นโยบายเหมือนฝันที่กำลังจะกลายเป็นจริง กับ “รถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสาย” หนึ่งในโครงการที่ประชาชนให้ความสนใจอย่างมาก นับตั้งแต่ที่พรรคเพื่อไทยได้ชูนโยบายนี้ในการเลือกตั้งที่ผ่านมา ล่าสุด ครม. เห็นชอบ เคาะวันเริ่มใช้จริง 1 ตุลาคมนี้ รวมทั้งเผยรายละเอียดที่ต้องรู้ก่อนลงทะเบียน
สิงหาคม 2025 นี้ ประชาชนชาวไทยเตรียมลงทะเบียนโครงการรถไฟฟ้า 20 บาท โครงการที่จะมาช่วยยกระดับคุณภาพชีวิต พร้อมช่วยลดค่าใช้จ่ายในการเดินทางของประชาชน ยุคที่หลายคนพูดเป็นเสียงเดียวกันว่าเศรษฐกิจกำลังตกต่ำ รายรับไม่เพียงพอกับค่าครองชีพ โครงการนี้จึงการเป็นทางออกในช่วงที่คนไทยกำลังชักหน้าไม่ถึงหลัง ประสบปัญหาการเงิน ใครที่สนใจและเตรียมลงทะเบียนอยู่ อ่านบทความนี้ให้จบเพื่อไม่พลาดทุกข้อมูลสำคัญ !
รายละเอียดของโครงการ “รถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสาย”
เงื่อนไขการลงทะเบียนเพื่อรับสิทธิ์
สำหรับการยืนยันตัวตนเพื่อให้ระบบสามารถจัดการค่าใช้จ่ายระหว่างผู้ให้บริการที่ต่างกันได้
- ต้องเป็นคนไทย ที่มีเลขประจำตัวประชาชนไทย 13 หลัก (นักท่องเที่ยวต่างชาติจะไม่ได้รับสิทธิ์ตามนโยบายนี้)
- ลงทะเบียนผ่านแอปพลิเคชัน “ทางรัฐ”
- ขั้นตอนการลงทะเบียน กรอกหมายเลขบัตรประชาชน และกรอกข้อมูลบัตรที่จะใช้ชำระค่าโดยสาร
จำนวนสิทธิ์และข้อจำกัด
- ไม่จำกัดจำนวนผู้มีสิทธิ์
- หากลงทะเบียนหลังจากเดือนกันยายน 2025 ก็สามารถเข้าร่วมโครงการได้
- หากไม่ได้ลงทะเบียนผ่านแอปฯ ทางรัฐ หรือไม่มีการผูกใช้งานบัตรที่ได้ลงทะเบียนไว้จะต้องจ่ายตามอัตราปกติ
กรณีที่ลงทะเบียนผ่านแอปฯ “ทางรัฐ” แล้ว
ในปีแรกจะยังไม่สามารถใช้บัตรข้ามสายกันได้ ยังใช้บัตรเดิมของแต่ละสาย แต่ค่าโดยสารตั้งแต่ต้นทางถึงปลายทางที่มีการเดินทางข้ามสายจะสูงสุดไม่เกิน 20 บาท
วิธีการชำระค่าโดยสาร “โครงการรถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสาย”
* บัตร Rabbit : ใช้กับ 4 สาย คือ สายสีเขียว สีทอง สีชมพู และสีเหลือง
* บัตร EMV Contactless (Visa/Mastercard) : ใช้ได้กับ 6 สาย คือ สายสีแดง สีน้ำเงิน สีม่วง สีชมพู สีเหลือง และแอร์พอร์ต เรล ลิงก์ (ไม่รวมสายสีเขียวและทอง)
ข้อที่ควรรู้เกี่ยวกับราคาและบัตรโดยสาร
- บัตรโดยสารที่นอกเหนือจากนี้ หรือ บัตรที่ไม่ได้ลงทะเบียนกับแอปฯ ทางรัฐ ให้ชำระค่าโดยสารราคาปกติ
- บัตร EMV คือบัตรเครดิตหรือบัตรเดบิตทั้งไทยและต่างประเทศที่ออกภายใต้ Visa หรือ Mastercard
- รถไฟฟ้าแต่ละสายคิดอัตราค่าโดยสารสูงสุด คือ 20 บาท
- กรณี มีการเปลี่ยนสายการเดินทาง เป็นสายที่ 2 ค่าโดยสารทั้งหมดจะจ่ายแค่ 20 บาท
- กรณี อัตราค่าโดยสารไม่ถึง 20 บาท ให้เสียค่าบริการในอัตราปกติ
เส้นทางรถไฟฟ้าที่ร่วมในโครงการ 20 บาทตลอดสาย
โดยมาตรการอัตราค่าโดยสารรถไฟฟ้าสูงสุด 20 บาทตลอดสายนี้ จะครอบคลุมโครงข่ายเส้นทางรถไฟฟ้าในเขตกรุงเทพและปริมณฑล จำนวน 13 เส้นทาง ระยะทางรวม 279.84 กิโลเมตร 194 สถานี
1. รถไฟฟ้าสายสีแดงเข้ม (ธรรมศาสตร์-มหาชัย)
2.รถไฟฟ้าสายสีแดงอ่อน (ศาลายา-หัวหมาก)
3.Airport Rail Link (ดอนเมือง-สุวรรณภูมิ)
4.รถไฟฟ้าสายสีเขียวเข้มส่วนต่อขยาย
5. รถไฟฟ้าสายสีเขียวอ่อนส่วนต่อขยาย
6.รถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน
7.รถไฟฟ้าสายสีม่วง (บางใหญ่-เตาปูน-ราษฎร์บูรณะ)
8.รถไฟฟ้าสายสีส้ม (ตลิ่งชัน – ศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย – แยกร่มเกล้า)
10.รถไฟฟ้าสายสีชมพู
11.รถไฟฟ้าสายสีเทา
12.รถไฟฟ้าสายสีน้ำตาล
13.รถไฟฟ้าสายสีทอง
แผนอนาคต หลังเริ่มโครงการ
ในปี 2026 จะเริ่มใช้ระบบ QR Code สำหรับสแกนจ่ายค่าโดยสารผ่านโทรศัพท์มือถือ โดยจะยกเลิกการใช้บัตรโดยสารในระยะยาว