[รีวิว] Touken Ranbu The Movie: จากเกมสู่หนัง หนุ่มหล่อ ดาบ และดอกไม้
Our score
6.5

Touken Ranbu The Movie

จุดเด่น

  1. เท่ เนื้อหาเท่มาก
  2. เนื้อเรื่องมีจุดหักมุม ที่น่าสนใจ
  3. บางตัวละครเล่นดี

จุดสังเกต

  1. ทรงผม การแต่งตัวประหลาดพอดัดแปลงเป็นหนัง
  • ตรรกะ ความสมบูรณ์ของบท

    7.0

  • คุณภาพนักแสดง

    6.5

  • คุณภาพงานสร้าง

    4.5

  • ความสนุก

    7.5

  • คุ้มเวลา ค่าตั๋ว

    7.0

สนับสนุนข้อมูลโดย Major Cineplex

เรื่องย่อ

เรื่องราวของเหล่าศาสตราในตำนานจากประเทศญี่ปุ่น ที่จะมาปกป้องช่วงเวลาประวัติศาสตร์ไปด้วยกัน!

ปี 2015 เราได้รู้จักกับ โทเคน ราบุ ครั้งแรกในฐานะเกมบนเว็บของค่าย DMM และ Nitroplus ซึ่งว่าด้วยผู้เล่นที่จะได้รับบทคนทรงนาม ซานิวะ ผู้มีพลังปลุกชีวิตให้แก่สิ่งของและอาวุธต่าง ๆ โดยเฉพาะเหล่าดาบชื่อดังในอดีต โดยเราจะถูกส่งไปยังอดีตพร้อมภารกิจพิทักษ์ประวัติศาสตร์ไม่ให้ผิดเพี้ยนไป ความโด่งดังของเกมที่เต็มไปด้วยหนุ่มหล่อชวนจิ้นทำให้มันถูกต่อยอดไปทั้ง แอนิเมชั่นซีรีส์ ละครเพลง และละครเวที จนล่าสุดคือในฉบับภาพยนตร์

Play video

ในฉบับหนังนี้จะเล่าเรื่องผ่านประวัติศาสตร์ยุคเซ็งโงกุของญี่ปุ่น ที่นับเป็นช่วงสำคัญหนึ่งซึ่งถูกนำมาบอกเล่าผ่านสื่อสมัยหลายต่อหลายครั้ง เมื่อโนบุนางะยอดขุนพลผู้พยายามรวมแผ่นดินด้วยความเหี้ยมโหด ได้ถูกลูกน้องคนสนิทนามมิซึฮิเดะหักหลัง จนเขาต้องกระทำการอัตวิบากกรรมในวัดฮนโนในที่สุด เรื่องราวในประวัติศาสตร์จบลงเช่นนี้ ทว่ากองกำลังปีศาจที่มุ่งหมายเปลี่ยนแปลงประวัติศาสตร์ได้ยกกำลังมาช่วยโนบุนางะออกไปได้สำเร็จ ทำให้เหล่ากลุ่มศาสตราบุรุษซึ่งเป็นดาบเล่มสำคัญในแต่ละยุคของญี่ปุ่นผู้ถูกคนทรงปลุกคืนชีพมา ต้องย้อนเวลาไปแก้ไขเหตุการณ์ หากแต่ว่าในหมู่ศาสตราบุรุษเองก็มีความผิดปกติเช่นกัน เมื่อหัวหน้ากลุ่มอย่าง มุเนะจิกะ ได้ทำการช่วยเหลือโนบุนางะในการพบกันครั้งที่สองเสียเอง ซึ่งทำให้เหล่าศาสตราบุรุษที่เหลือต่างต้องต่อสู้ทั้งเหล่ากำลังปีศาจ ทั้งต้องรับมือกับท่าทีของหัวหน้ากลุ่มที่ไม่แน่ชัดว่าทรยศด้วยเหตุใดด้วย

ฉากการถกเถียงเรื่องประวัติศาสตร์ที่แท้จริง กับที่ถูกต้อง เป็นอีกฉากที่ชอบ

เหล่าศาสตราบุรุษ

ฉบับหนังนั้นได้ยกทีมนักแสดงของละครเวทีมาต่อยอด ไม่ว่าจะ ฮิโรกิ ซุสุกิ ในบทดาบเฒ่ามุเนะจิกะ ยามาโมโตะ โคจิ ในบทโนบุนางะ โยชิมะ โนริตะ ในบทฮิเดโยชิ และเหล่านักแสดงหนุ่มหล่อหน้าใหม่อีกเพียบ โดยโปรดักชั่นนั้นก็นับว่าเหมือนเอานักแสดงแต่งตัวแบบละครเวทียกมาใส่ในกองถ่ายหนังทีวีเรื่องไอ้มดแดง ด้วยเนื้อหาบทหนังที่ดูสนุกเรื่องหนึ่ง

ยอมรับว่าดูแรก ๆ มีแต่ความรู้สึกขัดใจทั้งเสื้อผ้าหน้าผม โดยเฉพาะผมเป็นแอนิเมะเลยนี่ดูผิดที่ผิดทางมาก ตัวละครหน้าขาววอกไอ้หนุ่มหล่อทั้งหลายนี่ก็หล่อเจ้าสำอางแบบหลุดมาจากชิบุย่า ฮาราจูกุกันเลย แต่พอดูไปเรื่อย ๆ ก็เริ่มรู้สึกอินขึ้นจนมองข้ามความตลกพวกนี้ไปได้ และกลายเป็นว่าถึงโปรดักชั่นจะดูไม่สมหนังเท่าไหร่ทั้งสเปเชี่ยลเอฟเฟกต์ทั้งฉากทั้งหลาย แต่ตัวเนื้อเรื่องกลับดูน่าสนใจขึ้นเรื่อย ๆ ตั้งแต่หัวหน้าศาสตราบุรุษเริ่มทรยศ จนถึงฉากเฉลยก็รู้สึก เนื้อเรื่องมันเจ๋งดีนะเนี่ย และเชื่อว่ายิ่งใครอินประวัติศาสต์ญี่ปุ่นน่าจะยิ่งสนุกเข้าไปอีก การแสดงอาจดูธรรมดา ๆ หลายตัวคือเอามาเท่อย่างเดียว แต่หลายตัวก็น่าจดจำมากโดยเฉพาะดาบเฒ่ามุเนะจิกะ ที่ยิ่งเล่นยิ่งเท่จิตวิญญาณซามูไรมาก โนบุนางะก็ลึกซึ้งในฉากที่รู้ว่าตัวเองต้องตายก็เล่นได้เฉียบ ส่วนฮิเดโยชิกลายเป็นตัวละครที่ชอบที่สุดถึงจะเล่นแบบตลกโอเวอร์สไตล์ญี่ปุ่น แต่เนื้อในโคตรเท่ ต้องดูเอง

สรุปว่าเป็นหนังญี่ปุ่นอีกเรื่องที่คุณภาพคงไม่ถึงคำว่าหนังดีอะไร แต่มีส่วนดีมาก ๆ ในการเล่าเรื่องที่น่าสนใจและใส่ฉากคม ๆ เท่ ๆ มาเพียบ จนแบบโหแต่งตัวตลก ๆ แต่โคตรเท่ในตอนหลังได้เฉยเลย

ดาบดียังกลายเป็นหนุ่มหล่อ อ่านจบอยากดูหนังต่อต้องกดจองตั๋วที่รูปเลย