ต่อไปตำรวจจราจรจะเริ่มเข้มงวดมากขึ้น โดยผู้ที่ขับขี่ที่ใช้โทรศัทพ์ขณะขับรถ ไม่ว่าจะเป็นการพูดคุย , เล่นแชท หรือเข้าดูข้อมูลในอินเตอร์เน็ตก็ตาม ล้วนแล้วแต่มีความผิดกฏจราจรทั้งนั้นtext-while-driving
ตำรวจจะเริ่มเคร่งครัดกฏจราจรมากขึ้น เมื่อวันนี้ พล.ต.ต. อดุลย์ ณรงค์ศักดิ์ รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล รับผิดชอบงานด้านจราจร ได้กำชับและสั่งการตำรวจจราจรกว่า 90 สน. และ จราจรกองบังคับการตำรวจจราจรให้เข้มงวดกับผู้กระทำผิดที่ใช้โทรศัพท์มือถือขณะขับขี่ ไม่ว่าจะเป็นการพูดคุย , เล่นแชท (ไม่ว่าจะแอพพลิเคชั่นไหน) หรือแม้แต่ดูข้อมูลบนอินเตอร์เน็ต

แม้แต่การนำแท่นวางโทรศัพท์มือถือมายึดไว้กับพวงมาลัยรถยนต์เพื่อเล่นมือถือ เช่น ไว้แชทในขณะขับรถ ก็ถือว่าเป็นการทำผิดกฏจราจรเช่นกัน เพราะอย่างที่กล่าวไปในขั้นต้นว่าผู้ขับขี่ ไม่ว่าจะเป็นรถยนต์ หรือ รถจักรยานยนต์ ไม่สามารถกระทำได้ในขณะขับขี่ ซึ่งจะเข้าข่ายความผิดใช้โทรศัพท์ในขณะขับรถตาม พ.ร.บ. จราจรทางบกแก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ 8) พ.ศ. 2551 มาตรา 43 “ห้ามมิให้ผู้ขับรถใช้โทรศัพท์เคลื่อนขณะขับรถเว้นแต่การใช้โทรศัพท์เคลื่อนที่โดยมีอุปกรณ์เสริมสำหรับสนทนา(สมอลล์ทอล์ค) เท่านั้นโดยผู้ขับขี่ไม่ต้องถือหรือจับโทรศัพท์”

ที่กล่าวว่า การยึดมือถือไว้กับพวงมาลัยเพื่อไว้เล่นมือถือขณะขับขี่เป็นความผิด เพราะ ผู้ใช้งานก็ยังคงต้องละสายตาจากการขับรถ การมองถนน เพื่อมาดูที่มือถือ มันเหมือนเป็นการรบกวนสมาธิขณะขับขี่ การกระทำแบบนี้ มีความผิดตามกฏหมายมีโทษปรับไม่เกิน 400 – 1,000 บาท

ส่วนกรณีเดียวกัน คือ มีการยึดตัวมือถือไว้กับพวงมาลัย แต่เปิดลำโพง (speaker phone) เพื่อสนทนา นั้น ไม่ถือเป็นความผิด เพราะ การกระทำแบบนี้ คล้ายกับการใช้สมอลล์ทอล์คเพื่อสนทนาขณะขับขี่

หากตรวจพบว่าผู้ขับขี่กระทำความผิดตามที่ได้กล่าวมาในข้างต้น ตำรวจจราจรจะดำเนินการจับกุมทันที หากทำผิดแล้วโต้แย้ง หรือ ไม่ยอมรับผิด จะนำเรื่องไปสู่การพิจาณาบนชั้นศาลเพื่อดูหลักฐาน และ พยาน เพื่อดูว่ามีเจตนาเล่น/ใช้โทรศัพท์มือถือขณะขับขี่หรือไม่

เมื่อได้อ่านข่าวนี้แล้ว ก็อยากให้ผู้ขับขี่ทุกท่านปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด เพื่อความปลอดภัยในการขับขี่บนท้องถนนนะครับ

ที่มา : bangkokbiznews
รูปจาก : mobiledista