สนับสนุนข้อมูลโดย Major Cineplex

เรื่องย่อ

My Hero Academia The Movie: Two Heroes ออกฉายที่ประเทศญี่ปุ่นครั้งแรกในวันที่ 3 สิงหาคม 2561 ซึ่งเปิดตัวด้วยรายได้กว่า 500 ล้านเยน ทะยานสู่อัน 4 ของ BOX OFFICE ในประเทศญี่ปุ่นสัปดาห์นั้น และนอกจากนี้ยังได้รับคะแนนรีวิว “Liked it” บนเว็บ Rotten Tomatoes จากเหล่าผู้ชมกว่า 97% ณ ปัจจุบัน ซึ่งกำลังขยายการฉายสู่โรงภาพยนตร์ต่างประเทศอย่างต่อเนื่อง

หนังแอนิเมชั่นจากญี่ปุ่นเรื่องนี้ มีแฟนรอคอยและติดตามมากไม่เบาทีเดียว ทั้งฉบับมังงะของอาจารย์ โฮริโคชิ โคเฮ ที่อยู่กลุ่มท็อปของนิตยสารอันดับหนึ่งอย่าง จัมป์วีคลี่ และอนิเมะซีรีส์ที่สร้างปรากฏการณ์มีซีซั่นใหม่ออกมาอย่างต่อเนื่องไม่แพ้กัน ไม่เพียงแต่ในญี่ปุ่นเท่านั้นใครที่ตามเว็บเมืองนอกก็จะเห็นต่างชาติที่รู้จักและเป็นแฟนเรื่องนี้อยู่ไม่น้อย

สำหรับฉบับ The Movie นี้ก็เป็นการนำขึ้นจอเงินครั้งแรก โดยได้ผู้กำกับ นางาซากิ เคนจิ ที่กำกับฉบับอนิเมะซีรีส์ และค่าย Bones ค่ายแอนิเมชั่นที่รับประกันคุณภาพงานได้อย่างดี มาปลุกปั้นเหล่าตัวละครโรงเรียนฮีโร่ให้โลดแล่นได้อย่าง มันสุดๆ โดยเนื้อหาจะเป็นเหมือนสปินออฟ ช่วงเวลาหยุดปิดเทอมของเหล่านักเรียนฮีโร่ที่จะมาเที่ยวงานเอ็กซ์โปวิทยาศาสตร์ระดับโลก แล้วต้องเผชิญกับภัยคุกคามจากวิลเลี่ยนพวกตัวร้ายพลังพิเศษ โดยเหล่าฮีโร่ผู้ใหญ่ รวมถึงอาจารย์ของพระเอกอย่าง ออลไมท์ ต่างก็ถูกจับกุม เป็นหน้าที่ของเด็ก ๆ ที่ต้องรวมพลังแก้ปัญหาเฉพาะหน้านี้ให้จงได้

สำหรับใครที่ไม่เคยรู้จักเรื่องนี้มาก่อนเลย ก็พอจะจับเรื่องได้ครับ เพราะหนังมีการย้อนฉากที่มาที่ไปของพระเอกที่ชื่อ มิโดริยะ อิซึคุ หรือเพื่อน ๆ เรียกย่อว่า เดกุ มาเป็นระยะ ว่าโลกใบนี้มีประชากรส่วนใหญ่ที่มีอัตลักษณ์ ซึ่งเป็นคำเรียกของพลังพิเศษในโลกนี้ แต่พระเอกผู้ใฝ่ฝันอยากเป็นฮีโร่ช่วยเหลือคนเช่นเดียวกับฮีโร่อันดับ 1 อย่างออลไมท์ กลับพบว่าเขานั้นเกิดมาไม่มีอัตลักษณ์เลย ทำให้เขาฝันสลายและใช้ชีวิตอย่างยอมรับความจริงว่าไม่มีวันได้เป็นฮีโร่

แต่แล้วด้วยหัวใจที่แรงกล้าในการอยากช่วยผู้คน วันหนึ่งขณะที่เขากำลังเสี่ยงชีวิตช่วยคนก็ได้พบกับออลไมท์ และด้วยจิตใจอันบริสุทธิ์ในตัวเด็กหนุ่ม ออลไมท์จึงได้เผยความจริงกับเดกุว่าอัตลักษณ์ของเขานั้นเป็นของพิเศษที่เรียกว่า วันฟอร์ออล ซึ่งสืบทอดต่อกันมาเป็นรุ่น ๆ และออลไมท์ก็ขอมอบอัตลักษณ์ทรงพลังที่สุดนี้ให้เดกุสืบทอดเจตนารมณ์การเป็นฮีโร่ต่อไป โดยผลข้างเคียงที่ออลไมท์ไม่ได้บอกกับเดกุคือ มันจะทำให้พลังของออลไมท์นั้นเสื่อมถอยลงเรื่อย ๆ ด้วย แต่ก็เพราะพลังพิเศษนี้จึงทำให้เดกุเข้าเรียนโรงเรียนสอนฮีโร่ และสานต่อความฝันได้ แม้ว่าพลังที่เขาได้รับมาจะทรงพลังเกินที่ร่างกายอันอ่อนแอของเขาจะรับได้ ทำให้เขาต้องบาดเจ็บทุกครั้งที่ใช้พลังก็ตามที

หนังยังคงพกตัวละครเหล่านักเรียนฮีโร่ตัวหลัก ๆ มาร่วมผจญภัยเกาะวิทยาศาสตร์อย่างครบครัน ซึ่งใครไม่เคยดูมาก่อนก็จะค่อย ๆ รู้จักทีละตัวไปได้ แม้อาจจะช้ากว่าคนที่เคยดูมาก่อนก็ตาม เพราะหนังเฉลี่ยบทและแสดงความเป็นตัวละครนั้น ๆ ออกมาได้อย่างเด่นชัดทีเดียว นอกจากนี้ยังเปิดตัวละครใหม่อย่างครอบครัวเพื่อนของออลไมท์สมัยเรียนที่อเมริกา นั่นคือ ดร.เดวิด ชีลด์ และลูกสาวอย่าง เมลิซซ่า ที่มาสายสาวแว่นผมทองได้ใจคนดูไปอย่างรวดเร็ว

ในฉบับหนังนี้ ใช้ชื่อตอนว่า Two Heroes ก็สามารถสร้างมิติของคำเล่นในตัวหนังได้คมคายมาก ทั้งหมายถึง 2 ฮีโร่เพื่อนรักในอดีตอย่าง ออลไมท์ และเดวิด/ 2 ฮีโร่ต่างเจเนเรชั่นอย่างรุ่นออลไมท์และรุ่นเด็ก ๆ/ 2 ฮีโร่ที่หมายถึงศิษย์อาจารย์อย่าง ออลไมท์กับเดกุ/ 2 ฮีโร่พ่อลูกที่แม้ไม่มีอัตลักษณ์แต่ก็ใช้พลังวิทยาศาสตร์ช่วยผู้คนอย่างครอบครัวชีลด์/ และยังรวมถึง 2 ฮีโร่ ที่คือเหล่าผู้มีอัตลักษณ์และสวมบทฮีโร่ กับคนที่ไม่มีอัตลักษณ์แต่มีหัวใจของฮีโร่ ซึ่งตัวเดกุเองนั้นเป็นจุดรวมของฮีโร่ทั้ง 2 แบบนี้ด้วย หนังเลยมีอะไรให้เล่นมาก แต่ถึงจะดูมีซับพล็อตมากมาย หนังก็เอาอยู่และเล่าแต่ละประเด็นได้ชัดเจน คม และสนุก สมกับที่ดูได้ตั้งแต่เด็กจนผู้ใหญ่

จุดเด่นนอกจากตัวละครทั้งหลาย ก็ยังมีพลังที่แปลก ๆ ที่เอามาใช้ต่อสู้กันได้อย่างน่าสนใจ และที่สำคัญฉากแอ็กชั่นที่ค่าย Bones จัดหนักให้ฉบับหนังนี้ต้องบอกว่า โคตะระมันพะยะค่ะมาก ๆ เรียกว่าอัดใส่ไม่ยั้ง ปลุกหัวใจเด็กที่ชอบดูหนังฮีโร่ออกมาเต้นรำเลยทีเดียว สนุกมาก ไม่มีช่วงน่าเบื่อเลย

ได้อุปกรณ์เสริมพลังใหม่ด้วย

นี่เป็นหนังฮีโร่ที่ดูสนุกมัน และไม่มีพิษมีภัยกับเด็กของแท้ จะแฟนเดิมหรือพาเด็ก ๆ ไปดู ก็คุ้มค่าเหมาะสมทุกประการครับ หนังยาว 96 นาที ไม่สั้นและไม่นานเกินไปด้วย แนะนำเลยครับ