นโยบายเหมือนฝันที่กำลังจะกลายเป็นจริง กับ “รถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสาย” หนึ่งในโครงการที่ประชาชนให้ความสนใจอย่างมากนับตั้งแต่ที่พรรคเพื่อไทยได้ชูนโยบายนี้ในการเลือกตั้งที่ผ่านมา ล่าสุด ครม.เห็นชอบ พร้อมเคาะวันเริ่ม รวมทั้งรายละเอียดที่ต้องรู้ก่อนลงทะเบียน
กลางปี 2025 นี้ ประชาชนชาวไทยเตรียมลงทะเบียนโครงการรถไฟฟ้า 20 บาท โครงการที่จะมาช่วยยกระดับคุณภาพชีวิต พร้อมช่วยลดค่าใช้จ่ายในการเดินทางของประชาชน ยุคที่หลายคนพูดเป็นเสียงเดียวกันว่าเศรษฐกิจกำลังตกต่ำ รายรับไม่เพียงพอกับค่าครองชีพ โครงการนี้จึงการเป็นทางออกในช่วงที่คนไทยกำลังชักหน้าไม่ถึงหลัง ประสบปัญหาการเงิน ใครที่สนใจและเตรียมลงทะเบียนอยู่ อ่านบทนี้ให้จบเพื่อไม่พลาดทุกข้อมูลสำคัญ !
รายละเอียดของโครงการ “รถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสาย”
เงื่อนไขการลงทะเบียนเพื่อรับสิทธิ์
สำหรับการยืนยันตัวตนเพื่อให้ระบบสามารถจัดการค่าใช้จ่ายระหว่างผู้ให้บริการที่ต่างกันได้
- ต้องเป็นคนไทย ที่มีเลขประจำตัวประชาชนไทย 13 หลัก (นักท่องเที่ยวต่างชาติจะไม่ได้รับสิทธิ์ตามนโยบายนี้)
- ลงทะเบียนผ่านแอปพลิเคชัน “ทางรัฐ”
- ขั้นตอนการลงทะเบียน กรอกหมายเลขบัตรประชาชน และกรอกข้อมูลบัตรที่จะใช้ชำระค่าโดยสาร
จำนวนสิทธิ์และข้อจำกัด
- ไม่จำกัดจำนวนผู้มีสิทธิ์
- หากลงทะเบียนหลังจากเดือนกันยายน 2025 ก็สามารถเข้าร่วมโครงการได้
- หากไม่ได้ลงทะเบียนผ่านแอปทางรัฐ หรือไม่มีการผูกใช้งานบัตรที่ได้ลงทะเบียนไว้จะต้องจ่ายตามอัตราปกติ
กรณีที่ลงทะเบียนผ่านแอป “ทางรัฐ” แล้ว
ในปีแรกจะยังไม่สามารถใช้บัตรข้ามสายกันได้ ยังใช้บัตรเดิมของแต่ละสาย แต่ค่าโดยสารตั้งแต่ต้นทางถึงปลายทางที่มีการเดินทางข้ามสายจะสูงสุดไม่เกิน 20 บาท
วิธีการชำระค่าโดยสาร “โครงการรถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสาย”
* บัตร Rabbit ใช้กับ 4 สาย คือ สีเขียว สีทอง สีชมพู สีเหลือง
* บัตร EMV Contactless (Visa/Mastercard) : ใช้ได้กับสายสีแดง น้ำเงิน ม่วง ชมพู เหลือง และแอร์พอร์ตเรลลิงก์ (ไม่รวมสายสีเขียวและทอง)
ข้อที่ควรรู้เกี่ยวกับราคาและบัตรโดยสาย
- บัตรโดยสารที่นอกเหนือจากนี้ หรือ บัตรที่ไม่ได้ลงทะเบียนกับแอปทางรัฐ ให้ชำระค่าโดยสารราคาปกติ
- บัตร EMV คือบัตรเครดิตหรือบัตรเดบิตทั้งไทยและต่างประเทศที่ออกภายใต้ Visa หรือ Mastercard
- รถไฟฟ้าแต่ละสายคิดอัตราค่าโดยสารสูงสุด คือ 20 บาท
- กรณีมี การเปลี่ยนสายการเดินทาง เป็นสายที่ 2 ค่าโดยสารทั้งหมดจะจ่ายแค่ 20 บาท
- กรณี อัตราค่าโดยสารไม่ถึง 20 บาท ให้เสียค่าบริการในอัตราปกติ
เส้นทางรถไฟฟ้าที่ร่วมในโครงการ 20 บาทตลอดสาย
กระทรวงคมนาคมได้ดำเนินนโยบายค่าโดยสารรถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสายแล้วใน 2 เส้นทาง ได้แก่
สายสีม่วง Purple Line
(รถไฟฟ้ามหานคร สายฉลองรัชธรรม) ทั้งหมด 16 สถานี : คลองบางไผ่, ตลาดบางใหญ่, สามแยกบางใหญ่, บางพลู, บางรักใหญ่, บางรัก, น้อยท่าอิฐ ไทรป่า, สะพานพระนั่งเกล้า, แยกนนทบุรี 1, บางกระสอ, ศูนย์ราชการนนทบุรี, กระทรวงสาธารณสุข, แยกติวานนท์, วงศ์สว่าง, บางซ่อน และเตาปูน
สายสีแดง SRT Red Lines
เส้นทางที่ 1 รถไฟฟ้าชานเมือง สายธานีรัถยา (กรุงเทพอภิวัฒน์ – รังสิต) ทั้งหมด 10 สถานี : บางซื่อ, จตุจักร, วัดเสมียนนารี, บางเขน, ทุ่งสองห้อง, หลักสี่, การเคหะฯ, ดอนเมือง, หลักหก และรังสิต
เส้นทางที่ 2 สายนครวิถี (กรุงเทพอภิวัฒน์ – ตลิ่งชัน) ทั้งหมด 7 สถานี : บางซื่อ, บางซ่อน, สะพานพระราม 6, บางกรวย – กฟผ., บางบำหรุ และตลิ่งชัน
แนวโน้มในอนาคต รัฐบาลยืนยันว่าจะขยายผลนโยบายครอบคลุม 8 เส้นทาง ภายในวันที่ 30 กันยายน 2025 โดยได้แก่
1. สายสีเขียว
2. สายสีทอง
3. สายสีเหลือง
4. สายสีชมพู
5. สายสีน้ำเงิน
6. แอร์พอร์ต เรล ลิงก์
7. สายสีม่วง **(ค่าโดยสาย 20 บาทตลอดสายแล้ว)
8. สายสีแดง **(ค่าโดยสาย 20 บาทตลอดสายแล้ว)
แผนอนาคต หลังเริ่มโครงการ
ในปี 2026 จะเริ่มใช้ระบบ QR Code สำหรับสแกนจ่ายค่าโดยสารผ่านโทรศัพท์มือถือ โดยจะ ยกเลิกการใช้บัตรโดยสารในระยะยาว