สนับสนุนเนื้อหาโดย

หนึ่งในหนัง Disaster Movie ที่พกการนำเสนอภัยพิบัติที่ต่างออกไป คราวนี้เป็นหนังสัญชาติฝรั่งเศสที่มาพร้อมกับคอนเซปต์ หมอกมฤตยู ที่ปกคลุมทั่วทั้งกรุงปารีส โดยเนื้อหาหลัก ๆ จะเป็นเรื่องราวของครอบครัวหนึ่ง พ่อแม่นักวิทยาศาสตร์ มีลูกสาวซึ่งป่วยเป็นโรคประหลาดที่ชื่อว่า ‘เบอร์เกอร์’ ออกมาสูดอากาศข้างนอกไม่ได้ ต้องอาศัยอยู่เฉพาะในแคปซูลแก้วขนาดใหญ่ แต่แล้วก็เกิดเหตุไม่คาดฝัน เมื่อหมอกประหลาดได้เข้าปกคลุมเฉียบพลัน ส่งผลให้มีคนล้มตายถึง 2 ใน 3 ของประชากรในปารีส ประเด็นคือหมอกแทรกซึมเข้ามายังตึกอาคารรวมทั้งอพาร์ตเมนท์ที่ครอบครัวนี้อาศัยอยู่ จนต้องหนีขึ้นไปชั้นบนสุด แต่ปัญหาคือ แคปซูลของ ซาร่าห์ ลูกสาว อยู่ชั้นล่าง สองสามีภรรยาจะแก้โจทย์นี้อย่างไรที่จะทำให้ลูกสาวปลอดภัย

ด้วยความหมอกปกคลุมทั่วทั้งเมือง ทำให้แพทย์ พยาบาล ตำรวจและทหารเองก็ต้องพบกับความสูญเสีย และความยากลำบากในการเข้าช่วยเหลือผู้ประสบภัย ไม่ต่างอะไรกับการถูกตัดขาด ทำให้มาติเยอ (โนเมน ดูริส) และ แอนนา (ออลก้า คูรีเลนโก้) ต้องเริ่มคิดหาวิธีเอาตัวรอดทุกวิถีทาง ตรงนี้เองที่หนังทำได้ดีเกินคาด เพราะทั้งคู่เล่นออกมาได้ดูเป็นคุณพ่อคุณแม่สายวิชาการที่มี soft skill หลายอย่างสมกับมีแบ็คกราวน์เป็นนักวิทยาศาสตร์ และที่สำคัญคือทั้งคู่ยังมีเคมีที่ลงตัวกันมาก ๆ ด้วย เรียกว่ามองเห็นความเป็นสามีภรรยาที่มีทั้งสมองและหัวใจดวงเดียวกันจริง ๆ

ถ้าจะมีจุดที่รู้สึกติดอยู่บ้างก็คงจะเป็นเรื่องของรายละเอียด และการตัดสินใจงง ๆ ของตัวละครบางจังหวะที่อาจไม่สมเหตุสมผลบ้าง แต่ก็ถือเป็นส่วนน้อย ซีจีดูดี หมอกจัดว่าเนียนดี ไม่รู้สึกว่าปลอม ระหว่างทางการแก้ปัญหา เราอาจเริ่มเดาทางหนังได้บ้าง แต่ในระหว่างทางนั้นแหละที่เป็นส่วนที่หนังทำได้ดีที่สุดเลยในเรื่องการสร้างความกดดันที่ค่อย ๆ เพิ่มดีกรีขึ้นเรื่อย ๆ จนถึงจุดที่คนดูเองก็รู้สึกหายใจไม่ทั่วท้อง บางซีนเชื่อว่าต้องมีหลายคนแอบกลั้นหายใจตามกันเลย! เรียกว่าพลอตมีในมือแค่นี้แหละ แต่ก็เล่าออกมาให้ระทึกตามตลอดได้ขนาดนี้ก็ถือว่าไม่ขี้เหร่เลย

จุดเดียวที่ Just a Breath Away อาจจะดร็อปลงไปก็คือในส่วนของการหาทางลงได้ไม่ค่อยโอเคเท่าไหร่ มันอาจมีความหักมุมแบบเซอร์เรียลที่ทำคนดูเซอร์ไพรส์ แต่ถึงอย่างนั้นก็กลับไปทำให้ตรรกะที่หนังพยายามชูผ่านตัวละครให้ดูฉลาดนั้นพังทลายลงไปด้วยเช่นกัน อย่างไรก็ตาม ในภาพรวมก็ถือว่ายังเป็นหนังหายนะที่ทำได้ดี ลุ้นระทึก ได้คิด ได้อินตาม ในเวลาที่ไม่มากไม่น้อยเกินไปแล้ว ที่สำคัญคือเมสเซจเรื่องความรักความห่วงใยในครอบครัวชัดเจน ดูแล้วเชื่อ ดูแล้วรู้สึกได้ว่าความรักในครอบครัวมันคือพลังทีมเวิร์คที่ยิ่งใหญ่กว่าที่คิดจริง ๆ