[รีวิว]Fall In Love At First Kiss : การ์ตู๊นเหลือเกิน
Our score
4.2

fall in love at first kiss : จูบนั้นแปลว่าฉันรักเธอ

จุดเด่น

  1. ตัวละครโอเวอร์แอคติ้งเป็นการ์ตูนกันไปหมด
  2. ไม่มีความสมเหตุสมผลให้เห็นแม้แต่น้อย
  3. หนักไปทางคอมมีดี้ จนไม่เหลือส่วนดราม่าให้หนัง

จุดสังเกต

  1. เพลงเพราะ
  2. นักแสดงหน้าตาดี
  • ตรรกะความสมเหตุสมผลของบท

    0.0

  • คุณภาพนักแสดง

    5.0

  • ความสนุก

    5.0

  • คุณภาพงานสร้าง

    6.0

  • คุ้มเวลา+ค่าตั๋ว

    5.0

สนับสนุนเนื้อหาโดย Major Cineplex

การกลับมาของซีรีส์โคตรฮิตแห่งเอเซีย ที่คนไทยรู้จักกันดีในชื่อ “แกล้งจุ๊บให้รู้ว่ารัก” ที่ถือกำเนิดจากมังงะยุค 90s ในชื่อ “Itazura na Kiss” แล้วญี่ปุ่นก็หยิบมาสร้างเป็นซีรีส์ แต่ไม่ถึงกับดังเปรี้ยงปร้าง แต่จุดที่ฮิตสุด ๆ จริงก็คือเวอร์ชั่นของซีรีส์ไต้หวันในปี 2005 ในชื่อว่า “It started with a kiss” ซีรีส์ฮิตไปทั่วเอเซีย จนผู้สร้างต้องสร้างภาคต่อออกมาในปี 2007 และใช้นักแสดงชุดเดิม ซีรีส์ฮิตมากโดยเฉพาะประเทศจีนที่คนดูต่างหลงรักซีรีส์เวอร์ชั่นนี้กันมาก ลามมาถึงเกาหลีและไทย ซึ่งทั้งเกาหลีและไทยต่างก็ซื้อลิขสิทธิ์มารีเมคเช่นกัน ของเกาหลีใช้ชื่อว่า “Playfull Kiss” ส่วนของไทยใช้ชื่อว่า “Kiss Me รักล้นใจ นายแกล้งจุ๊บ” ได้ ไมค์ พิรัชต์ และ ออม สุชาร์ มารับบทนำ ซีรีส์ออกฉายในปี 2015

หลังจากมังงะจบลงไปนับ 10 ปี แต่กระแสความแรงก็ยังไม่ซาลง ในญี่ปุ่นยังคงสานต่อตำนานเรื่องนี้ด้วยการออกมังงะภาค 2 และสร้างซีรีส์ภาค 2 แล้วก็สร้างเป็นหนังโรงอีก 2 ภาค ทางไต้หวันก็ไม่น้อยหน้า รีเมคซีรีส์ “It started with a kiss”เป็นครั้งที่ 2 ในปี 2016 แต่ก็ไม่แรงเท่าภาคแรก และในปีเดียวกันที่จีนก็นำไปรีเมคเช่นกันในชื่อ “Miss In Kiss” แต่กระแสก็ไม่ดีนัก กลายเป็นว่าเวอร์ชั่นที่อยู่ในใจคนดูมากที่สุดก็คือ “It started with a kiss” ซีรีส์ของไต้หวัน เวอร์ชั่นปี 2005 ที่ขึ้นหิ้งกลายเป็นซีรีส์คลาสสิกในใจผู้ชมทั้งเอเซีย และเมื่อไต้หวันตัดสินใจหยิบ “It started with a kiss” มารีเมคอีกครั้งในเวอร์ชั่นภาพยนตร์ แล้วใช้ชื่อว่า “Fall In Love At First Kiss” ก็กลายเป็นกระแสดราม่าต่อต้านตั้งแต่มีข่าวเริ่มสร้าง เพราะคนดูกลัวว่าจะทำได้ไม่ดีเท่าซีรีส์ปี 2005 ที่พวกเขารัก แต่สุดท้ายเมื่อหนังคลอดออกมาหนังก็ประสบความสำเร็จอย่างสูง หนังเข้าฉายในเทศกาลวาเลนไทน์ กวาดรายได้ในจีนไปถึง 25 ล้านเหรียญ และในเกาหลีใต้อีก 2 ล้านเหรียญ กำไรอื้อซ่า เชื่อว่าเราคงได้ดู “แกล้งจุ๊บให้รู้ว่ารัก” กันอีกหลายรอบเป็นแน่

it start with a kiss ซีรีส์ไต้หวัน ปี 2005 ที่ฮิตที่สุด

ด้วยความที่หนังฮิต เชื่อว่าส่วนหนึ่งมาจากเนื้อหาที่โดนใจสาว ๆ ที่แอบหลงรักหนุ่มฮอตในโรงเรียน เมื่อวางเรื่องราวให้เกิดในโรงเรียนมัธยมปลายระดับแถวหน้า นางเอก หลินซีหยวน เป็นสาวที่เรียนไม่เก่งได้อยู่ในห้อง F แต่ดันไปหลงรัก เจียงจื๋อซู่ หนุ่มฮอตสุดประจำโรงเรียนก ที่เปอร์เฟ็คต์รอบด้าน ทั้งรูปหล่อ เก่งรอบด้านทั้งกีฬาและการเรียน ด้วยไอคิวที่สูงถึง 200 และได้เป็นประธานนักเรียนอีกด้วย ด้วยความหลงใหลในตัว เจียงจื๋อซู่ อย่างมากบวกกับแรงยุจากเพื่อน ทำให้ หลินซีหยวน ตัดสินใจไปมอบจดหมายรักให้จื๋อซู่ด้วยตัวเธอเอง แต่ก็ถูกปฏิเสธอย่างไร้เยื่อใยจากจื๋อซู่ว่า “ไม่ชอบสาวหัวสมองทึบ” แต่แล้วโชคชะตาก็เล่นตลก เมื่อบ้านที่ซีหยวนอยู่กับพ่อ 2 คนนั้นเกิดพลังทลายจากแรงแผ่นดินไหว พ่อเลยพาซีหยวนไปพักอยู่กับเพื่อนสนิทที่เป็นมหาเศรษฐี กลายเป็นว่าเพื่อนสนิทของพ่อนั้นคือพ่อของจื๋อซู่ ทำให้ซีหยวนได้มาอยู่ร่วมบ้านกับจื๋อซู่ จากที่เคยโดนปฏิเสธ แต่แล้วการได้อยู่ร่วมชายคาเดียวกันก็เป็นโอกาสให้ซีหยวนได้พยายามพิชิตใจจื๋อซู่ดูอีกครั้ง

ตัวผู้เขียนเองไม่เคยดูเวอร์ชั่นไหนมาก่อนเลย แต่ก็สัมผัสได้ถึงความโรแมนติก-น่ารัก ของเนื้อหาหนัง ที่หลินซีหยวนได้ทำหน้าที่เติมเต็มความฝัน แทนสาว ๆ ทั่วโลก ที่พิชิตใจชายในฝันที่แม้จะอยู่เกินเอื้อม แต่ก็ใช้ความจริงใจใสซื่อคว้าหัวใจเขามาได้สำเร็จ ด้วยความที่ดัดแปลงมากจากมังงะสำหรับผู้หญิง ตัวละคร “ทุกตัว” ในเรื่อง เลยถูกสวมบุคลิกลักษณะให้กลายเป็นตัวการ์ตูนแทบทั้งสิ้น ไม่มีมนุษย์ที่มีลักษณะแบบปุถุชนปกติสักคนเดียว ทุกคนในเรื่องสื่อการแสดงในระดับ “โอเวอร์แอคติ้ง” ด้วยความคาดหวังว่าจะเรียกเสียงหัวเราะจากคนดู ทั้งการพูดจา ท่าทางการเคลื่อนไหว รวมไปถึงการแสดงออกในทุกท่วงท่า แม้กระทั่งผู้อำนวยการโรงเรียนก็ยังกลายเป็นตัวตลกไปด้วย มีเพียงคนเดียวที่แตกต่างจากทุกคนรอบข้างคือ “เจียงจื๋อซู่” ที่ถูกกำหนดมาให้เป็นหนุ่มหล่อ ขรึม นิ่ง จนดูเป็นเหมือนกว่าเขาต้อง”เก๊ก” ตลอดเวลา ไม่มีรอยยิ้มหลุดรอดออกมาให้เห็น

เมื่อหนังที่กำหนดสไตล์ให้เป็น โรแมนติก-คอมมีดี้ แต่ถูกกำหนดสัดส่วนให้ค่อนไปทางคอมมีดี้ ก็ย่อมต้องส่งผลให้ความพีคในช่วงท้ายไปได้ไม่ถึงจุดที่ควร ยิ่งกับหนังที่ถูกรีเมคมาหลายรอบแล้วแบบนี้ คนดูส่วนใหญ่รู้ถึงบทลงเอยของเรื่องราวดีอยู่แล้ว เนื้อหาระหว่างทางยิ่งมีความสำคัญมากขึ้น กับการพาคนดูให้อินไปกับอารมณ์ความรู้สึกของตัวละคร ต้องให้คนดูเห็นใจชะตากรรมของหลินซีหยวน สาวน้อยที่ด้อยโอกาส บ้านพัง กำพร้าแม่ แต่ก็ไม่ได้พยายามจะแวะเวียนไปหาเรื่องราวดราม่าส่วนนี้เลยแม้แต่น้อย หรืออย่างบทของ “อาจิน” เพื่อนชายที่พยายามพิชิตใจ ซีหยวน มาตั้งแต่ตอนเรียน ซึ่งซีหยวน ก็รู้ว่าอาจินรักเธอแต่ก็ไม่แคร์ แถมยังแสดงความหลงใหลต่อจื๋อซู่ต่อหน้าต่อตาอาจินแบบไม่ใยดี บทหนังเมินความรู้สึกตัวละครไปเสียหมดและห่างไกลความเป็นจริงอย่างมาก จนไม่เหลือตรรกะความสมเหตุสมผลเลยแม้แต่น้อย และสุดท้ายก็ไม่อินไปกับความสมหวังของ ซีหยวน และ จื๋อซู่ ซึ่งหนังมีองค์ประกอบมากมายรายล้อมเพียงพอที่จะขับดันให้ “จุดสมหวัง” ของซีหยวนนั้นไปถึงจุดพีคสุดถึงขั้นเรียกน้ำตาจากความอิ่มเอมได้ แต่กับเวอร์ชั่นนี้กลับช่างรู้สึกแห้งแล้ง จนรู้สึกว่า 2 ชั่วโมงของหนัง ช่างยาวนานเสียเหลือเกิน

หนังเหมาะกับกลุ่มคนดูเพศหญิงที่เป็นแฟนซีรีส์ชุดนี้ ที่จะได้ฟินไปกับเรื่องราวความรักหวานแหววชวนฝันที่พวกเธอคุ้นเคย โดยไม่สนใจกับตรรกะความเป็นจริงใด ๆ แม้ไม่เคยดูเวอร์ชั่นไหนมาก่อน แต่ก็มั่นใจได้ว่า “Fall In Love At First Kiss” ไม่ใช่เวอร์ชั่นที่ดีที่สุดของ “แกล้งจุ๊บให้รู้ว่ารัก” และการที่หนังประสบความสำเร็จก็มาจากความดีความงามที่เวอร์ชั่นก่อน ๆ ได้สร้างชื่อเสียงไว้จนมีฐานความนิยมที่หนาแน่นเป็นวงกว้าง

Play video