[รีวิว] Moon Knight – (Ep.1) ฮีโรไอยคุปต์โคตรเฮี้ยน กับเจ้าพ่อกระตุกจิตกระชากใจ
Our score
8.5

Release Date

30/03/2022

แนว

แอ็กชัน

ความยาว

1 ซีซัน (6 ตอน)

เรตผู้ชม

13+

Executive Producer

'วิกตอเรีย อลอนโซ' (Victoria Alonso), 'แกรนต์ เคอร์ติส' (Grant Curtis), 'ลูอิส เดสโปซิโต' (Louis D'Esposito), 'โมฮัมเหม็ด ดิอับ' (Mohamed Diab), 'เควิน ไฟกี' (Kevin Feige), 'ออสการ์ ไอแซก' (Oscar Isaac), 'ทอมมี เตอร์เติล' (Tommy Turtle), 'แบรด วินเดอร์บามม์' (Brad Winderbaum)

ผู้กำกับ (Ep.1)

'โมฮัมเหม็ด ดิอับ' (Mohamed Diab)

[รีวิว] Moon Knight – (Ep.1) ฮีโรไอยคุปต์โคตรเฮี้ยน กับเจ้าพ่อกระตุกจิตกระชากใจ
Our score
8.5

Moon Knight | มูนไนต์

จุดเด่น

  1. การดำเนินเรื่องฉับไว ค่อย ๆ ไต่ความเดือดได้สนุกน่าติดตาม
  2. การดำเนินเรื่องฉับไว ค่อย ๆ ไต่ความเดือดตามวิธีแบบแอ็กชัน-ผจญภัย-สยองขวัญได้สนุกน่าติดตาม
  3. ออสการ์ ไอแซก เล่นสลับบทบาทอ่อนโยนและบ้าคลั่งได้อยู่มือมาก ๆ
  4. อีธาน ฮอว์ก ก็แสดงได้กระตุกจิตกระชากใจดีเหลือเกิน
  5. ใส่เรื่องราวตำนานอียิปต์ได้ถูกใจคนชอบตำนานไอยคุปต์

จุดสังเกต

  1. มีอาการเนื้อหาชวนสับสนนิดหน่อย แต้ถือว่าไม่เลวร้าย
  • ความสมบูรณ์ของเนื้อหา

    7.7

  • คุณภาพงานสร้าง

    9.1

  • คุณภาพของบท / เนื้อเรื่อง

    8.5

  • การตัดต่อ / การลำดับ และการดำเนินเรื่อง

    9.2

  • ความคุ้มค่าเวลาในการรับชม

    8.2

https://www.youtube.com/watch?v=pAV0h7lE-3M

Marvel ยังคงเดินหน้าสร้างซีรีส์ในจักรวาล MCU (Marvel Cinematic Universe) เพื่อลงฉายใน Disney+ อย่างต่อเนื่องครับ และถ้าเอาตามความรู้สึกของผู้เขียนเองล้วน ๆ ก็คือ Marvel เองเริ่มจะจับทางกับซีรีส์ถูกแล้วล่ะ ค่อนข้างชัดเจนเลยว่า Marvel ต้องการพยายามครีเอตวิธีและรูปแบบการนำเสนอให้มีความแปลกใหม่ มีความเฉพาะตัว เพื่อรักษาสมดุลของคนดู ระหว่างมือใหม่หัด Marvel กับแฟนเดนตายให้ไม่หนีจากกันมาก

Moon Knight

ถ้าเอาตัวอย่างที่ชัดเจนก็คือ ซีรีส์ลำดับที่แล้วอย่าง ‘Hawkeye’ (2021) ก็มีความเป็นซีรีส์กลิ่นอายคริสต์มาสแบบเต็ม ๆ และพอมาถึงซีรีส์อันดับที่ 6 อย่าง ‘Moon Knight’ หรือ ‘มูนไนต์’ ซึ่งเป็นครั้งแรกที่ Marvel เลือกหยิบเอาคาแรกเตอร์ซูเปอร์ฮีโรที่มีธีมของความเป็นอียิปต์โบราณ และผสมผสานกับคาแรกเตอร์ที่มีปัญหาทางจิต มีอาการโรคหลายบุคลิก (Dissociative Identity Disorder-DID) และเรื่องราวต้นฉบับอันสลับซับซ้อนที่ว่าด้วยตัวละครที่มีบุคลิกซับซ้อน เสมือนว่ามีอีกคนมาอาศัยร่างอยู่มานำเสนอ

Moon Knight

โดยในซีรีส์ได้ทีมผู้กำกับ 3 คนมาร่วมกันกำกับมินิซีรีส์ความยาว 6 ตอนนี้ ทั้ง ‘จัสติน เบนสัน’ (Justin Benson) และ ‘อาร์รอน มัวร์เฮด’ (Aaron Moorhead) ผู้กำกับคู่หูจากภาพยนตร์ ‘Synchronic’ (2019) และ ‘โมฮัมเหม็ด ดิอับ’ (Mohamed Diab) ผู้กำกับชาวอียิปต์แต๊ ๆ ที่เคยกำกับภาพยนตร์ ‘Clash’ (2016) มารับหน้าที่กำกับ Ep.1 ก่อนใครเพื่อน และยังมี ‘เจเรมี สเลเตอร์’ (Jeremy Slater) ผู้ผ่านงานเขียนบท ‘The Umbrella Academy’ (2019) และ ‘Fantastic Four’ (2015) มารับหน้าที่เขียนบท

Moon Knight

เนื้อเรื่องของอีพีแรกว่าด้วย ‘สตีเวน แกรนต์ / มาร์ก สเปกเตอร์ / มูน ไนต์’ (Oscar Isaac) พนักงานขายของที่ระลึกในพิพิธภัณฑ์อียิปต์ ผู้มีความรู้ด้านอียิปต์โบราณแบบแฟนพันธุ์แท้ สตีเวนประสบปัญหาประหลาด เมื่อเขาหลับ เขามักจะไปตื่นในสถานที่แปลก ๆ ที่ไม่คุ้นเคย แถมยิ่งนานเข้า เขาก็ยิ่งเข้าไปพบเจอกับสถานการณ์ที่ยิ่งแปลกยิ่งกว่า แถมตัวเขาดูเหมือนจะมีเสียงอะไรบางอย่างมาบงการเขาอยู่ตลอดเวลา ซึ่งก็น่าจะเป็น ‘คอนชู’ (พากษ์เสียงโดย F. Murray Abraham) เทพแห่งจันทราตามตำนานอียิปต์ นั่นก็เลยทำให้เขาเริ่มมีพฤติกรรมแปลกแยกจากคนอื่น ๆ แถมยังดูเป็นคนความจำสั้นไปเสียอย่างนั้น

Moon Knight

จนกระทั่งวันหนึ่ง เขาถึงเริ่มพบว่า ชีวิตของเขาเริ่มเหมือนมีใครอีกคนเข้ามาอาศัยร่างของเขาอยู่ อาการหลากบุคลิกเริ่มส่งผลร้ายต่อตัวเขามากขึ้นเรื่อย ๆ ทั้งการทำอะไรแบบไม่ตั้งใจ การที่ ‘เลย์ลา’ (May Calamaw) โทรมาหาเขา (มาแต่เสียงใน Ep แรก) แถมคอนชู และ ‘อาร์เธอร์ แฮร์โรว์’ (Ethan Hawke) เจ้าลัทธิผู้นับถือเทพเจ้าอัมมิต (Ammit) ผู้พิพากษาความถูกต้องตามความเชื่อแบบอียิปต์โบราณ และเมื่อทุกอย่างดันโผล่มาในโลกจริง เขาเองจึงได้ค้นพบว่า เขามี ‘มาร์ก สเปกเตอร์’ ทหารรับจ้างและอวตารเทพเจ้าอียิปต์ มาอาศัยร่างอยู่จริง ๆ จึงทำให้เขาต้องยอมให้มาร์กมาอาศัยร่างเพื่อให้รอดตาย

Moon Knight

สิ่งแรกที่ผู้เขียนพอจะสัมผัสได้เมื่อได้ชม Ep.1 ก็คือ ด้วยความที่ ‘Moon Knight’ เองนั้นเป็นฮีโรจาก Marvel Comics ที่ไม่เคยถูกหยิบเอามาสร้างเป็นภาพยนตร์ หรือแม้แต่ปรากฏตัวใน MCU มาก่อน ตัวเนื้อหาก็เลยไม่ได้อ้างอิงหรือเชื่อมโยงเนื้อหาใน MCU มากนัก แม้ว่าดูจะไม่ค่อยมีอะไรแบบนี้ แต่ก็แอบมี Easter Egg ที่พอจะอ้างอิงได้ว่า มันเป็นเหตุการณ์หลังจากซีรีส์ ‘Hawkeye’ (2021) นั่นแหละนะครับ และยังไงก็น่าจะมี Easter Egg ไปถึงซีรีส์ Marvel เรื่องอื่น ๆ ทั้งเรื่องราวในอดีต หรือแม้แต่เรื่องราวที่จะเกิดขึ้นในอนาคตด้วยก็อาจเป็นไปได้นะครับ ต้องลองดูอีพีต่อ ๆ ไปกันอีกที

Moon Knight

สำหรับผู้เขียน สิ่งที่โดดเด่น นอกจากโปรดักชัน ซีจี การถ่ายทำ ที่ทำได้ถึงตามมาตรฐานซีรีส์ Marvel แล้ว สิ่งที่เป็นจุดเด่นของซีรีส์เรื่องนี้ก็คือ การวางคาแรกเตอร์ให้กับ ‘ออสการ์ ไอแซก’ (Oscar Isaac) ต้องแสดงเป็นถึง 3 คาแรกเตอร์ แถมแต่ละตัวยังเข้า ๆ ออก ๆ แบบไร้กระบวนท่าเสียด้วย มันก็เลยทำให้ตัวละครตัวนี้มีความซับซ้อนและเข้าใจยากกว่าฮีโรตัวอื่น ๆ ใน MCU อยู่พอสมควร

Moon Knight

รวมทั้งในบทของสตีเวน ก็มีความแตกต่างจากตัวเอกฮีโรเรื่องอื่น ๆ ไปอีก เพราะถ้าเอาตามคอมิก สตีเวนจริง ๆ แล้วเป็นถึงมหาเศรษฐี แต่ในซีรีส์มีการเปลี่ยนให้สตีเวนเป็นเพียงชายหนุ่มพนักงานร้านกิฟต์ชอป นิสัยติ๋ม ๆ อ่อนโยน ไร้พิษภัย เงอะงะ สู้ชีวิตแต่โดนชีวิตสู้กลับอะไรแบบนั้น แทนที่จะมีความ Masculine มีความเป็นชายแบบช้ายชายมาก ๆ เหมือนฮีโรคนอื่น ๆ ซึ่งอันนี้ต้องยกความดีความชอบให้กับ ‘ออสการ์ ไอแซก’ เลยครับ ที่สามารถแบกเกือบทั้งอีพีได้อย่างเข้าถึง และระเบิดฟอร์มได้น่าประทับใจกันตั้งแต่อีพีแรกเลย เป็นทั้งคุณสตีหวีผู้อ่อนโยน และเป็นทหารรับจ้างผู้โหดเหี้ยม บ้าคลั่งได้ในเวลาเดียวกัน

Moon Knight

อีกคนที่ไม่พูดถึงไม่ได้ก็คือ ‘อีธาน ฮอว์ก’ (Ethan Hawke) ผู้รับบท ‘อาร์เธอร์ แฮร์โรว์’ (aka. อาจารย์แดงกีตาร์เจ้าเก่า) ที่ตามคอมิก เขาเป็นนักวิทยาศาสตร์ผู้พิการครึ่งซีก แต่ในซีรีส์ เขากลายเป็นเจ้าลัทธิผู้มีเทพเจ้าอัมมิต และการมุ่งพิพากษาคนชั่วเป็นที่ยึดถือ (แอบคล้าย ๆ ธานอสนะเนี่ย) แม้ว่าเราจะยังไม่ได้เห็นเขาเฉิดฉายในอีพีแรกมากนัก แต่พลังการแสดงของเขาก็เรียกได้ว่า มีเสน่ห์ น่าเกรงขาม ชวนให้และสงสัยในบทบาทของเขาในอีพีต่อ ๆ ไปได้แบบว่า “กระตุกจิตกระชากใจ” เสียเหลือเกิน

Moon Knight

ที่น่าสนใจอีกอย่างก็คือ การออกแบบโปรดักชันดีไซน์ที่เรียกว่าทำน้อยแต่ได้มากครับ โดยเฉพาะการหยิบธีมตำนานอียิปต์โบราณมาเล่า มันก็เลยทำให้ได้กลิ่นอายการผจญภัย ผสมกับความสยองขวัญแบบอียิปต์ ที่ชวนให้นึกถึงหนังเรื่อง ‘The Mummy’ (1999) ขึ้นมาได้เลยแหละ คนชอบเรื่องราวตำนานอียิปต์น่าจะปลื้มได้ไม่ยาก เพราะตัวซีรีส์พยายามใส่รายละเอียดเกี่ยวกับตำนานอียิปต์โบราณเข้ามาได้อย่างพอดิบพอดี ไม่ได้เยอะจนดูเบี้ยว แต่ก็ไม่ได้น้อยซะจนมีแต่ลม ๆ แล้ง ๆ

Moon Knight

รวมทั้งการใส่รายละเอียดต่าง ๆ เพื่อสะท้อนเรื่องราวความสับสนบ้าคลั่งภายในเรื่อง และการแฝงปริศนาให้รอการค้นพบในอีพีต่อ ๆ ไป ก็ทำให้ซีรีส์เรื่องนี้มีความน่าสนใจอยู่พอสมควร ทั้งซีนแรกที่ ‘อาร์เธอร์ แฮร์โรว์’ ปรากฏตัว การใช้ภาพสะท้อนกระจกและผืนน้ำ หรือแม้แต่ชื่ออีพี ‘The Goldfish Problem’ ก็สามารถเชื่อมโยงไปที่อาการหลง ๆ ลืม ๆ ของสตีหวี หรือแม้แต่เจ้ากัส ปลาทองที่เขาเลี้ยงก็ได้ด้วย ซึ่งจริง ๆ มีการแฝงปริศนาให้รอการค้นพบในอีพีต่อ ๆ ไปด้วย ต้องลองไปส่องดู

Moon Knight

และความโดดเด่นอีกอย่างคือวิธีการดำเนินเรื่อง และวิธีการตัดต่อครับ ด้วยความที่ตัวละครและเรื่องราวที่มีความซับซ้อนอยู่ระดับหนึ่ง มันก็เลยแอบทำให้ผู้เขียนมีความงง ๆ กับบางซีนนิดหน่อย แต่โดยรวมวิธีการเล่าถือว่าทำได้โอเคและไม่สับสนเลย ค่อย ๆ ไต่ระดับความเดือดจากน้อยไปมากได้แบบสุดมาก โดยเฉพาะการตัดต่อให้เห็นการที่สตีเวนถูกมาร์กสิงเข้าร่างแล้วทำอะไรห่าม ๆ แบบไม่รู้เนื้อรู้ตัว ที่แม้จะชวนให้สับสนอยู่บ้างในทีแรก แต่ก็ถือว่าเป็นวิธีการที่โดดเด่น และทำให้การดำเนินเรื่องโดยรวมออกมาไหลลื่นมาก

Moon Knight

อีกอย่างที่อยากให้ลองสังเกตกันก็คือการใช้เพลงประกอบครับ ที่ถือว่าโดดเด่นมาก ทั้งการใช้เพลงสากลได้แบบถูกจังหวะ ซึ่งจะว่าไปมันก็กลายเป็นรูปแบบเฉพาะของหนังและซีรีส์ Marvel ไปแล้วแหละ ทั้งการใส่เพลงสากลในซีนต่าง ๆ เพื่อเล่าเรื่อง รวมทั้งการใส่เพลงป๊อปยุค 80’s อย่าง “Wake me up before you gogo” ของวง ‘Wham!’ ในฉากแอ็กชันไล่ล่าดุเดือด ที่ยียวนกวนเบื้องล่างเหลือเกิน รวมทั้งเพลงสกอร์ที่ประพันธ์โดย ‘เฮแชม นาซีห์’ (Hesham Nazih) Composer ชาวอียิปต์แท้ ๆ ที่สามารถผสานดนตรีคลาสสิกเข้ากับความเป็นอียิปต์ได้อย่างลงตัวและมีพลังมาก ๆ ทำให้ซีรีส์เรื่องนี้ยิ่งมีกลิ่นอายที่โดดเด่นและเฉพาะตัวชัดเจนขึ้นไปอีก

Moon Knight

โดยสรุปแบบสั้น ๆ ครับ นี่คือซีรีส์ฮีโร Marvel ที่ถือว่าน่าจะเฮี้ยนที่สุดในบรรดาซีรีส์ทั้งหมดแล้วล่ะครับ นี่แค่อีพีแรกนะเนี่ย (555) ทั้งการดำเนินเรื่องที่ค่อย ๆ ทวีความบ้าคลั่งได้อย่างน่าตื่นเต้น จากซีรีส์แอ็กชันผจญภัย กลายเป็นความสยองขวัญที่ค่อย ๆ เพิ่มความเฮี้ยนได้อย่างน่าตื่นเต้น ปริศนาระหว่างทางที่วางไว้ได้อย่างน่าค้นหา วิธีการเดินเรื่องและตัดต่อที่น่าสนใจ และพลังของนักแสดงที่ชวนให้กระตุกจิตกระชากใจ ทำให้ซีรีส์เรื่องนี้กลายเป็นซีรีส์ที่ผู้เขียนเองก็หงุดหงิดว่าเมื่อไหร่ตอนใหม่จะมาซะที!


Moon Knight

ซีรีส์ ‘Moon Knight’ มีทั้งหมด 6 ตอน จะปล่อยทาง Disney+Hotstar ทุกวันพุธ 15.00 น.

ตอนที่ 1 : 30 มีนาคม 2022
ตอนที่ 2 : 6 เมษายน 2022
ตอนที่ 3 : 13 เมษายน 2022
ตอนที่ 4 : 20 เมษายน 2022
ตอนที่ 5 : 27 เมษายน 2022
ตอนที่ 6 : 4 พฤษภาคม 2022


Moon Knight

พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส