ทศวรรษที่ผ่านมา อาจารย์ฮาจิเมะ อิซายามะ (Hajime Isayama) ได้สร้างหน้าประวัติศาสตร์ของการ์ตูนขึ้นมาใหม่ เขานำเรื่องราวของอสุรกายมาผูกกับการเมืองได้อย่างแนบเนียน จนเกิดตำนานมังงะที่ยากจะมีใครโค่นลงอย่าง ‘Attack on Titan’ ขึ้นมา เรียกได้ว่าตั้งแต่การ์ตูนเรื่องนี้ถูกดัดแปลงไปเป็นอนิเมะในปี 2013 ก็ได้รับความนิยมไปทั่วโลก แม้ว่าจะใช้เวลาเป็นทศวรรษ กว่าที่จะเข็นกันมาถึงบทสุดท้าย แต่อนิเมะก็ยังครองหัวใจผู้ชมไม่เสื่อมคลาย โดยเฉพาะภาค The Final Season ที่สร้างตำนาน ไฟนอลแล้ว ไฟนอลอีก และกินเวลาเกือบ 4 ปี จนในที่สุดก็มาถึงบทสรุปกันเสียที

หากใครที่ได้ดูก็จะเห็นว่า ‘Attack on Titan: The Final Season’ นั้นจะทำการ Time Skip เนื้อเรื่องไปเป็นเวลา 4 ปีจากภาคก่อน โดยจะแนะนำตัวละครหลักตัวใหม่อย่าง กาบิ และฟัลโก้ ซึ่งเป็นกลุ่มนักรบฝึกหัดของชาวเอลเดีย ที่หมายมั่นจะสืบทอดพลังไททันของไรน์เนอร์ ขณะเดียวกันพวกเขาก็ต้องเข้าร่วมสงคราม เพื่อเผชิญหน้ากับกลุ่มเอเรนที่พวกเขาเรียกว่าปีศาจจากเกาะพาราดี้

หนึ่งในสิ่งที่เป็นวัตถุดิบในการทำซีซันสุดท้ายของอาจารย์อิซายามะคือซีรีส์อเมริกันนี่แหละ โดยมีรายงานว่า อาจารย์แกเป็นแฟนตัวยงของ ‘Breaking Bad’ กับ ‘Game of Thrones’ นั่นทำให้เขาหยิบจับเอกลักษณ์บางอย่างมาใส่ใน ‘Attack on Titan’ โดยเราจะเห็นเลยว่า ซีรีส์เหล่านี้เป็นแรงบันดาลใจในการสร้างภาค The Final Season ด้วย

กาบิ และ ฟัลโก้

‘Breaking Bad’ เป็นซีรีส์ดราม่าอาชญากรรมสัญชาติอเมริกันที่ติดตาม วอลเตอร์ ไวท์ ครูสอนเคมีในโรงเรียนมัธยมปลายที่ผันตัวไปสู่ชีวิตอาชญากร หลังจากได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นมะเร็งระยะสุดท้าย ไวท์จึงร่วมมือกับอดีตลูกศิษย์อย่าง เจสซี พิงก์แมน ในการทำยาเสพติด เพื่อหาเงินมาให้ครอบครัวก่อนเขาตาย

‘Game of Thrones’ เป็นซีรีส์ดราม่าแฟนตาซีที่ติดตามตระกูลขุนนางต่าง ๆ ของดินแดนสมมติอยางทวีปเวสเทรอส และเอสซอส ในการแย่งชิงบัลลังก์เหล็กแห่งเจ็ดอาณาจักร โดยซีรีส์เรื่องนี้ขึ้นชื่อเรื่องตัวละครที่ซับซ้อน การวางแผนทางการเมือง และงานภาพที่รุนแรง

Manga artist Hajime Isayama reveals his inspiration - BBC News - YouTube
อาจารย์ฮาจิเมะ อิซายามะ ผู้แต่ง Attack on Titan

ซีรีส์เหล่านี้ สร้างแรงบันดาลต่อให้อาจารย์อิซายามะเป็นอย่างมาก โดยจุดประกายให้ ‘Attack on Titan’ มีความคล้ายคลึงกับทั้ง ‘Breaking Bad’ และ ‘Game of Thrones’ ในบางส่วนอาทิ การติดตามตัวเอกที่ถูกบังคับให้เลือกทางที่มือเปื้อนเลือด ต้องสู้เพื่อความอยู่รอด แต่ระหว่างทางสิ่งต่าง ๆ ที่ตั้งอยู่ในโลกที่มีความรุนแรงนั้น ก็ได้หลอมรวมนิสัยของเขาไปให้กลายเป็นอีกคน

อาจารย์อิซายามะผู้เขียน ‘Attack on Titan’ เผยว่าตัวละครหลักตัวหนึ่งของภาค The Final Season อย่างฟัลโก ไกรซ์ นั้นได้รับแรงบันดาลใจมาจาก เจสซี พิงก์แมน ที่นำแสดงโดย แอรอน พอล (Aaron Paul) ซึ่งอาจารย์ตั้งใจออกแบบหน้าตาที่ของฟัลโก้ให้คล้ายเจสซี เนื่องจากแกเป็นแฟนตัวยงของซีรีส์นี้

ฟัลโก้ และ เจสซี พิงก์แมน

ฟัลโก ไกรซ์ คือทหารฝึกหัดของกองกำลังมาร์เลย์ ซึ่งเป็นหนึ่งในตัวละครหลักที่เป็นจุดเปลี่ยนของภาค The Final Season เพราะความใสซื่อของเขานำมาซึ่งการชักศึกเข้าบ้าน โดยฟัลโก้ได้รับพลังไททันกรามมาจากพอร์โกพี่ชายของเขา จนกลายเป็นกองกำลังสำคัญในที่สุด

นอกจากฟัลโกแล้ว อีกหนึ่งตัวละครที่อาจารย์ภูมิใจ และดูจะถูกอกถูกใจคนดูซะเหลือเกินก็คือกาบิ เด็กสาวที่ฟัลโกแอบชอบ เธอเป็นหลานสาวของไรเนอร์ แถมยังเป็นแคนดิเดตผู้ถือครองพลังไททันเกราะคนต่อไป กาบิเคียดแค้นเอเรนจากการถูกบุกครั้งแรก เพราะเธอถูกปั่นประสาทจนเข้าใจผิดว่าพวกตนเป็นเหยื่อของสงคราม นั่นทำให้กาบิพลั้งมือฆ่ากลุ่มเพื่อนของเอเรนจนเป็นที่ตกใจของคนดู

กาบิเป็นเด็กสาวที่แข็งแกร่ง แต่โลกรอบข้างนั้นทำให้เธอเปลี่ยนไป นั่นทำให้อาจารย์อิซายามะจึงได้อีกหนึ่งตัวละครโปรดของแกอย่าง อาร์ยา สตาร์ค ที่นำแสดงโดย เมซี วิลเลียมส์ (Maisie Williams) จาก ‘Game of Thrones’ มาเป็นต้นแบบในการสร้างกาบิขึ้น

กาบิ และ อาร์ยา สตาร์ค

ที่งาน Anime NYC นั้นอาจารย์อิซายามะ ยังพูดถึงวิธีการสร้างตัวละครเหล่านี้ขึ้นมาด้วย โดยตอนแรกเขาจะสร้างภาพลักษณ์ของตัวละครขึ้นมาในใจก่อน จากนั้นเขาก็จะวางโครง ว่าตัวละครเหล่านี้ควรจะออกมาเป็นแบบไหน แล้วจึงค่อยนำบุคลิกเข้าไปใส่

นอกจาก ‘Game of Thrones’ กับ ‘Breaking Bad’ แล้ว อาจารย์อิซายามะยังเผยว่า เขานั้นชอบ ‘Better Call Saul’ มาก แถมยังสนุกกับการชมภาพยนตร์สยองขวัญไซไฟเรื่อง ‘Nope’ อีกต่างหาก นั่นทำให้เขาได้หยิบจับวัตถุดิบบางส่วนของหนังที่ชอบมาใส่ในผลงาน โดยอาจารย์เคยนำคาแรกเตอร์ ซอล กู๊ดแมน ที่นำแสดงโดย บ็อบ โอเดนเคิร์ก (Bob Odenkirk) มาใส่เป็นอีสเตอร์เอ้กใน ‘Attack on Titan’ จนเป็นที่ฮือฮาของคนดู

การหยิบซอล กู๊ดแมน มาล้อเป็นมีมใน Attack on Titan

เราจะเห็นได้ว่าอาจารย์อิซายามะ สามารถหยิบสิ่งรอบตัวมาสร้างเป็นไอเดียตลอด เริ่มตั้งแต่การไปเห็นคนเมา แล้วนำบุคลิกเหล่านั้นมาสร้างเป็นไททัน จากนั้นก็นำมีมตามเน็ตมาแฝงไว้ใส่ในตัวละคร จนกระทั่งนำตัวละครจากซีรีส์ที่ชอบ มาออกแบบเป็นตัวละครใน ‘Attack on Titan’ ซึ่งทำให้เราเห็นว่าอาจารย์แกตั้งใจกับสิ่งเหล่านี้มากแค่ไหน และเราคงเดาได้ว่าถ้าหากเขาออกผลงานใหม่ ก็น่าจะหยิบตัวละครดัง มาสร้างเป็นคาแรกเตอร์อีกอย่างแน่นอน

ที่มา: Animehunch, cbr.com, wegotthiscovered, screenrant

พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส