับตำแหน่งรองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย และยังคงดำรงตำแหน่งจนถึงปัจจุบัน

เส้นทางการเมืองหลังการเลือกตั้งปี 2566

นายอนุทินและพรรคภูมิใจไทยเผชิญความขัดแย้งอย่างหนักกับพรรคร่วมรัฐบาลในหลายประเด็น ทั้งเรื่องนโยบายและการบริหารงาน ความไม่ลงรอยดังกล่าวทวีความรุนแรงขึ้น จนในที่สุดเมื่อเดือนมิถุนายน 2568 นายอนุทินได้ยื่นหนังสือขอลาออกจากตำแหน่งรองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย

การเปลี่ยนแปลงทางการเมืองสู่การเป็นนายกคนที่ 32 ของประเทศไทย

สถานการณ์ทางการเมืองกลับมาผันผวนอีกครั้ง เมื่อนางสาวแพทองธาร ชินวัตร ซึ่งดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีช่วงก่อนหน้านี้ โดนตุลาการศาลรัฐธรรมนูญมีมติ 6 ต่อ 3 ให้นางสาวแพทองธารสิ้นสุดหน้าที่นายกรัฐมนตรี เนื่องจากพฤติกรรมที่เข้าข่ายฝ่าฝืนจริยธรรมอย่างร้ายแรง จากกรณีคลิปเสียงสนทนากับนายฮุน เซน ทำให้ต้องมีการโหวตเลือกนายกรัฐมนตรีคนใหม่

การกลับมามีบทบาทของพรรคภูมิใจไทย

แม้พรรคภูมิใจไทยจะไม่ใช่พรรคที่ได้เสียงข้างมากในการเลือกตั้งครั้งล่าสุด แต่จากความสำเร็จในการเจรจากับ “พรรคประชาชน” ทำให้พรรคภูมิใจไทยสามารถรวบรวมเสียงได้เพียงพอต่อการจัดตั้งรัฐบาล และส่งผลให้นายอนุทิน ชาญวีรกูล กลายเป็นว่าที่นายกรัฐมนตรีคนที่ 32 ของประเทศไทย