รายงานล่าสุดจาก Gallagher บริษัทที่ปรึกษาด้านการทำงาน เผยสถิติที่น่าตกใจว่า พนักงานกว่าครึ่งในออสเตรเลียไม่มีความสุข และกำลังประสบภาวะหมดไฟ (Burnout) เพิ่มขึ้น เพราะรู้สึกว่าไม่ได้รับการสนับสนุนและผลประโยชน์ที่เหมาะสมจากนายจ้าง
ผลสำรวจจากพนักงานกว่า 2,522 คนทั่วออสเตรเลีย ช่วงปลายปี 2024 ถึงต้นปี 2025 ชี้ให้เห็นว่า แม้พนักงานเกือบ 74% จะให้ความสำคัญกับความเป็นอยู่ที่ดี (Wellbeing) แต่กลับมีเพียง 51% เท่านั้นที่รู้สึกว่าตัวเองมีความเป็นอยู่ที่ดี ซึ่งมีแนวโน้มลดลงเล็กน้อยหากเทียบกับปีที่แล้ว (53%)
ดร. เจมส์ อัลเลน (Dr. James Allen) ผู้อำนวยการด้านประสบการณ์ของผู้คนและนวัตกรรมของ Gallagher กล่าวว่า “สัญญาณเตือนเรื่องความเป็นอยู่ที่ดีของพนักงานดังขึ้นแล้ว และแรงงานกำลังเข้าใกล้ถึงจุดที่จะไม่ทน”
สุขน้อยลง ภาวะหมดไฟมากขึ้น
รายงานระบุว่า แม้สัดส่วนของพนักงานที่มีความสุขจะลดลงแค่เล็กน้อย แต่กลับเป็นเรื่องที่น่าเป็นห่วงเพราะพนักงานกว่า 1 ใน 4 เริ่มมีสัญญาณของภาวะหมดไฟ และที่น่าตกใจคือกว่า 80% ของคนที่มีความเป็นอยู่ไม่ดี ยังคงต้องฝืนทำงานต่อ ทั้งที่รู้สึกว่าไม่ควรทำ

ความพึงพอใจของพนักงานต่อการสนับสนุนของนายจ้างลดลง 6% เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว ซึ่ง ดร. อัลเลน ย้ำว่า “หากพนักงานยังคงรู้สึกถูกละเลย ปัจจัยลบเหล่านี้จะส่งผลกระทบในวงกว้าง และเป็นผลเสียต่อนายจ้างอย่างแน่นอน”
เงินเดือนและสวัสดิการที่ไม่เพียงพอ
- เงินเดือน : พนักงานกว่า 77% บอกว่าเงินเดือนพื้นฐานมีความสำคัญ และมีแค่ 54% ที่บอกว่าพอใจกับค่าตอบแทนที่ได้รับ โดยเฉพาะพนักงานหญิงที่มีเพียง 54% เท่านั้นที่พอใจกับเงินเดือน เทียบกับพนักงานชายที่บอกว่าพอใจ 60%
- ความยืดหยุ่น : แม้พนักงาน 2 ใน 3 จะมองว่าความยืดหยุ่นในการทำงานเป็นสวัสดิการที่สำคัญที่สุด แต่จำนวนพนักงานที่ได้รับสวัสดิการนี้กลับลดลงจาก 64% เหลือเพียง 59%
- ความรู้ทางการเงิน : พนักงานครึ่งหนึ่ง (50%) อยากได้ความรู้ทางการเงินเพิ่มเติม แต่มีพนักงงานน้อยกว่า 30% ที่ได้รับจากองค์กร

รายงานนี้ชี้ชัดว่าหลายองค์กร “ให้สวัสดิการที่ไม่ตรงกับความต้องการของพนักงาน” และหากไม่จัดการกับปัญหาเหล่านี้ จะทำให้ธุรกิจต้องเผชิญกับต้นทุนที่สูงขึ้นจากการลาออกของพนักงาน
นอกจากนี้ พนักงานเพียง 50% เท่านั้นที่มั่นใจว่านายจ้างจะรับฟังและนำข้อเสนอแนะของพวกเขาไปปรับใช้ ซึ่งลดลงจากปีที่แล้วที่ 52%
ดร. อัลเลนเตือนว่า “ธุรกิจที่ไม่สามารถรับมือกับความท้าทายนี้ได้ จะต้องเจอกับต้นทุนที่เพิ่มขึ้นและอัตราการลาออกของพนักงานที่สูงขึ้น”
Gallagher แนะนำว่า การสร้างวัฒนธรรมองค์กรที่ให้ความสำคัญกับความเป็นอยู่ที่ดีของพนักงาน จะช่วยให้พนักงานทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น และมีความภักดีต่อองค์กรมากขึ้นเช่นกัน เพราะการสนับสนุนเชิงรุกย่อมดีกว่าการรอจนกว่าพนักงานจะถึงจุดแตกหัก