[รีวิว] Svaha The Sixth Finger: พุทธตำนานสู่หนังสยองฆาตกรรม
Our score
8.4

Svaha The Sixth Finger

จุดเด่น

  1. ผูกเรื่องกับแนวคิดพุทธมหายานและความเชื่อต่าง ๆ ได้น่าสนใจ
  2. นักแสดงดีงาม
  3. โปรดักชั่นสวย มีเสน่ห์มาก
  4. รสนิยมดี ไม่ต้องใช้เสียงโครมคราม หรือภาพแหวะ ๆ แต่ก็สยองได้

จุดสังเกต

  1. 2 ชั่วโมงกว่า ถือว่าหนังยาวพอสมควร
  2. จบแบบปลายเปิดนิด ๆ ต้องคิดเอง
  3. ต้องอาศัยการตีความและคิดตามพอประมาณ
  • ตรรกะ ความสมบูรณ์ของบท

    8.5

  • คุณภาพนักแสดง

    9.0

  • คุณภาพงานสร้าง

    8.5

  • ความสนุก

    8.0

  • คุ้มเวลา ค่าตั๋ว

    8.0

เรื่องย่อ

ศาสนาจารย์ปาร์ก (ลีจุนแจ) จอมเปิดโปงลัทธิลวงโลก ได้พบเบาะแสของกลุ่มความเชื่อใหม่ที่มีสัญลักษณ์เป็นรูปกวาง โดยมีคำสอนคล้ายกับพุทธมหายาน หากแต่บูชาแม่ทัพโลกบาลซึ่งเชื่อว่าเป็นมารร้ายที่ได้พบพุทธองค์ จึงกลับตัวมาปราบปีศาจความชั่วร้ายในนามว่าอสรพิษทั้งหลายเพื่อนิพพาน หากแต่สิ่งที่ปาร์กพบไม่เพียงเกี่ยวพันกับความเชื่อทางศาสนาที่ผิดเพี้ยน แต่ยังพาเขาเข้าไปพัวพันกับคดีฆาตกรรมเด็กสาวหลายต่อหลายคดี สิ่งที่เกิดขึ้นคือเรื่องเหนือธรรมชาติ หรือเพียงคนจิตใจทรามที่อยู่เบื้องหลังกันแน่ คือสิ่งที่หนังเรื่องนี้จะพาเราพิสูจน์พร้อมกัน

Play video

หนังเน็ตฟลิกซ์จากเกาหลีที่มาตรฐานงานดีไม่มีหย่อน โดยเฉพาะเรื่องนี้คือการหวนกลับมาของผู้กำกับและมือเขียนบท จางแจฮยอน ที่เคยฝากผลงานมาแล้วในเรื่อง The Priests (2015) ครั้งนี้เขายังคงสนใจในเรื่องราวเหนือธรรมชาติที่ท้าทายความเข้าใจของผู้ชมว่าความจริงคืออะไรแน่ โดยเรื่องก่อนพูดถึงสองบาทหลวงที่ต้องมาช่วยในคดีเด็กสาวที่ถูกผีสิง หรือไม่ก็เพียงเธอถูกกระทำย่ำยีจากมนุษย์ที่เลวทราม และสำหรับเรื่องนี้ จางแจฮยอนได้ท้าทายเรื่องราวในพุทธศาสนานิกายมหายานบ้าง ด้วยความเชื่อเรื่องเทพมาร และการเกิดของขั้วตรงข้ามอย่างความดี-ความชั่ว แสง-เงา อันดำรงอยู่ไม่อาจตัดกันขาด

สวาหะ เป็นคำปิดท้ายการร่ายคาถา อันระบุว่านี่คือการจบลง ซึ่งหนังเรื่องนี้ก็เอามาผสมเป็นพลอตได้น่าสนใจ

หนังได้ดาราชั้นนำอย่าง ลีจุนแจ จากเรื่อง Along With the Gods มาขับเคลื่อนเรื่องราว ทั้งยังแจ้งเกิดให้ดาราเด็กหน้าใหม่อย่าง ลีแจอิน ในบทของแฝดสาวที่เกิดมาราวต้องคำสาป แฝดผู้น้องเป็นแผลที่ขา ส่วนแฝดคนพี่รูปลักษณ์ราวปีศาจต้องถูกกักขังในห้องตลอดชีวิต โดยลีแจอินสามารถคว้ารางวัลดาราหน้าใหม่จากเวทีในเกาหลีไปได้ สมทบด้วยดาราชายเจ้าของรางวัลดาราหน้าใหม่ยอดเยี่ยมปี 2016 จากเวทีบลูดราก้อนอย่าง ปาร์กจุนมิน และดารารุ่นเก๋าอย่าง จุงจินยอง ด้วย

หนังเล่าเรื่องไปด้วยปริศนาที่มากขึ้น ๆ โดยเล่าจากหลายเส้นเรื่องที่จะค่อย ๆ มาบรรจบกัน เส้นหนึ่งคือเรื่องราวของ กึมฮวา (ลีแจอิน) เด็กสาวที่เกลียดชะตาต้องสาปของตนเองและอยากฆ่าพี่สาวของเธอให้พ้นทุกข์ไปเสียที เธอถูกเลี้ยงด้วยปู่กับย่าที่เคร่งในคริสตศาสนา แม้จะย้ายบ้านหนีมาหลายครั้งแต่หมู่บ้านล่าสุดที่เธอพำนักก็ยังไม่วายถูกคนทรงกล่าวร้ายว่าครอบครัวคือปีศาจ ทว่าพี่สาวเธอเองก็ดูราวปีศาจจริง ๆ อีกเส้นเรื่องเล่าถึง นาฮาน (ปาร์กจุนมิน) ชายหนุ่มผู้ที่เชื่อว่าตนเองคือเทพมารโลกบาลตามคัมภีร์ความเชื่อของลัทธิ อันมีหน้าที่ต้องสังหารอสรพิษร้ายเพื่อให้พระศรีอริยเมตไตรยดำรงอยู่ต่อไป และสุดท้ายคือนักสืบลัทธิลวงโลกอย่าง ศาสนาจารย์ปาร์ก (ลีจุนแจ) ที่ต้องมาพัวพันกับคดีที่นายตำรวจใหญ่อย่าง ผู้กองฮวาง (จุงจินยอง) ยังไม่สามารถปิดลงได้ ซ้ำร้ายยังจะกลายเป็นคดีฆาตกรรมต่อเนื่องเสียด้วย แต่ยิ่งปาร์กสืบลงไปเท่าใดก็ยิ่งพบแต่ความฉงนและเรื่องราวสุดเหลือเชื่อ ที่สั่นคลอนความเชื่อของเขา หรือบางทีสิ่งเหนือธรรมชาติอย่างพระเจ้าและพระโพธิสัตว์จะมีอยู่จริง

การเล่าแบบผูกปริศนาถือว่าทำได้ดีระดับหนึ่ง แม้ท้ายที่สุดเป็นผู้ชมเองนี่ล่ะที่ต้องตัดสินความจริงและไม่จริงที่เกิดขึ้น จนถึงบทสรุปสุดท้ายว่าใครคือเทพใครคือมารกันแน่ แต่ที่ต้องชื่นชมมากคือบทหนังทั้งพลอตและบทสนทนานั้นทำได้ดีมาก น่าติดตาม ทั้งยังชวนให้คิดอยู่ตลอดตามสาระของหนัง เป็นหนังที่ตั้งคำถามต่อความเชื่อ และการตัดสินความดีความชั่วได้อย่างน่าตื่นเต้น และมีเสน่ห์แปลกประหลาดอีกเรื่องหนึ่งทีเดียว ยังต้องชื่นชมไปถึงโปรดักชั่นที่ทำได้สุดยอดทั้งการถ่ายภาพและการออกแบบงานสร้าง ซึ่งเกาหลีทำได้ดีอยู่แล้ว ดูไปก็น่าเจ็บใจที่เกาหลีไปได้ไกลขนาดนี้แล้ว ในขณะที่เรื่องเหนือโลกของบ้านเรานั้นก็โดดเด่นมีให้เล่นมากมายแต่ยังไม่สามารถทำออกมาเป็นหนังได้คมคายและน่าจะจำมากพอ ใครอยากชมหนังที่มีพุทธเป็นพลอตสยองขวัญแถมงานเนี้ยบด้วยนี่คือเรื่องที่พลาดไม่ได้เลยล่ะ

รับชมได้ที่นี่เลย https://www.netflix.com/watch/81010699