*บทความนี้ไม่ได้ Stereotype หรือเหมารวม ความเชื่อที่มีต่อกลุ่ม Gen Z เพียงแต่ต้องการเสนออีกหนึ่งมุมมองของการทำงานที่อาจพบเจอได้ในตลาดแรงงาน สุดท้ายไม่ว่าการทำงานกับ Generation ไหน ล้วนมีข้อดีและข้อเสียแตกต่างกันไป ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับปัจจัยอื่น ๆ ร่วมด้วย เช่น ทัศนคติในการทำงาน ทักษะในการสื่อสาร รวมไปถึงความสามารถในการทำงานและเข้าสังคมด้วยเช่นกัน
ในแต่ละรุ่นของพนักงานที่เข้ามาสู่ตลาดแรงงานหรือก้าวเข้าสู่การทำงานในบริษัทใดบริษัทหนึ่ง จะนำทัศนคติและความท้าทายที่แตกต่างกันมาด้วย แน่นอนว่ายุคสมัยเปลี่ยน คนทำงานในยุคนี้กลายเป็นเหล่า Gen Z ที่เพิ่งเรียนจบหมาด ๆ และกำลังจะกลายเป็น First Jobber ในสังคมของการทำงานเป็นครั้งแรก
แต่หลายคนมักได้รับเสียงสะท้อนจากคนทำงานเสมอว่า เด็ก Gen Z มีปัญหา ทำงานไม่ดีบ้างล่ะ หรือพฤติกรรมในการเข้าสังคมที่ทำงานแย่บ้างล่ะ ซึ่งบทความนี้เราจะไม่มาเหมารวม หรือตัดสินว่าเป็นเรื่องจริงเท็จแค่ไหน แต่เราจะชวนมาดูสถิติจากผลสำรวจในมุมของหัวหน้างานที่ต้องดูแลการทำงานของพนักงาน Gen Z ว่าส่งผลกระทบต่อสถานที่ทำงานอย่างไร และรับมือกับความท้าทายเหล่านี้ได้อย่างไร

หัวหน้างานอยากลาออกเพราะเครียดกับการดูแล Gen Z
ในเดือนตุลาคมปี 2024 Intelligent.com เว็บไซต์ที่ให้บริการข้อมูลและจัดอันดับโปรแกรมการศึกษา โดยเน้นที่หลักสูตรออนไลน์และหลักสูตรไฮบริด ได้สำรวจหัวหน้างานในตำแหน่งผู้จัดการ (Manager) 1,000 คนในสหรัฐฯ ที่ดูแลพนักงาน Gen Z อยู่ พบว่าหัวหน้างาน 51% รายงานว่าพวกเขารู้สึกหงุดหงิดจากการจัดการพนักงาน Gen Z และ 44% กล่าวว่าการจัดการพนักงานกลุ่มนี้ทำให้พวกเขารู้สึกเครียด
นอกจากนี้ ผู้จัดการยังกล่าวว่าการดูแลพนักงาน Gen Z ทำให้เกิดความรู้สึกผิดหวัง (31%), ภาระงานที่เพิ่มขึ้น (27%), ความต้องการทรัพยากรเพิ่มเติม (26%), ประสิทธิภาพการทำงานส่วนตัวลดลง (20%), ความรู้สึกท่วมท้น (20%) และภาวะหมดไฟ (16%) จากประสบการณ์เหล่านี้กับพนักงาน Gen Z ทำให้ 18% ของผู้จัดการเคยคิดที่จะลาออก ส่วนหนึ่งของความหงุดหงิดและความเครียดนี้อาจมาจากการคาดหวังที่ไม่ตรงกัน
ฮุย เหงียน (Huy Nguyen) หัวหน้าที่ปรึกษาด้านการศึกษาและการพัฒนาอาชีพของ Intelligent.com ระบุว่า “เมื่อทำงานกับพนักงาน Gen Z สิ่งสำคัญคือการกำหนดแนวทางที่ชัดเจนสำหรับการสื่อสารและกระบวนการทำงาน เพื่อให้ทุกฝ่ายเข้าใจสิ่งที่คาดหวังจากพวกเขา หากไม่มีการจัดระเบียบการทำงานและความเข้าใจในความสัมพันธ์ระหว่างกัน สิ่งต่าง ๆ อาจกลายเป็นความวุ่นวาย และความเข้าใจผิดเล็กน้อยอาจบานปลายกลายเป็นปัญหาใหญ่ได้”
Gen Z ใช้โทรศัพท์มากเกินไป เป็นความท้าทายอันดับต้น ๆ สำหรับหัวหน้างาน
จากการสำรวจหัวหน้างาน พบว่า 50% เจอปัญหาพนักงาน Gen Z ที่ใช้โทรศัพท์ในที่ทำงานมากเกินไป ถือเป็นความท้าทายมาก ๆ ในการจัดการกลุ่มคนที่อยู่ในช่วงอายุนี้
ส่วนความท้าทายอื่น ๆ ที่หัวหน้างานเจอจากคนทำงาน Gen Z คือจรรยาบรรณในการทำงานที่แย่ (47%), การขาดความคิดริเริ่ม (45%), ทักษะการจัดการเวลาที่แย่ (44%) และการขาดความเป็นมืออาชีพ (43%)
เมื่อเจาะลึกในด้านที่พนักงาน Gen Z ขาดความเป็นมืออาชีพ หัวหน้างาน 58% กล่าวว่าพนักงาน Gen Z มีทัศนคติที่ไม่เป็นมืออาชีพ, 53% พบว่าทักษะการสื่อสารของพวกเขายังไม่เป็นมืออาชีพ และ 45% กล่าวว่าวิธีการรับคำติชมของพนักงาน Gen Z ยังไม่เป็นมืออาชีพ

หัวหน้าไม่ปลื้ม Gen Z แต่บริษัทยังต้องการพนักงาน Gen นี้อยู่
หัวหน้าครึ่งหนึ่งของผลสำรวจนี้กล่าวว่าพวกเขาได้ไล่พนักงาน Gen Z ออก และ 27% บอกว่าถ้าเป็นไปได้ พวกเขาจะหลีกเลี่ยงการจ้างพนักงาน Gen Z นี่สะท้อนว่า หัวหน้างานที่ต้องดูแลกลุ่มของ Gen Y เขาไม่ค่อยพึงพอใจกับการทำงานร่วมกับพนักงาน Gen Z แม้หัวหน้างานจะเปิดเผยข้อมูลเช่นนี้ บริษัทหรือฝ่ายสรรหาทรัพยากรบุคคลอาจจะไม่คิดอย่างนั้น เนื่องจากต้องจ้างเพื่อเติมเต็มตำแหน่งระดับเริ่มต้น และมองว่าคุ้มค่าในแง่ของค่าจ้างอยู่