เมื่อระยะเวลาในการฉาย Spider-Man: Far From Home ในโรงภาพยนตร์กำลังจะสิ้นสุดลง ทาง Sony จึงได้ตัดสินใจใช้วิธีเดียวกับ Avengers: Endgame โดยการเปิดฉาย Spider-Man: Far From Home เวอร์ชันใหม่ที่เพิ่มฉากเข้าไปอีกหลายนาที ซึ่งช่วยกระตุ้นรายได้บนตารางบ็อกซ์ออฟฟิศในสหรัฐอเมริกาได้ดีเลยทีเดียว

  • ปล. ก่อนหน้านี้ Disney เคยนำ Avengers: Endgame เวอร์ชันพิเศษซึ่งเพิ่มฉากที่เข้าไปอีกหลายนาที มาฉายในโรงภาพยนตร์ ซึ่งส่งผลให้ Avengers: Endgame ทำรายได้รวมทั่วโลกแซงหน้า Avatar และกลายเป็นภาพยนตร์ที่ทำรายได้ทั่วโลกสูงสุดตลอดกาล

เว็บไซต์รวบรวมข้อมูลรายได้ภาพยนตร์ Box Office Mojo ได้รายงานว่า Spider-Man: Far From Home ทำรายได้สุดสัปดาห์ล่าสุด (30 สิงหาคม – 1 กันยายน 2019) ในสหรัฐอเมริกาไป 4.2 ล้านเหรียญ ซึ่งเพิ่มสูงขึ้น 153.2% จากสุดสัปดาห์ก่อนที่ทำไป 1.7 ล้านเหรียญ และถ้าหากรวมรายได้ในช่วงวันหยุด Labor Day (วันแรงงาน) ของสหรัฐอเมริกา ซึ่งตรงกับวันที่ 2 กันยายน 2019 ไปอีก ก็อาจมีรายได้ราว 5.4 ล้านเหรียญ

นั่นทำให้รายได้รวมของ Spider-Man: Far From Home ในสหรัฐอเมริกาอยู่ที่ 385.9 ล้านเหรียญ เป็นรองเพียงแค่ Spider-Man เมื่อปี 2002 ของผู้กำกับ Sam Raimi (แซม ไรมี) ที่ทำไว้ 403.7 ล้านเหรียญ

ในขณะนี้ Spider-Man: Far From Home ได้กลายเป็นภาพยนตร์ที่ทำรายได้ทั่วโลกสูงสุดในแฟรนไชส์ Spider-Man คือ 1.12 พันล้านเหรียญ และเป็นภาพยนตร์ที่ทำรายได้สูงสุดในประวัติศาสตร์ของ Sony แซงหน้า Skyfall เมื่อปี 2012 ที่ทำรายได้ทั่วโลกไป 1.108 พันล้านเหรียญ

ข้อมูลอ้างอิง : screenrant

 

พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส