การพิจารณาคดีฟ้องร้องค่าเสียหายจากกรณีอดีตสามีภรรยาคู่เวรคู่กรรมอย่าง ‘จอห์นนี เดปป์’ (Johnny Depp) ที่กำลังดำเนินการฟ้องอดีตภรรยา ‘แอมเบอร์ เฮิร์ด’ (Amber Heard) จากเหตุที่ทำให้เดปป์ต้องเสื่อมเสียชื่อเสียงยังคงดำเนินต่อไป ดูเหมือนกระแสของเฮิร์ดจะเริ่มฮวบฮาบลงไปทุกที จากความโป๊ะต่าง ๆ นานาในการให้การในชั้นศาลจากฝั่งของเธอเองหลายต่อหลายครั้งตลอดระยะเวลาหนึ่งเดือนเศษในการพิจารณาคดี

ล่าสุด หลังจากที่มีข่าวลือว่า วอร์เนอร์ บราเธอร์ส พิกเจอร์ส (Warner Bros. Pictures) สตูดิโอผู้จัดจำหน่ายภาพยนตร์ซูเปอร์ฮีโรดีซี (DC) อย่าง ‘อะควาแมน’ (Aquaman) มีแผนประชุมด่วนเพื่อหารือว่า จะตัดบทบาท ‘เมรา’ (Mera) ที่เฮิร์ดรับบทออกแบบเหี้ยนไม่เหลือซาก หลังจากที่เพิ่งมีข่าวลือว่าบทบาทของเธอในภาพยนตร์ Aquaman ภาค 2 ที่จะใช้ชื่อว่า ‘Aquaman and the Lost Kingdom’ ออกเหลือเพียงแค่ 10 นาที

Amber Heard Aquaman
‘แอมเบอร์ เฮิร์ด’ (Amber Heard)

ในขณะเดียวกัน เฮิร์ดก็ได้ให้ปากคำในชั้นศาลในการนัดไต่สวนคดีเมื่อวันที่ 16 พฤษภาคมที่ผ่านมา ซึ่งเป็นการให้ปากคำที่สอดคล้องกับข่าวลือ เพราะเธอเผยว่า วอร์เนอร์ บราเธอร์ส สตูดิโอ พยายามจะบีบเธอออกจากภาพยนตร์ ด้วยการตัดบทบาทเมราออกไปจากสคริปต์ภาพยนตร์ Aquaman 2 ที่เธอได้รับ ทำให้เธอมีบทบาทในหนังน้อยลง แถมน้องแอ๋มยังหลุดสปอยล์ออกมาอีกว่า ฉากแอ็กชันสำคัญในหนังที่มีบทของเธอก็ถูกตัดออกไปอีกต่างหาก

ล่าสุด ก็มีความเคลื่อนไหวออกมาจากฟากฝั่งของสตูดิโอด้วยเช่นกัน เพราะในการนัดไต่สวนคดีเมื่อเช้าวันที่ 24 พฤษภาคมที่ผ่านมา ‘วอลเตอร์ ฮามาดะ’ (Walter Hamada) ประธานฝ่ายดีซี ฟิล์ม (DC Films) ของวอร์เนอร์ บราเธอร์ส พิกเจอร์ส ได้เข้าให้การในฐานะพยานผู้เกี่ยวข้องกับความขัดแย้งของอดีตคู่เวรคู่กรรม โดยฮามาดะได้ให้การว่า เขายอมรับว่าที่ผ่านมา สตูดิโอมีความพยายามพิจารณาเพื่อหานักแสดงเพื่อมารับบทเมราแทนที่ แอมเบอร์ เฮิร์ด ใน Aquaman 2 จริง แต่ไม่ใช่เป็นผลและอิทธิพลที่มาจากคดีความของเธอแต่อย่างใด

Amber Heard Aquaman
‘วอลเตอร์ ฮามาดะ’ (Walter Hamada) ประธานฝ่ายดีซี ฟิล์ม (DC Films) ของวอร์เนอร์ บราเธอร์ส พิกเจอร์ส

แต่เป็นเพราะมีความกังวลว่า เธอกับนักแสดงผู้รับบท อาร์เธอร์ เคอร์รี (Arthur Curry) หรืออะควาแมนอย่าง ‘เจสัน โมโมอา’ (Jason Momoa) นั้น จะมีเคมีที่ไม่เข้ากัน ในบริบทที่ตัวหนังจะเริ่มปรับและขับเน้นเรื่องความสัมพันธ์ที่เข้มข้นมากขึ้นกว่าภาคที่แล้วต่างหาก

ฮามาดะใช้คำว่า ด้วยเคมีที่ไม่เข้ากันนี้ ทำให้เฮิร์ดน่าจะยัง ‘ไม่ใช่’ นักแสดงที่เหมาะสมนัก และน่าจะต้องปรึกษาเพื่อหานักแสดงคนใหม่มาแทนเฮิร์ด ส่งผลให้หนังต้องเลื่อนการถ่ายทำออกไปนานหลายสัปดาห์ ก่อนที่จะตัดสินใจไม่เปลี่ยนนักแสดงในภายหลัง

ฮามาดะเผยว่า “เคมีของพวกเขาไม่ค่อยเข้ากันเท่าไหร่นัก แต่ด้วยไอเดียของสตูดิโอ พวกเขาสามารถทำให้ความสัมพันธ์ (ของอะควาแมนกับเมรา ใน ‘Aquaman’ (2018)) มันโอเคขึ้นได้ แต่ถก็ยังมีความกังวลในการจะพยายามทำให้สำเร็จอยู่ พวกเขาไม่ได้มีเคมีที่เข้ากันเท่าไหร่ ถ้าคุณได้เห็นเองถึงจะรู้”

Amber Heard Aquaman
‘จอห์นนี เดปป์’ (Johnny Depp)

ฮามาดะเผยเพิ่มเติมว่า เคมีเหล่านั้นต้องพึ่งพาอาศัย ‘เวทมนตร์ทางภาพยนตร์’ (Movie Magic) ในขั้นตอนหลังการถ่ายทำ (Post-Production) ด้วยการใส่เพลงประกอบเพื่อจูงใจให้คนเชื่อในเคมีนั้นแทน แต่อย่างไรก็ตาม เคมีระหว่างนักแสดงนำก็ยังมีปัญหาอยู่ดี ซึ่งก็ถือเป็นปัญหาปกติในการถ่ายทำภาพยนตร์อยู่แล้ว

ทางฝั่งทนายของเฮิร์ดเองก็ได้โต้แย้งว่า ใน Aquaman ภาคแรก เธอได้รับค่าตัว 1 ล้านเหรียญสหรัฐฯ และในภาค 2 เธอจะได้ค่าตัว 2 ล้านเหรียญดอลลาร์สหรัฐฯ แต่แม้ว่าเธอจะยังได้กลับมารับบทเดิมใน Aquaman 2 แต่ทนายได้ให้การชี้ว่า จากความสำเร็จของตัวหนังในภาคแรก เฮิร์ดควรมีสิทธิ์ที่จะพิจารณาต่อรองเพื่อให้ได้ค่าตัวเพิ่มขึ้น

แต่ด้วยคดีความที่ฟ้องร้องกันนี้ ทำให้เธอนั้นมีสถานะเหมือนคนใกล้จะตกงาน จนไม่สามารถเรียกร้องรายได้เพิ่มเติม และยังต้องสูญเสียชื่อเสียงและโอกาสมากมายในอาชีพนักแสดงอีกด้วย และยังได้กล่าวอ้างว่า คดีความนี้ทำให้เธอเสียโอกาสที่จะได้รับงานแสดงภาพยนตร์อีกเรื่องที่สร้างโดยแอมะซอน สตูดิโอ (Amazon Studios) อีกด้วย

Amber Heard Aquaman
‘เจสัน โมโมอา’ (Jason Momoa) ‘แพทริค วิลสัน’ (Patrick Wilson) ใน ‘Aquaman’ (2018)

ในประเด็นนี้ ฮามาดะได้ชี้แจงเพิ่มเติมว่า เขาในฐานะผู้บริหารของดีซีฟิล์มส์ ได้ชี้แจงอย่างชัดเจนไปแล้วว่า จะไม่มีการต่อรองเรื่องนี้ในหนังภาคต่ออีก และในสัญญาก็ได้ระบุชัดเจนว่า จะไม่มีการต่อรองค่าตอบแทนใด ๆ ในภายหลัง เธอจึงไม่สามารถที่จะได้ค่าตอบแทนใด ๆ เพิ่มได้อีกตามที่ทนายกล่าวอ้าง

ฮามาดะยังได้กล่าวเพิ่มเติมอีกว่า ไม่ได้ตั้งใจว่าจะให้เฮิร์ดเป็นนักแสดงนำร่วมตั้งแต่แรกอยู่แล้ว แต่ใน Aquaman 2 ที่มีกำหนดฉายในปี 2023 จะมีแนวทางหนังเป็นแนวบัดดีคอมมีดี้ (Buddy Comedy) หรือแนวคู่หูคู่ฮา ระหว่างเจสัน โมโมอาในบทอะควาแมน กับนักแสดงร่วมอย่าง ‘แพทริค วิลสัน’ (Patrick Wilson) ผู้รับบทเป็นคิงออร์ม (King Orm) น้องชายต่างมารดาของอะควาแมน

ส่วนบทเมราของเฮิร์ดนั้นไม่ได้มีอะไรเปลี่ยนไป นับตั้งแต่ที่หนังถูกพัฒนาเป็นครั้งแรกตั้งแต่ปี 2018 ซึ่งขัดกับคำให้การของฝั่งเฮิร์ดที่บอกว่าบทบาทของเธอถูกตัดให้น้อยลงระหว่างถ่ายทำ


ที่มา: variety

พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส