เสียงกรี๊ดใครคิดว่าไม่สำคัญ ยิ่งถ้าเป็นเสียงกรี๊ดที่ดัง (หมายถึงมีชื่อเสียง) ที่สุดในโลกด้วยแล้ว ขอยกให้ Wilhelm Scream นี่เลยครับ

Wilhelm Scream หรือเสียงกรีดร้องของวิลเฮล์ม นี่คือเสียงที่ถูกนำมาใช้เป็นเสียงเอฟเฟกต์เวลามีตัวละครตายมากที่สุดในโลกภาพยนตร์ทีเดียว จริง ๆ มันก็ไม่เชิงว่ามันกรี๊ดได้สุดยอดอะไรนะครับ เพราะคงไม่มีใครมานั่งให้คะแนนเสียงกรีดร้องที่สุโค่ยก้องกังวานที่สุดในหนังแต่ละเรื่องกัน แต่มันเหมือนเป็นมุกตลกของพวกตำแหน่งซาวด์ดีไซน์ในฮอลลีวู้ดที่นึกสนุกใส่เข้าไปในหนังดังหลาย ๆ เรื่อง แล้วก็เลยนิยมใช้ต่อ ๆ กันมาจนกลายเป็นเสียงกรี๊ดที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลกไปแล้ว

Play video

จุดกำเนิด

ย้อนประวัติกันสักหน่อย จริง ๆ ภาพยนตร์เรื่องแรกที่กำเนิดเจ้าเสียงนี้ขึ้นมาคือเรื่อง Distant Drums (1951) ของผู้กำกับตำนานฮอลลีวู้ดอย่าง ราอูล วอล์ช ซึ่งแสดงนำโดยพระเอกเจ้าของออสการ์นำชายจาก High Noon (1952) อย่าง แกรี่ คูเปอร์ ด้วย หนังสไตล์คาวบอยเรื่องนี้มีฉากยิงตกหลังม้าและฉากคนถูกจระเข้กินในหนังด้วย ฝ่ายเสียงของหนังอย่าง โอลิเวอร์ เอส. การ์เร็ทซัน จึงได้บันทึกเสียงนักแสดงคนหนึ่งนามว่า เชบ วูลีย์ ในบทพลทหารตัวประกอบ ซึ่งในช่วงทศวรรษที่ 50s นั้น วูลีย์ยังไม่มีชื่อเสียงต้องตระเวนไปเล่นเป็นตัวประกอบหนังให้ทั่วไปหมดครับ หนึ่งในนั้นก็คือบทตัวประกอบ เบน มิลเลอร์ ที่ดังที่สุดของเขาในเรื่อง High Noon นั่นเอง ก่อนจะประสบความสำเร็จในการเป็นนักร้องที่มีเพลงฮิตอย่าง Purple People Eater (1958)

Play video

ในการบันทึกเสียงร้องครั้งนั้นวูลีย์ ได้บันทึกเสียงไว้ถึง 6 แบบ โดยเสียงบันทึกครั้งที่ 4, 5 และ 6 นั้น ถูกนำมาใช้ตอนอินเดียนแดงถูกยิงในช่วงต้นของหนัง และเสียงบันทึกครั้งที่ 5 ยังถูกนำมาใช้อีกครั้งในตอนฉากที่พลทหารถูกจระเข้กินระหว่างเดินข้ามลำน้ำ ซึ่งเสียงอันนี้ล่ะครับที่ถูกเก็บเข้าคลังเสียงของสตูดิโอ Warner Bros. ในชื่อ “เสียงผู้ชายกำลังถูกจระเข้กัด เขาแล้วก็ร้อง” (Man getting bit by an alligator, and he screamed) หลังจากนั้นมันก็ถูกนำเอามาใช้เรื่อย ๆ โดยไม่ได้สนใจเป็นพิเศษครับ

Play video

*เล่าเกร็ดนิดหนึ่งว่า ภายหลังที่มีการสืบค้นจนพบว่าเสียงนี้เป็นของวูลีย์ วงการเสียงเอฟเฟกต์ก็มักจะเหมารวมเสียงบันทึกทั้งแบบที่ 4, 5 และ 6 ของวูลีย์ว่าล้วนแต่เป็น Wilhelm Scream ทั้งสิ้นครับ

กว่าสิบปีต่อมา กว่าจะฮิต

แล้วเจ้าเสียงร้องกวนโอ้ยนี่มันมาฮิตได้อย่างไร อย่างที่บอกครับจริง ๆ มีการเอาไปใช้ในหนังที่มีฉากต่อสู้หลายเรื่อง แต่ไม่ได้มีการจดจำนัก จนกระทั่ง เบน เบิร์ตต์ เจ้าพ่อนักออกแบบเสียงเอฟเฟกต์ของฮอลลีวู้ด ได้เกิดไปพบม้วนเสียงชื่อ ผู้ชายถูกจระเข้กิน (Man being eaten by alligator) เข้า แล้วพอเขาฟังก็จำได้ว่าเขาเคยได้ยินมันในหนังเก่าหลายเรื่อง เขาจึงนำมันมาใส่ในหนัง Star Wars (1977) ของจอร์จ ลูคัส ในฉากที่ ลุก สกายวอล์กเกอร์ ยิงปืนถูกสตรอมทรูปเปอร์บนช่องเปิดจนกรีดร้องแล้วร่วงลงไป

Play video

ตอนนั้นเบิร์ตต์ไม่รู้ว่าเสียงเอฟเฟกต์นี้มาจากเรื่องอะไร เขาจึงเรียกมันอิงกับหนังเก่าที่สุดที่เขาจำเจ้าเสียงนี้ได้คือเรื่อง The Charge at Feather River (1953) หนังคาวบอยสามมิติ ซึ่งมีฉากหนึ่งที่ตัวละครชื่อพลทหารวิลเฮล์มถูกยิงและกรีดร้องออกมา นั่นจึงเป็นที่มาของ Wilhelm Scream หรือเสียงกรีดร้องของวิลเฮล์ม นั่นเองครับ

Play video

ก็ไม่รู้ว่าเสียงนี้ไปโดนใจเบิร์ตต์ตรงไหน อาจเพราะเสียงแหลมสูงเป็นเอกลักษณ์ได้อารมณ์คนบาดเจ็บสุด ๆ หลังจากนั้นเบิร์ตต์ก็ใส่เสียงนี้ลงไปในหนังดังอย่างหนังชุด Star Wars และ Indiana Jones จนกลายเป็นที่รู้จักในหมู่นักออกแบบเสียงเอฟเฟกต์ฮอลลีวู้ด ซึ่งก็กลายเป็นกิมมิกเป็นประเพณีที่พวกนักออกแบบเสียงจะหาช่องใส่เจ้าเสียง Wilhelm Scream นี้ไว้สักที่ในหนังเพื่อให้คนคอยนั่งหา เป็นมุกเล็ก ๆ ขำ ๆ ระหว่างนักออกแบบเสียงกับคนดูเรื่อยมาครับ

ปัจจุบันหนังที่ใส่ Wilhelm Scream มีตั้งแต่หนังไซไฟอย่าง Transformers หนังซูเปอร์ฮีโร่อย่าง Batman Returns หนังแอกชั่นอย่าง Die Hard: With a Vengeance หนังอินดี้ออสการ์อย่าง Juno หนังอนิเมชั่นดิสนีย์อย่าง Beauty and the Beast หรือแม้แต่หนังไทยฉบับอินเตอร์อย่าง The Legend of Suriyothai สุริโยไท ด้วยครับ เรียกว่าเยอะมากมีทุกแนวจริง ๆ

เรื่องนี้ก็มีนะ!!

Play video

รายชื่อหนังเรื่องแรก และ 150 หนังที่ใส่ Wilhelm Scream จาก cinexcellence.com
เรื่องแรกคือ Distant Drums และอีก 150 เรื่องได้แก่

1. Springfield Rifle, 2. The Charge at Feather River, 3. The Command, 4. Them!, 5. A Star is Born, 6. The Sea Chase, 7. Land of the Pharaohs, 8. Helen of Troy, 9. Sergeant Rutledge, 10. Harper, 11. The Green Berets, 12. Impasse, 13. The Wild Bunch, 14. Chisum, 15. Hollywood Boulevard, 16. Star Wars: A New Hope, 17. Star Wars: The Holiday Special, 18. More American Graffiti, 19. Star Wars: The Empire Strikes Back, 20. The Big Brawl,

21. Indiana Jones and the Raiders of the Lost Ark, 22. History of the World, Part I, 23. Swamp Thing, 24. Poltergeist, 25. Star Wars: Return of the Jedi, 26. Indiana Jones and the Temple of Doom, 27. Howard the Duck, 28. Nutcracker: The Motion Picture, 29. Spaceballs, 30. Willow, 31. Three Fugitives, 32. Indiana Jones and the Last Crusade, 33. Always, 34. Gremlins 2, 35. Beauty and the Beast, 36. Batman Returns, 37. Mom and Dad Save the World, 38. Reservoir Dogs, 39. Aladdin, 40. Matinee,

41. A Goofy Movie, 42. Die Hard: With a Vengeance, 43. Toy Story, 44. Dante’s Peak, 45. The Second Civil War, 46. The Fifth Element, 47. Hercules, 48. Lethal Weapon 4, 49. Small Soldiers, 50. Star Wars: The Phantom Menace, 51. The Kid, 52. Backstage, 53. The Little Mermaid II, 54. Thirteen Days, 55. Tomcats, 56. Just Visiting, 57. Planet of the Apes, 58. Wet Hot American Summer, 59. Osmosis Jones, 60. Star Trek: The Motion Picture,

61. The Majestic, 62. Life or Something Like It, 63. The Salton Sea, 64. Spider-Man, 65. Star Wars: Attack of the Clones, 66. Scorched, 67. The Lord of the Rings: The Two Towers, 68. Confessions of a Dangerous Mind, 69. The Legend of Suriyothai, 70. Cradle 2 The Grave, 71. Tears of the Sun, 72. Agent Cody Banks, 73. A Man Apart, 74. Pirates of the Caribbean, 75. Once Upon a Time in Mexico, 76. Under the Tuscan Sun, 77. Kill Bill, 78. Looney Tunes: Back in Action, 79. Peter Pan, 80. The Lord of the Rings: The Return of the King,

81. Win a Date With Tad Hamilton!, 82. Hellboy, 83. Troy, 84. Harold & Kumar Go To White Castle, 85. Ghost Rock, 86. Anchorman, 87. Paparazzi, 88. Sky Captain and the World of Tomorrow, 89. Taxi, 90. Team America: World Police, 91. I Am David, 92. The Pacifier, 93. The Ring 2, 94. Sin City, 95. Kingdom of Heaven, 96. Monster-In-Law, 97. Star Wars: Revenge of the Sith, 98. Madagascar, 99. Fantastic 4, 100. Thank You For Smoking,

101. Wallace & Gromit: The Curse of the Were-Rabbit, 102. Get Rich or Die Tryin’, 103. Storm, 104. Aeon Flux, 105. King Kong, 106. 16 Blocks, 107. She’s the Man, 108. Abominable, 109. Over the Hedge, 110. Cars, 111. Monster House, 112. Accepted, 113. Black Sheep, 114. Flushed Away, 115. Norbit, 116. Are We Done Yet?, 117. The Invisible, 118. Shrek the Third, 119. Transformers, 120. License to Wed,

121. Juno, 122. Dragon Wars, 122. 30 Days of Night, 123. Death Proof, 124. Resident Evil: Extinction, 125. Enchanted, 126. The Mist, 127. The Water Horse, 128. Meet the Spartans, 129. Over Her Dead Body, 130. Kung Fu Panda, 131. Speed Racer, 132. Indiana Jones and the Kingdom of the Crystal Skull, 133. Tropic Thunder, 134. Star Wars: The Clone Wars, 135. Bolt, 136. The Day the Earth Stood Still, 137. Underworld: Rise of the Lycans, 138. Knowing, 139. Monsters vs. Aliens, 140. Up,

141. Inglourious Basterds, 142. Princess Protection Program, 143. The New Moon, 144. Solomon Kane, 145. Cloudy With a Chance of Meatballs, 146. Toy Story 3, 147. Despicable Me, 148. Machete, 149. Due Date, 150. TRON: Legacy,

*เล่าเกร็ดนิดหนึ่งครับ เบน เบิร์ตต์ นี่จัดเป็นตำนานนักออกแบบเสียงคนหนึ่งเลย เสียงอย่างเจ้าหุ่น R2-D2, เสียงหึ่ง ๆ ของไลท์เซเบอร์, เสียงปืนเลเซอร์ รวมถึงเสียงฟืดฟาด ๆ ของดาร์ธเวเดอร์ ก็มาจากเขานี่ล่ะครับ โดยเฉพาะเสียงลมหายใจของดาร์ธเวเดอร์นี่ เกิดจากเสียงของเบิร์ตต์ที่หายใจผ่านชุดดำน้ำนั่นเอง

และในบทสัมภาษณ์ ลินดา ดอทสัน ภรรยาหม้ายของวูลี่ย์ เมื่อปี 2005 เธอบอกว่าเสียงของสามีเธอถูกใช้ในหนังคาวบอยหลายเรื่องมาก และตัววูลี่ย์เองก็มักชอบพูดติดตลกเสมอว่า “เขาคือคนที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในการกรีดร้องและตายในโลกภาพยนตร์”

แถมท้าย Howie Scream อีกหนึ่งเสียงกรี๊ดที่โลกจำ

นอกจากนี้ยังมีเสียงอย่าง Howie Scream ที่ทักได้ยินกันบ่อย ๆ ในหนังหรือในโทรทัศน์เช่นเดียวกับ Wilhelm Scream แต่ไม่ได้มีชื่อเสียงเท่าด้วยครับ เสียงนี้เป็นเสียงผู้ชายร้องลากยาวโหยหวนสุด ๆ ต่างจากวิลเฮล์มที่จะสั้น ๆ สาเหตุที่ชื่อนี้เพราะเอามาจากฉากการตกจากรถไฟไปตายของตัวละครชื่อ เคลลี่ ในหนังเรื่อง Broken Arrow (1996) โดยนักแสดงที่เล่นบทนี้คืออดีตดาวอเมริกันฟุตบอลนามว่าโฮวี่ ลอง นั่นเองครับ

Play video

ซึ่งจริง ๆ แล้วต้นฉบับของเสียงนี้มาจากหนังเจ้าของรางวัลบทภาพยนตร์ยอดเยี่ยมลูกโลกทองคำของ วิลเลี่ยม ปีเตอร์ แบลตตี้ เรื่อง The Ninth Configuration (1980) อีกทีครับ

Play video

จบลงไปแล้ว ติดตามสาระไม่ต้องรู้ แต่ถ้ารู้แล้วเอาไปโม้ก็ดูเท่ดี ได้ที่นี่เป็นประจำนะครับ ฝากตัวคอลัมน์ใหม่กับเพจโฉมใหม่ของเราไว้ด้วยครับ