เป็นช่วงเวลาที่สาแก่ใจสายอินดี้กับโชว์ครั้งล่าสุดของ ‘Cigarettes After Sex’ วงอินดี้แอมเบียนต์ป๊อป และดรีมป๊อปจากเท็กซัส เจ้าของบทเพลงโรแมนติกสุดนุ่มนวลชวนลอยฟุ้ง อย่าง “Apocalypse”, “K”, “Sweet”, “Affection”, “Cry”, “Nothing’s Gonna Hurt You Baby” หรือว่าจะเป็นซิงเกิลใหม่อย่าง “Pistol” ต้องบอกว่าโชว์นี้เป็นสิ่งที่แฟน ๆ รอมานานกว่า 3 ปีเพราะว่ามีเจ้าโควิดตัวดีมาเป็นอุปสรรคขวางกั้น แต่ในที่สุดโชว์ครั้งที่ 3 ในไทยของ ‘Cigarettes After Sex’ ที่จัดโดย ‘Be Hear Now’ ภายใต้ทัวร์สุดยิ่งใหญ่แห่งปีในเอเชีย ‘Cigarettes After Sex 2023 Asia Tour Live in Bangkok’ ที่มีขึ้นในค่ำคืนของวันศุกร์ที่ 27 มกราคม 2023 ณ Moonstar Studio ก็จบลงไปอย่างงดงามและเอาใจของแฟน ๆ ที่พร้อมต้อนรับอย่างล้นหลามจนบัตร Sold Out ไปเต็ม ๆ  

ประตูเปิดให้เข้าในเวลาหนึ่งทุ่มตรงและพอเวลาสองทุ่มกว่า ๆ เสียงอินโทรอารมณ์แจ๊ซก็ดังขึ้นมาต้อนรับสมาชิกวงทั้ง 3 ซึ่งประกอบไปด้วย เกร็ก กอนซาเลซ (Greg Gonzalez) นักร้องนำและกีตาร์ แรนดอล มิลเลอร์ (Randall Miller) – เบส และ เจคอบ ทอมสกี้ (Jacob Tomsky) – กลอง ที่ปรากฏตัวขึ้นมาบนเวทีท่ามกลางเสียงกรี๊ดต้อนรับของแฟน ๆ  บทเพลงแรกที่ดังขึ้นมาต้อนรับคอนเสิร์ตในครั้งนี้ก็คือ “Crush” กับน้ำเสียงในสไตล์ ‘Androgyny’ อันเป็นเอกลักษณ์ในน้ำเสียงที่ผสานความเป็นชายและหญิงเข้าไว้ด้วยกันของเกร็ก เสียงกีตาร์ชวนล่องลอยเคลิ้มฝันและริทึ่มเซ็กชันที่มินิมอลแต่แน่น เป็นอะไรที่ฟินหัวใจและพาเราเคลิบเคลิ้มไปมาก ๆ เลยทีเดียว

มาเคลิ้มกันต่อด้วยบทเพลงเพราะ ๆ แบบ non-stop ของวงทั้ง “You’re All I Want” “John Wayne” บทเพลงที่เอานักแสดงภาพยนตร์คาวบอยระดับตำนาน จอห์น เวย์น มาใช้ในการเปรียบเปรยช่วงเวลาของการพยายามไล่ตามหาความรักจากใครคนหนึ่ง  พอจบเพลงนี้เกร็กก็ส่งเสียงทักทายกล่าวขอบคุณที่แฟน ๆ มาร่วมเอ็นจอยกับบทเพลงของเขาในค่ำคืนนี้ จากนั้นจึงเข้าสู่ซิงเกิลล่าสุดของวง “Pistol” ที่เกร็กบอกว่านี่เป็นครั้งแรก ๆ ที่เล่นเพลงนี้แบบสด ๆ แฟน ๆ ชาวไทยจึงได้มีโอกาสเคลิ้มไปกับบทเพลงที่ใช้ซาวด์ดนตรีนุ่มละมุนผสานเนื้อเพลงบาดลึกถึงอารมณ์ชวนให้รู้สึกดำดิ่งและล่องลอยได้ในเวลาเดียวกัน

ตามติดมาด้วยบทเพลง “Cry” ที่หน้าจอด้านหลังขึ้นเป็นภาพของนักแสดงสาว อันนา คารินา (Anna Karina) จากภาพยนตร์เรื่อง ‘Vivre sa vie’ (1962) ของ ฌอง-ลุค โกดาร์ด (Jean-Luc Godard) ผู้กำกับนิวเวฟในตำนานของวงการภาพยนตร์ฝรั่งเศสผู้ล่วงลับ ซึ่งภาพใบหน้าเปื้อนหยดน้ำตาที่เปี่ยมไปด้วยอารมณ์เศร้าร้าวลึกของเธอนั้นเสริมส่งพลังของบทเพลงนี้ได้อย่างลึกลับและงดงาม

ต่อด้วยเพลงฮิตในดวงใจใครหลายคนอย่าง “Affection” ที่ทำเอาเคลิ้ม ก่อนที่เพลงต่อมาจะขึ้นด้วยลีลาเบสเท่ ๆ จากแรนดอลเข้าสู่บทเพลง “Nothing’s Gonna Hurt You Baby” กับท่วงทำนองที่ซึมซาบได้ง่ายบนเนื้อร้องที่ความหมายโรแมนติกดีเพลงนี้ และต่อด้วย “Sweet” บทเพลงที่หวานสมชื่อ  

และมาเศร้า ๆ กันหน่อยใน “Sunsetz” ก่อนที่จะมาเคลิ้มกันต่อกับ “K” เรื่องราวของสาวชื่อคริสเตนกับท่วงทำนองแห่งความคิดถึง ความห่วงหา และความปรารถนาอันแสนละมุน ก่อนที่จะมาขยับจังหวะเร็วขึ้นหน่อยกับบทเพลง “Heavenly”  

และในที่สุดก็ถึงคิวของเพลงฮิตอย่าง “Apocalypse” ที่มีท่อนร้องเท่ ๆ อย่าง “Your lips, my lips, Apocalypse” และจากนั้นทางวงก็หายเข้าไปในหลังเวทีตามธรรมเนียม เพื่อให้แฟน ๆ ร่ำร้องเพื่อเข้าสู่ช่วง encore และไม่นานเกินรอ (น่าจะไม่ถึงหนึ่งนาทีด้วยซ้ำ) เสียงยังไม่ทันแหบแห้ง Cigarettes After Sex ก็ขึ้นมาบรรเลงต่อบนเวทีในช่วง encore กับ “Opera House” ที่มาพร้อมท่วงทำนองเหงาเศร้า และต่อด้วย “Dreaming Of You” ที่ปิดท้ายด้วยท่วงทำนองสุดเร่าร้อนและเสียงกีตาร์ที่เข้มข้นกราดเกรี้ยวที่สุดในบทเพลงทั้งมวลที่เล่นมาแล้ว เหมาะที่จะพาอารมณ์ไปให้สุดส่งท้ายโชว์อย่างทรงพลัง

ทั้งบทเพลงและการดีไซน์โชว์ของวงเป็นไปด้วยความเรียบง่าย ภาพประกอบที่ขึ้นบนจอเป็นฉากหลังในแต่ละเพลงก็เป็นภาพที่ผสานเข้าไปกับบทเพลงได้อย่างกลมกลืน แสงบนเวทีที่ไม่มีสีสันอะไรกลับสร้างบรรยากาศได้เป็นอย่างดี ได้ทำหน้าที่คล้ายกับกลุ่มหมอกควันที่ลอยฟุ้งคละคลุ้งไปในฮอลล์คอนเสิร์ต อบร่ำเราเข้าไปในห้วงอารมณ์ละมุนทั้งเสียงและบรรยากาศ ในบางเพลงก็มีแสงสาดเทมาสว่างจ้าคล้ายแสงยามเช้าที่ปลุกเราให้ตื่นขึ้นมาจากห้วงนิทรา ถึงแม้ว่าการเรียบเรียงเพลงในการแสดงสดของวงกับที่ฟังในต้นฉบับอาจไม่ได้แตกต่างกันมากนัก แต่การได้มาดูวงเล่นแบบสด ๆ ได้ฟังเสียงที่เปล่งออกมาตรงหน้า พร้อมถูกสะกดไว้ด้วยบรรยากาศที่ห้อมล้อมเราก็เป็นประสบการณ์อันสดใหม่ที่แตกต่างออกไปจากการฟังเพลงของพวกเขาอยู่ที่บ้านหรือที่ไหน ๆ อย่างแน่นอน

และทั้งคอนเสิร์ตเกร็กมาแบบพูดน้อยสไตล์มินิมอลเหมือนกับบทเพลงของ ‘Cigarettes After Sex’ ทำให้ไม่ต้องเสียเวลาพูดอะไรมากเน้นเล่นอย่างเดียว ช่วงเวลาชั่วโมงกว่า ๆ ในคอนเสิร์ตจึงคล้ายเรากำลังถูกรมไปด้วยหมอกควันแห่งอารมณ์อันอ้อยอิ่งที่แสนละมุน ในบางเวลาเกร็กก็จะเดินนวยนาดมาที่หน้าเวทีตรงกลางบ้างและก็ซ้ายทีขวาที เป็นท่วงท่าลีลาที่ต่อนยอนเข้ากับเพลงดีทีเดียว ถึงแม้คอนเสิร์ตจะจบลงอย่างรวดเร็วแต่ก็ไม่มีอะไรน่าผิดหวังเพราะตลอดเวลาที่เสียงแรกจากบทเพลงของวงดังขึ้น มาจนถึงจุดที่ร่ำลากันด้วยเสียงจากบทเพลงสุดท้าย ช่วงเวลาทั้งหมดนั้นคล้ายดั่งต้องมนต์สะกดเป็นช่วงเวลาที่เราได้เคลิ้มฝันไปอย่างอิ่มเอมและเมื่อตื่นขึ้นมาจากห้วงฝันนั้นเราก็รู้สึกอิ่มใจและได้พกพาความประทับใจกลับบ้านไปอย่างไม่มีวันลืม

พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส