ความฝันของนักแสดงในวงการส่วนมาก คือ การได้คว้ารางวัลออสการ์ ซึ่งปฏิเสธไม่ได้เลยว่าการได้รับตุ๊กตาทองคำนั้น ถือว่าเป็นการการันตีความสำเร็จอย่างหนึ่งของอาชีพนักแสดง แต่เคยสงสัยกันหรือไม่ว่า การชนะรางวัลออสการ์จะมีผลต่อค่าตัวที่เพิ่มขึ้นของพวกเขามากน้อยขนาดไหน

เช่นเดียวกับนักร้องหรือศิลปินที่ขึ้นแสดงของ ‘Super Bowl Halftime Show’ คำตอบคือ ‘ไม่ได้อะไรเลย’

แม้ว่านักแสดง หรือ ผู้กำกับ จะไม่ได้รับค่าตอบแทนใด ๆ เลยแม้แต่น้อย แต่การที่พวกเขาได้ปรากฏตัวในพิธีมอบรางวัลที่โด่งดังที่สุดของฮอลลีวูดอย่างเช่นออสการ์ ส่งผลกระทบต่อเงินค่าตัวของพวกเขาในอนาคตเป็นอย่างมาก

การที่นักแสดง ผู้กำกับ หรือ บริษัทผลิตภาพยนตร์ได้รับรางวัลออสการ์ ถือว่าเป็นการเพิ่มโอกาสทางการตลาดให้เปิดกว้างมากขึ้น เพราะโดยเฉลี่ยแล้ว ค่ายหนังต้องใช้เงินมากกว่า 10 ล้านเหรียญ ไปกับแคมเปญหรือโฆษณาในช่วงก่อนถึงอีเวนต์หนังของพวกเขา

ตามสถิติที่ถูกเผยแพร่โดย Business Insider ภาพยนตร์ที่ชนะรางวัล ‘ภาพยนตร์ยอดเยี่ยม’ ระหว่างปี 2009 ถึง 2014 มีงบประมาณการผลิตเฉลี่ย 17 ล้านเหรียญ แต่รายได้เฉลี่ยโดย Box office ได้ไปถึง 82.5 ล้านเหรียญ ซึ่งเป็นตัวเลขเกือบกับห้าเท่าของเงินที่พวกเขาลงทุน

เมื่อมีการพิจารณารายได้เหล่านี้เพิ่มเติม จึงอธิบายเพิ่มได้ว่า ภาพยนตร์เหล่านี้มีการทำรายได้ ก่อนได้รับการเสนอชื่อ 29.4 ล้านเหรียญ แต่หลังจากได้รับการเสนอชื่อตัวหนังได้รับรายได้เพิ่มขึ้น 17.9 ล้านเหรียญ เป็น 35.2 ล้านเหรียญ

ขณะเดียวกันภาพยนตร์ 3 ใน 5 เรื่อง ที่ทำรายได้สูงสุดตลอดกาล ก็ได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงหรือได้รับรางวัลภาพยนตร์ยอดเยี่ยม ในขณะที่อีก 2 เรื่องที่เหลือได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงในสาขาอื่น ๆ เช่นกัน

เมื่อไม่กี่ปีก่อน โจ เปียซซา (Jo Piazza) ผู้เขียนหนังสือเรื่อง ‘Celebrity Inc: How Famous People Make Money’ ได้ให้สัมภาษณ์กับทาง Market Watch ไว้ว่า “การถูกเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลออสการ์นั้นเป็นเหมือนตรารับรองสำหรับ นักแสดง หรือ คนเบื้องหลัง นักแสดงส่วนใหญ่ที่ฉันได้พูดคุยด้วย ต่างบอกว่าการที่ชนะรางวัลออสการ์มีผลกับค่าตัวเรื่องต่อไปของพวกเขา ซึ่งปกติจะเพิ่มขึ้น 20%”ด้าน Money Nation รายงานว่ามีนักแสดงหลายคนที่ได้เงินเพิ่มขึ้นเฉลี่ย 60% หรือ สูงกว่านั้นหลังได้รางวัลออสการ์

ตัวอย่างเช่น ฮิลารี สแวงก์  (Hilary Swank) เธอได้รับรางวัลนักแสดงนำหญิงยอดเยี่ยมจากการแสดงเรื่อง ‘Boys Don’t Cry’ ในปี 2000 ซึ่งสแวงก์เคยออกมายอมรับว่า ก่อนหน้านั้นเธอได้รับเงินเพียง  3,000 เหรียญ ซึ่งมันเป็นเรื่องที่น่าสมเพชมาก แต่หลังจากเธอชนะรางวัลออสการ์ เธอสามารถเรียกเงินเพิ่มมากกว่า 1 ล้านเหรียญ

ขณะเดียวกัน ทอม แฮงก์ (Tom Hanks) ก็ได้รับเงินเพิ่มขึ้นจาก  700,000 เหรียญ เพิ่มเป็น 10 ล้านเหรียญ หลังจากที่เขาได้รับรางวัลออสการ์ครั้งแรกในปี 1994 จากหนัง ‘Philadelphia’

ในบทสนทนาของ เอริก ชิฟเฟอร์ (Eric Schiffer) ซีอีโอของ Reputational Management Consultants  ได้กล่าวว่า “เมื่อนักแสดงได้รับการยอมรับ และได้รับรางวัลจากทางออสการ์ พวกเขาจะกลายเป็นนักแสดงที่มีค่าสำหรับสตูติโอหนังต่าง ๆ”

หลังจากนี้เราคงต้องรอติดตามกันต่อไปว่าดารานักแสดงคนไหน ค่าตัวจะเพิ่มขึ้นหลังจากการประกาศผลรางวัลไปแล้วบ้าง

ที่มา ladbible

พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส