หลายคนอาจเคยได้ยินชื่อของ ยอร์กอส ลานธิมอส (Yorgos Lanthimos) ผู้กำกับชาวกรีกที่ขึ้นชื่อลือชาจากบรรดาหนังพล็อตจัดจ้านแปลกแปร่ง อย่างเช่น ‘The Lobster’ (2015) ที่กลายเป็นไวรัลในโซเชียลมีเดียบ้านเรา ซึ่งตอนนี้เขาเองก็กำลังมี 2 ผลงานหนังใหม่ที่กำลังจะปล่อยออกมาสู่สายตาผู้ชม ทั้ง ‘Poor Things’ (2023) ที่นำแสดงโดยนักแสดงสาวฝีมือล้น เอ็มมา สโตน (Emma Stone) ที่เคยร่วมงานกับลานธิมอสมาแล้วในหนังพีเรียดตลกร้าย ‘The Favourite’ (2018) ที่ไปไกลจนได้เข้าชิงรางวัลออสการ์ 9 สาขา และสโตนก็ได้เข้าชิงสาขานักแสดงสมทบหญิงยอดเยี่ยมด้วย

โดยพล็อตของ ‘Poor Things’ ก็เรียกได้ว่าเป็นยอร์กอสสไตล์โดยแท้ เพราะพล็อตว่าด้วย เบลลา แบ็กซ์เตอร์ ที่แสดงโดยสโตน หญิงสาวโชคร้ายน่าสงสารที่หาทางหลบหนีการโดนทำร้ายจาก ดร.ก็อดวิน แบ็กซ์เตอร์ ที่แสดงโดย วิลเล็ม ดาโฟ (Willem Dafoe) แต่เธอดันเสียชีวิต จนสุดท้าย ศพของเธอถูกปลุกคืนชีพขึ้นมาอีกครั้ง แต่หัวสมองของเธอดันถูกแทนที่ด้วยสมองของเด็กทารกที่เธอตั้งครรภ์มาตั้งแต่ตอนมีชีวิตอยู่ (นี่มันแฟรงเกนสไตน์ผู้หญิงชัด ๆ ) ซึ่งตอนแรกมีกำหนดฉายในปี 2022 แต่ด้วยเหตุผลบางอย่างที่ไม่ได้เปิดเผย สุดท้ายตัวหนังเลยเลื่อนกำหนดการณ์มาฉายในปีนี้แทน

Willem Dafoe Emma Stone Yorgos Lanthimos

ซึ่งลุงดาโฟ วัย 67 ปี ก็กลับมาร่วมงานกับสโตนและลานธิมอสอีกครั้ง ในหนังเรื่องใหม่ที่มีชื่อเซอร์จัดว่า ‘And’ (ชื่อแค่นั้นเลย) โดยหนึ่งในนักแสดงอย่างลุงดาโฟ ได้ไปให้สัมภาษณ์ล่าสุดกับทาง The New York Times โดยส่วนหนึ่งเขาก็ได้เปิดเผยเรื่องราวหลังจากที่ร่วมงานกับลานธิมอส โดยเฉพาะในหนังเรื่อง ‘And’ ที่ร่วมงานกับสโตนอีกครั้ง

ส่วนหนึ่งของบทความได้เปิดเผยว่า ลุงดาโฟได้แสดงแสนยานุภาพด้านการแสดงให้ประจักษ์ ด้วยการให้สโตน ‘ตบหน้า’ เขาเพื่อให้เกิดความเป็นธรรมชาติที่ดูสมจริง และยังเผยว่าสโตนได้จัดหนักตบหน้าเขาไปประมาณ 20 ครั้ง แม้แต่วันที่ดาโฟไม่ได้มีคิวเข้ากล้อง ซึ่งแปลว่าเขาไม่จำเป็นต้องมากองถ่ายก็ได้ แต่ลุงแกก็ยังมาให้หลานสโตนจัดหนักให้อยู่ดี

ในบทความเผยว่า สโตนเองประทับใจในการแสดงของลุงดาโฟมาก เธอเผยว่ามักจะได้ยินผู้ช่วยผู้กำกับคุยกันผ่านวิทยุสื่อสารว่าดาโฟนั้น ‘มีแรงจูงใจในตัวเองกับกองถ่าย’ เสมอ แม้วันที่เขาไม่มีคิวถ่ายก็ตาม ซึ่งลานธิมอสใช้คำว่า “เขาเองต้องการเป็นส่วนหนึ่งของกองถ่ายไม่ว่าทางใดก็ทางหนึ่งครับ ซึ่งนั่นแหละคือสิ่งที่ผู้กำกับต้องการจากนักแสดง”

Willem Dafoe Emma Stone Yorgos Lanthimos

ในขณะที่สโตนเองได้กล่าวถึงการแสดงของดาโฟว่า “มีนักแสดงที่ฉันรู้จักหลายคนเลยค่ะที่มีสัญชาตญาณในการแสดงประเภทที่คอยเรียกร้องให้ ‘มองมาที่ฉัน, มองมาที่ฉันสิ!’ พวกคุณรู้ว่าพวกเขาเปลี่ยนจาก ‘ฉัน’ เป็น ‘เรา’ ซึ่งนักแสดงหลายคนที่ฉันรู้จัก ทำสิ่งเหล่านั้นมาเป็นเวลานาน ซึ่งเวลามันอาจจะทำให้อะไร ๆ เปลี่ยนไป แต่เขา (ดาโฟ) เป็นอะไรที่ตรงกันข้ามเลยค่ะ”

ซึ่งดาโฟเองก็ได้กล่าวเสริมว่า ตลอดชีวิตการแสดงของเขา เขามองความสัมพันธ์ของเขากับการแสดงที่เปลี่ยนไป ช่วงแรก ๆ เขาเองก็เริ่มต้นจากการแสดงเพื่อเรียกร้องความสนใจ ซึ่งเป็นไปเพื่อความอยู่รอด แต่หากใครยังยึดติดกับแนวทางนั้น คนที่มีฝีมือมากกว่าก็จะเข้ามาแทนที่ พอโตขึ้น เขาจึงเริ่มมองการแสดงเปลี่ยนไปเป็นเรื่องราวที่คล้ายกับ ‘ความผูกพันบางอย่างทางวิญญาณ’ เพื่อค้นหาความเชื่อมโยงของตัวนักแสดงกับทุกสิ่งอย่าง แม้ว่าเขาเองจะยังต้องทำงานหนักเพื่อยืนระยะในสถานะนักแสดงให้ได้นานที่สุด แต่การตระหนักถึงความเป็นความตายก็ทำให้เขายิ่งสนใจในสิ่งนี้มากขึ้นยิ่งกว่าเดิมอีก

Willem Dafoe Emma Stone Yorgos Lanthimos

โดย ‘And’ ผลงานหนังลำดับที่ 9 ของลานธิมอสนี้ ทางค่าย Searchlight Pictures ยังไม่ได้เปิดเผยข้อมูลอะไรเกี่ยวกับหนังเรื่องนี้ออกมา ตัวหนังถ่ายทำเสร็จสิ้นไปแล้วเมื่อเดือนธันวาคม ปี 2022 ที่ผ่านมา และยังไม่มีกำหนดวันฉายอย่างเป็นทางการออกมาจากค่าย และมีรายชื่อนักแสดงอย่าง เจสซี พลีมอนส์ (Jesse Plemons), มาร์กาเร็ต ควอลลีย์ (Margaret Qualley), มาโมดู เอธี (Mamoudou Athie) และ ฮง เชา (Hong Chau) นักแสดงเชื้อสายเอเชียที่เข้าชิงรางวัลนักแสดงสมทบหญิงยอดเยี่ยมเวทีออสการ์ปีนี้

รวมทั้งตอนนี้ก็ยังไม่มีการเปิดเผยเนื้อเรื่องออกมาด้วย มีแค่เพียงว่าตัวหนังจะเป็น Anthology Film หรือเป็นหนังยาวที่รวมหนังสั้นไว้หลาย ๆ เรื่องเอาไว้รวมกันในไตเติลเดียว ซึ่งแม้จะยังไม่มีเรื่องย่อให้อ่าน แต่ดูจากวิธีการพัฒนาตัวละครของลุงดาโฟแล้วก็พอจะเดา ๆ ได้ว่างานนี้คาแรกเตอร์ระหว่างลุงกับหลานสโตนน่าจะออกแนวดราม่าตึง ๆ อยู่ไม่น้อยแน่นอน


ที่มา: The New York Times, Variety,

พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส