เว็บไซต์ Collider ได้เปิดเผยคำให้สัมภาษณ์ของ ฟรานซิส ลอว์เรนซ์ (Francis Lawrence) ผู้กำกับ ‘The Hunger Games: Mockingjay’ Part 1 และ Part 2 ซึ่งได้กล่าวถึงการร่วมงานกับ Netflix ในโปรเจกต์ ‘BioShock’ ที่ดัดแปลงจากวิดีโอเกมสุดฮิตในชื่อเดียวกัน

ลอว์เรนซ์ได้กล่าวว่า เขากำลังทำงานอย่างใกล้ชิดกับสตูดิโอเกม Take-Two Interactive และ เคน เลวีน (Ken Levine) หัวหน้าผู้สร้างเกม

“ได้มีการพูดคุยกับเรตและโทนของภาพยนตร์มาโดยตลอด ตอนนี้ผมไม่ต้องการพูดรายละเอียดมากเกินไปเพราะยังอยู่ในขั้นดำเนินการเบื้องต้น และผมมั่นใจว่าไม่ได้รู้สึกอึดอัดใจใด ๆ ในการร่วมมงานกับ Netflix หลายสิ่งในภาพยนตร์จะดำเนินตามเกมต้นฉลับอย่างจริงจัง”

BioShock

นอกจากนี้ ลอว์เรนซ์ยังได้ต้องการให้ภาพยนตร์ได้เรต R หรือ TV-MA โดยตัวเกมต้นฉบับนั้นได้รับการจัดเรตในประเภท M ซึ่งหมายความว่าเป็นเกมเฉพาะสำหรับผู้ที่อายุ 17 ปีขึ้นไป เนื่องจากมีฉากเลือดสาด, รุนแรง, การใช้ยาเสพติด, การร่วมเพศ และภาษาที่หยาบคาย

TV-MA เป็นการจัดเรตเนื้อหาที่ฉายบนโทรทัศน์หรือบริการสตรีมมิงซึ่งมีความรุนแรง, การใช้ภาษาหยาบคาย, ภาพอนาจารทางเพศ หรือเนื้อหาที่มีความล่อแหลม เทียบได้กับเรต R หรือ NC-17 ทางฝั่งภาพยนตร์

BioShock

‘BioShock’ เป็นวิดีโอเกมไซไฟสยองขวัญที่ได้รับการเปิดตัวเมื่อปี 2007 และได้รับคำชื่นชมอย่างมากมายเกี่ยวกับเนื้อเรื่องที่ไม่อาจคาดเดาได้, การออกแบบงานภาพที่สวยงามแปลกตา และธีมของเกมที่มีความซับซ้อน โดยมีความพยายามนำเกมดังกล่าวมาดัดแปลงเป็นภาพยนตร์มาแล้วเมื่อปี 2010 โดย Universal ได้วางต้วให้ กอร์ เวอร์บินสกี (Gore Verbinski) จาก ‘Pirates of the Caribbean’ ทั้ง 3 ภาค มารับหน้าที่กำกับ แต่ก็ถูกยกเลิกไปเนื่องจากผู้กำกับต้องการให้ภาพยนตร์ได้เรต R และทางสตูดิโอตั้งเป้าว่าให้ทำรายได้ถึง 200 ล้านเหรียญ

จนกระทั่ง Netflix ได้ประกาศงานสร้างภาพยนตร์ ‘BioShock’ อย่างเป็นทางการเมื่อเดือนสิงหาคม 2022 ที่ผ่านมา โดยวางกำหนดการฉายไว้ในปี 2023 หรือ 2024

อ้างอิง

พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส