หลังจากเห็นข่าวดีของนักร้องสาว เทเลอร์ สวิฟต์ (Taylor Swift) ที่เพิ่งได้รับปริญญาดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์เราก็รู้สึกปลื้มกับเธอด้วย ทั้งสวยทั้งเก่งขนาดนี้ แถมงานเพลงที่เธอมุ่งมั่นตั้งใจทำมาโดยตลอดยังเป็นสิ่งที่สร้างรอยยิ้ม พลังใจและความรู้สึกดี ๆ ให้กับผู้ฟังมาโดยตลอดเป็นงานเพลงคุณภาพอย่างแท้จริงสมแล้วที่เธอจะได้รับเกียรตินี้

จากนั้นก็ทำให้คิดไปว่าแล้วมีนักร้องนักดนตรีคนไหนอีกนะที่ได้เป็นด็อกเตอร์กันทั้งที่ได้รับยกย่องแบบกิตติมศักดิ์และสำเร็จการศึกษาเอง ทำให้พบกับอีกหลายคนเลยที่มีเรื่องราวที่น่าสนใจและทำให้รู้ว่ามีนักร้องนักดนตรีหลายคนที่เก่งทั้งในด้านดนตรีจนมีผลงานโดดเด่นเป็นที่ประจักษ์แต่ในอีกด้านหนึ่งก็ศึกษาและทำงานในด้านที่ตนเองรักควบคู่กันไปได้อย่างน่าทึ่ง เป็นผู้มีความสามารถอันหลากหลายและทำได้ดีในทุกด้านเป็นมนุษย์ในแบบที่ถูกเรียกว่า มนุษย์ยุคเรอเนซองส์ (Renaissance man) ซึ่งนักร้องนักดนตรีต่อไปนี้คือตัวอย่างที่ดีและสามารถเป็นแรงบันดาลใจให้กับใครหลายคนได้มุ่งมั่นทำในสิ่งที่รักอย่างมีความสุข

Taylor Swift

ปริญญาดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ สาขาศิลปกรรมศาสตร์

ทำเอาแฟน ๆ เป็นปลื้มเมื่อนักร้องสาวเทเลอร์ สวิฟต์ ((Taylor Swift) ได้รับเกียรติให้เข้ารับปริญญาดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ในสาขาศิลปกรรมศาสตร์จากมหาวิทยาลัยนิวยอร์ก ซึ่งเป็นปริญญาแรกในชีวิตของเธอ เป็นของขวัญชิ้นสำคัญของชีวิตในวัย 32 ปี สมศักดิ์ศรีศิลปินที่ทำงานเพลงคุณภาพอย่างมุ่งมั่นและมีผลงานโดดเด่นเป็นที่ประจักษ์มาโดยตลอด

พิธีรับปริญญาครั้งนี้จัดขึ้นที่ Yankee Stadium ในนิวยอร์ก สวิฟต์ได้กล่าวติดตลกว่าเหตุผลหลักที่เธอได้รับเกียรติในครั้งนี้เพราะเธอมีเพลงที่ชื่อ “22” และเธอดีใจมากที่จะได้ร่วมแดนซ์ฉลองสำเร็จการศึกษากับนักศึกษาในปี 2022 ณ มหาวิทยาลัยนิวยอร์กแห่งนี้

นอกจากนี้เธอยังให้แง่คิดสำคัญในชีวิตว่าเรื่องน่าอายนั้นเป็นสิ่งที่เลี่ยงไม่ได้และเราควรจะเรียนรู้จากความอับอายและความผิดพลาดทั้งหลายในชีวิต ซึ่งเธอมีวันนี้ได้ก็เพราะการเรียนรู้จากสิ่งเหล่านี้นั่นเอง

Brian May (วง Queen)

ปริญญาดุษฎีบัณฑิต สาขาฟิสิกส์ดาราศาสตร์

เรามาเริ่มต้นกันกับคนที่อาจไม่ค่อยจะเซอร์ไพรส์สักเท่าไหร่ เพราะคนส่วนใหญ่อาจจะรู้กันอยู่แล้วว่า ไบรอัน เมย์ (Brian May) มือกีตาร์ในตำนานของวงการดนตรีจากวง Queen นั้นเป็น ‘ดร.เมย์’

แม้ว่าเมย์จะเป็นนักวิชาการมาก่อนการขึ้นสู่ตำแหน่งดาวเด่นแห่งวงการดนตรี แต่เพิ่งไม่นานนี้เองที่เมย์ได้รับตำแหน่งอันทรงเกียรติ เมย์เริ่มพัฒนาวิทยานิพนธ์เรื่องแสงสะท้อนจากฝุ่นในอวกาศและความเร็วของฝุ่นภายในระบบสุริยะของเราในปี 1970 ที่ Imperial College London แต่ก็ต้องพักการศึกษาวิจัยไว้ก่อนในปี 1974 เนื่องจาก Queen กำลังประสบความสำเร็จในระดับโลก

จากนั้นเมย์ได้กลับมาลงเรียนใหม่ในปี 2006 และหลังจากแก้ไขเนื้อหาของวิทยานิพนธ์ตามการค้นพบทางวิชาการในช่วง 32 ปีที่ผ่านมา ในที่สุดเมย์ก็สำเร็จการศึกษาในระดับปริญญาเอกในปีต่อไป

การมีส่วนร่วมของเมย์ในด้านวิทยาศาสตร์ไม่ได้จำกัดอยู่แค่วิทยานิพนธ์ระดับปริญญาเอกของเขา เนื่องจากเขามีส่วนเกี่ยวข้องกับโครงการสำคัญ ๆ มากมายในช่วงหลายปีที่ผ่านมา เช่น โครงการสำรวจดาวพลูโต “New Horizons” ของ NASA อีกด้วย

Dexter Holland (ร้องนำ The Offspring)

ปริญญาดุษฎีบัณฑิต สาขาอณูชีววิทยาจาก University of Southern California

นอกจากไบรอัน เมย์ แล้วก็ยังมีเด็กซ์เตอร์ ฮอลแลนด์ (Dexter Holland) อีกคนที่เป็นนักดนตรีที่จบการศึกษาในระดับปริญญาเอกและเป็นที่รู้กันดีในหมู่แฟน ๆ  ฮอลแลนด์เริ่มต้นศึกษาด้านวิทยาศาสตร์ที่ University of Southern California ซึ่งเขาสำเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรีและปริญญาโทในช่วงปลายยุค 80s และเรียนต่อปริญญาเอกในสาขาสาขาอณูชีววิทยา (molecular biology) ในมหาวิทยาลัยเดียวกันนี้ แต่ฮอลแลนด์ก็ได้ตัดสินใจพักการทำวิทยานิพนธ์ในระดับปริญญาเอกไปก่อนเพื่ออุทิศตนให้กับวงดนตรีอย่างเต็มที่เหมือนกับ ไบรอัน เมย์ ก่อนที่จะกลับมาศึกษาต่อจนได้รับปริญญาดุษฎีบัณฑิต ในปี 2017 โดยทำการศึกษาเรื่องการระบุลำดับของ microRNA ในจีโนมของเชื้อ HIV

Milo Aukerman (ร้องนำ Descendants)

ปริญญาดุษฎีบัณฑิต สาขาอณูชีววิทยาจาก UC San Diego

ดูเหมือนว่าน่าจะมีความเชื่อมโยงกันอะไรบางอย่างระหว่างอณูชีววิทยากับดนตรีพังก์ เพราะ ไมโล เอาเคอร์แมน (Milo Aukerman) นักร้องนำวง Descendants ก็เป็นอีกคนที่จบการศึกษาในสาขานี้

ไมโลเริ่มร้องเพลงให้กับ Descendants ในปี 1979 และใช้เวลา 30 กว่าปีในการกลับไปกลับมาระหว่างการเป็นสมาชิกวงดนตรีที่มีชื่อเสียงกับการศึกษาและทำงานเป็นนักวิจัยด้านอณูชีววิทยา ไมโลสำเร็จการศึกษาปริญญาเอกด้านอณูชีววิทยาจาก UC San Diego และได้ทำการวิจัยหลังปริญญาเอกในสาขาอณูชีววิทยาที่ University of Wisconsin–Madison และ University of Pennsylvania แต่ในที่สุดเขาก็ลาออกจากวงวิชาการในปี 2016 เพื่ออุทิศตนให้กับวงดนตรีอย่างเต็มที่ ซึ่งเป็นปีที่สตูดิโออัลบั้มล่าสุดของ Descendants “Hypercaffium Spazzinate” ออกวางจำหน่าย

Greg Graffin (ร้องนำ Bad Religion)

ปริญญาดุษฎีบัณฑิต สาขาสัตววิทยาจาก Cornell University

เกร็ก กราฟฟิน (Greg Graffin) เป็นที่รู้จักกันในฐานะพังก์ไอคอนผู้ทรงอิทธิพลแห่งวงการดนตรีพังก์ และแรงขับเคลื่อนสำคัญที่สร้างความยิ่งใหญ่ให้กับวง Bad Religion

แม้ว่า Bad Religion จะประสบความสำเร็จอย่างมาก แต่กราฟฟินผู้เชี่ยวชาญในเครื่องดนตรีอันหลากหลายและการร้องเพลงก็ไม่ได้จำกัดตัวเองให้อยู่ในขอบเขตของโลกดนตรีเท่านั้น เช่นเดียวกับในด้านวิชาการกราฟฟินก็ไม่ได้จำกัดตัวเองอยู่กับความรู้ในศาสตร์เพียงศาสตร์เดียว ในระดับปริญญาตรีกราฟฟินศึกษาด้านมานุษยวิทยาและธรณีวิทยาที่ University of California ต่อมาในระดับปริญญาโทเขาก็ได้ศึกษาต่อด้านธรณีวิทยาที่ UCLA ก่อนที่จะหันเหไปศึกษาด้านสัตววิทยาที่ Cornell University ซึ่งกราฟฟินได้พัฒนาวิทยานิพนธ์ระดับปริญญาเอกภายใต้ชื่อ “วิวัฒนาการและศาสนา: การตั้งคำถามกับความเชื่อของนักวิวัฒนาการที่โด่งดังของโลก”  “Evolution and Religion: Questioning the Beliefs of the World’s Eminent Evolutionists” ซึ่งตีพิมพ์ครั้งแรกในปี 2003 โดยในตอนนั้นใช้ชื่อว่า “วิวัฒนาการ ลัทธิเอกนิยม ลัทธิอเทวนิยม และมุมมองของนักธรรมชาติวิทยา: มุมมองจากชีววิทยาวิวัฒนาการ” (Evolution, Monism, Atheism, and the Naturalist World-View: Perspectives from Evolutionary Biology)

และถึงแม้ว่า Bad Religion จะมีงานอัลบั้มและทัวร์อย่างแน่น แต่ก็ไม่ได้ขัดขวางกราฟฟินจากการทำงานด้านวิชาการด้วยการเป็นอาจารย์สอนวิชาวิชาวิทยาศาสตร์ธรรมชาติที่ University of California และ Cornell University อันเป็นสถานที่ที่เขาจบการศึกษามาด้วย

Sterling Morrison (มือกีตาร์/เบส The Velvet Underground)

ปริญญาดุษฎีบัณฑิต สาขาวรรณคดียุคกลาง

ความสำเร็จของ The Velvet Underground อาจเป็นผลพวงจากแนวทางที่กล้าหาญและสร้างสรรค์ของ ลู รีด (Lou Reed) ในการเขียนเพลงร็อกและเนื้อเพลงที่เฉียบคมเป็นส่วนใหญ่ ด้วยเหตุนี้จึงไม่น่าแปลกใจเลยที่ผู้คนมักจะนึกถึงรีดเมื่อได้ฟังเพลงคลาสสิก ๆ ของวงอย่าง “Pale Blue Eyes” หรือ “Venus in Furs” แต่ The Velvet Underground คงไม่มีทางมาได้ไกลขนาดนี้หากขาดความเก่งกาจของ สเตอร์ลิง มอร์ริสัน (Sterling Morrison) และการเล่นกีตาร์ที่ง่าย ๆ แต่ได้ใจของเขาซึ่งสนับสนุนความกล้าหาญของลู รีด

แม้ว่าทั้งรีดและมอร์ริสันจะเรียนที่ Syracuse University ในนิวยอร์ก แต่ทั้งคู่ก็เรียนไม่จบเพราะมัวแต่ยุ่งอยู่กับ The Velvet แต่อย่างไรก็ตามเมื่อวงได้ใช้ช่วงฤดูร้อนของปี 1970 เล่นที่ Max’s Kansas City Club ในนิวยอร์ก มอร์ริสันก็รีบไปที่ City College of New York เพื่อศึกษาต่อในระดับปริญญาตรีให้จบอย่างรวดเร็ว ในที่สุดมอร์ริสันก็ได้ร่ำเรียนไปจนถึงระดับปริญญาเอก โดยเขาศึกษาเกี่ยวกับงานบทกวีของกวีแองโกล-แซกซอนนาม Cynewulf ที่ University of Texas ในออสติน และถึงขนาดตัดสินใจลาออกจากวงเพื่ออุทิศตนให้กับการศึกษาอย่างเต็มที่

Warren Zanes (มือกีตาร์ The Del Fuegos)

ปริญญาดุษฎีบัณฑิต สาขาทัศนศิลป์และวัฒนธรรมศึกษา

The Del Fuegos เป็นวงการาจร็อกที่ได้รับความสนใจอย่างมากในช่วงกลางทศวรรษที่ 80s ด้วยเพลงอย่าง “Don’t Run Wild” และ “I Still Want You” และหลังจากอัลบั้มที่ 3 พวกเขาก็ได้พบกับหายนะทางด้านยอดขาย

แต่อย่างไรก็ตามนั่นก็ไม่ได้ขัดขวางสมาชิกในวงรวมทั้ง วอร์เรน ซาเนส (Warren Zanes) ให้ประสบความสำเร็จในด้านอื่น หลังจากออกจากวงแล้ว ซาเนสก็ได้รับปริญญาดุษฎีบัณฑิต ในสาขาทัศนศิลป์และวัฒนธรรมศึกษา และมีผลงานเดี่ยวที่สร้างชื่อเสียง และยังเป็นรองประธานด้านการศึกษาของ Rock and Roll Hall of Fame อีกด้วย

เป็นที่น่าสนใจว่าซาเนสไม่ได้เป็นสมาชิกวงเพียงคนเดียวที่มีปริญญาอันทรงเกียรติ เพราะว่า ทอม ลอยด์ (Tom Lloyd) อดีตมือเบสของวงก็ได้รับปริญญาดุษฎีบัณฑิตสาขาวิศวกรรมสิ่งแวดล้อมจากสถาบันเทคโนโลยีแคลิฟอร์เนียด้วย

Wagner “Antichrist” Lamounier (อดีตนักร้องนำ Sepultura)

ปริญญาดุษฎีบัณฑิต สาขาเศรษฐศาสตร์

วากเนอร์ ลาโมเนียร์ (Wagner Lamounier) เป็นบุคคลที่มีอิทธิพลอย่างมากสำหรับแนวเพลงเมทัลทั้งในบราซิลบ้านเกิดของเขาและทั่วโลก เขาเปิดตัวในฐานะนักร้องคนแรกของ Sepultura ซึ่งในที่สุดก็กลายเป็นวงดนตรีที่โด่งดังในระดับสากลเป็นหนึ่งในวงดนตรีแทรชเมทัลที่ร้อนแรงที่สุด จากนั้นเขาก็ลาออกมาและเริ่มวงดนตรีของเขาเองที่ชื่อ Sarcófago ซึ่งปัจจุบันได้รับการยกย่องว่าเป็นอิทธิพลสำคัญต่อ Norwegian Black Metal รวมถึงวงดนตรีประเภทแทรชและเดธเมทัลเดือด ๆ อีกจำนวนมาก

ลาโมเนียร์เกษียณตนเองจากวงการดนตรีในปี 2000 และปัจจุบันเป็นอาจารย์ด้านเศรษฐศาสตร์และสถิติประยุกต์ที่ Universidade Federal de Minas Gerais ในเมืองเบโลโอรีซอนตี ประเทศบราซิล

Bill Bruford (อดีตมือกลอง Yes)

ปริญญาดุษฎีบัณฑิต สาขาดนตรี

บิล บรูฟอร์ด (Bill Bruford) คือตำนาน มีนักดนตรีเพียงไม่กี่คนในโลกนี้ที่สามารถเป็นสมาชิกวงดนตรีที่โด่งดังเช่น Yes, King Crimson, Genesis และ U.K. ได้ทั้งหมดในช่วงชีวิตเดียว แต่บิลก็ไม่เคยอวดโอ่เลยสักครั้ง เขาแค่รักในสิ่งที่ทำและความรักในดนตรีของเขานั้นชัดเจนและจริงใจ

หลังจากที่บิลออกจากวงการดนตรีในปี 2009 เขาได้เปลี่ยนเส้นทางความหลงใหลจากดนตรีไปสู่วิชาการและสำเร็จการศึกษาระดับปริญญาเอกด้านดนตรีที่ University of Surrey ในปี 2016 อัลบั้มสุดท้ายที่บรูฟอร์ดฝากไว้ให้กับวงการดนตรีคือ “Skin and Wire” ในปี 2009 ซึ่งเขาได้ออกกับวง Piano Circus

ธงไชย แมคอินไตย์

ปริญญาดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ สาขาดนตรีคีตศิลป์สากลศึกษา

ธงไชย แมคอินไตย์ หรือ ‘พี่เบิร์ด’ คือนักร้องเบอร์หนึ่งในดวงใจของคนไทยทั้งประเทศ เสียงร้องสะกดใจและความเป็นเอนเตอร์เทนเนอร์มืออาชีพ บวกกับบุคลิกลักษณะนิสัยที่อบอุ่นเป็นมิตรและมีความเป็น ‘พี่เบิร์ด’ สำหรับทุก ๆ คนทำให้พี่เบิร์ดหยัดยืนอยู่ในวงการอย่างสง่างามมายาวนาน

และในที่สุดหลังจากได้รับการยกย่องจากการเป็นศิลปินแล้ว พี่เบิร์ดก็ได้รับเกียรติให้เข้ารับปริญญาศึกษาศาสตร์ดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ สาขาดนตรีคีตศิลป์สากลศึกษา จากมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคล (มทร.) ธัญบุรีอย่างสมเกียรติเป็นด็อกเตอร์พี่เบิร์ดที่พร้อมจะร้องพร้อมจะเต้นให้ทุกคนมีรอยยิ้มกันต่อไป

ที่มา

ultimate guitar

online-phd-programs

visual.ly

collegeconcensus

พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส