นับวันโลกเราจะมีข่าวชายหรือหญิงแต่งงานกับข้าวของหรือสิ่งประหลาดมากขึ้นทุกวัน ที่เคยมีข่าวมาแล้วก็แต่งงานกับหมา, โคมระย้า, ตัวละครในวิดีโอเกม, เครื่องเล่นในสวนสนุก ล่าสุดที่เพิ่งเป็นข่าวสด ๆ ร้อน ๆ ก็คือกรณีของหญิงสาวชาวเยอรมัน ชื่อว่า มิเชลล์ คอบเก วัย 30 ปี เธออาศัยอยู่ในกรุงเบอร์ลิน แต่ไม่มีการเปิดเผยว่าเธอทำอาชีพอะไร

เรื่องราวรสนิยมประหลาดของมิเชลล์กลายเป็นที่สนใจมาตั้งแต่เดือนมกราคม 2019 ตอนที่เธอให้สัมภาษณ์กับสื่อว่าเธอตกหลุมรักกับ โบอิ้ง 737-800 แบบจริง ๆ จัง ๆ

“ฉันเคยขึ้นเครื่องบินครั้งแรกเมื่อเดือนพฤศจิกายน 2013 ตั้งแต่นั้นฉันก็รู้สึกว่าฉันหลงใหลเครื่องบินเป็นพิเศษ ฉันตื่นเต้นทุกครั้งเวลาที่ได้เห็นเครื่องบิน ไม่ว่าจะในภาพนิ่งหรือวิดีโอ”

แรกเริ่มนั้นมิเชลล์เคยคบหากับชายหนุ่ม แต่ย้อนไปไกลตั้งแต่ปี 2011 ซึ่งเธอว่าตอนนั้นเธอไม่แน่ใจว่าเธอรู้สึกรักจริง ๆ หรือเปล่า แต่เธอเริ่มมามีความเสน่หาจริงจังกับโอบิง 737-800

“แล้วในวันที่ 11 มีนาคม ปี 2014 ฉันได้มีโอกาสไปที่สนามบินเทเกิล ฉันก็มองดูเครื่องบิน จนกระทั่งเหลือบไปเห็น โบอิง 737-800 จนเมื่อฉันได้เข้าไปใกล้ตัวเครื่องบิน ฉันก็ตกหลุมรักเขาตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา” 

(รู้ได้ไงว่าเครื่องบินเป็นผู้ชายเนี่ย)

มิเชลล์ขณะที่ได้เข้าไปเจอ schatz ในโรงเก็บ

มิเชลล์ขณะที่ได้เข้าไปเจอ schatz ในโรงเก็บ

มิเชลล์ ยังได้บรรยายความรู้สึกที่เธอมีต่อโบอิง 737-800 อีกว่า
“737-800 มีเสน่ห์ดึงดูดต่อฉันมาก สำหรับฉันแล้ว…เขาเซ็กซี่มาก เขาถูกสร้างมาอย่างสวยงาม เป็นเครื่องบินที่ดูสง่าภูมิฐาน”
ตามประสาคนรักครับ ที่ต้องมีชื่อเล่นไว้เรียกกัน มิเชลล์ก็ตั้งชื่อเล่นให้ 737-800 ว่า “Schatz” แปลว่า “ที่รัก”

เมื่ออุปโลกเครื่องบินโดยสารลำมหึมาว่าเป็นแฟนของตัวเอง มันก็เป็นไปไม่ได้หรอกนะ ที่จะพาแฟนกลับมาบ้าน หรือจะไปอยู่ในสนามบินกับแฟนทั้งวันทั้งคืน มิเชลล์จะได้ใกล้ชิดกับ “Schatz” ก็ต่อเมื่อเธอได้บินกับที่รักเธอเท่านั้น
“ฉันจะได้อยู่ใกล้เขาก็ต่อเมื่อฉันได้เดินทางบินไปกับเขาเท่านั้น หรือไม่ก็ตอนที่ฉันมีโอกาสได้เข้าไปในโรงเก็บเครื่องบิน ซึ่งฉันได้เคยเข้าไปแค่หนเดียวเท่านั้นเอง ฉันได้พบกับเขาใกล้ชิดจริง ๆ ในวันที่ 1 พฤษภาคม 2019 ฉันมีความสุขในทุกเสี้ยววินาทีที่ฉันได้อยู่กับเขา ฉันยิ้มแก้มปริจนเจ็บแก้มเลย ฉันเป็นผู้หญิงที่มีความสุขที่สุดในโลก ทุกสิ่งทุกอย่างที่ฉันต้องการคือการได้อยู่กับเขา”
มิเชลล์ยังอธิบายลงลึกอีกว่า ส่วนที่เธอชอบมากที่สุดในตัว “Schatz” ก็คือบริเวณ “ปีก”
“พอฉันได้สัมผัสปีกของเขา ฉันจะตื่นเต้นมาก จนเหงื่อออกเต็มมือไปหมดเลย”

โมเดลขนาดใหญ่่ ที่เธอนอนกอดทุกคืน

โมเดลขนาดใหญ่่ ที่เธอนอนกอดทุกคืน

เมื่อไม่มีโอกาสได้ใกล้ชิดบ่อยครั้งนัก มิเชลล์ก็หาทางออกให้ตัวเธอเองได้สบายใจ ด้วยการหาซื้อโมเดลโบอิงขนาดใหญ่ถึง 1.6 เมตร หรือไปหาอะไหล่ ส่วนประกอบเก่ามาไว้ที่บ้าน
“ฉันมีโมเดลโบอิงขนาดใหญ่ ทำมาจากไฟเบอร์กลาส แล้วก็ชิ้นส่วนจริง ๆ จากเครื่องบิน ซึ่งฉันสามารถแสดงออกถึงความรักจากฉันออกมาได้บ้าง”
มิเชลล์ยังเผยกับผู้สื่อข่าวอีกว่า ความฝันสูงสุดของเธอก็คือ การได้แต่งงานกับ “Schatz”

จนเมื่อเดือนกันยายน 2019 มิเชลล์ ได้มีโอกาสไปใกล้ “Schatz” อีกครั้งในโรงเก็บ ครั้งนี้เธอได้จูบไปที่ลำตัวเครื่อง แถมยังได้ขึ้นไปยืนบนปีกเครื่องอีกด้วย หลังจากได้พบกับ “Schatz” อย่างใกล้ชิดเป็นครั้งที่ 2 มิเชลล์ก็ประกาศว่าเธอจะแต่งงานกับ “Schatz” ล่ะนะ แถมยังวางแผนถึงชุดที่จะใส่ในงานแล้วด้วย เธอจะไม่แต่งตัวเป็นเจ้าสาวตามแบบแผนนิยมทั่วไป แต่เธอจะใส่แจ็กเก็ตดำและกางเกงขายาวสีดำในวันงาน
เธอกำหนดวันและสถานที่งานแต่งแล้วด้วย คือวันที่ 18 มีนาคม 2020 ในโรงเก็บที่อัมสเตอร์ดัม (ใครก็ช่างเล่นกับเจ๊ด้วยเนี่ย)
เราอ่านข่าวแล้วก็สงสัยนะว่าพ่อแม่ และเพื่อนฝูงยังคบหาอยู่ไหม นักข่าวก็คงสงสัยเหมือนกัน แล้วนักข่าวถามข้อสงสัยนี้ให้ด้วยครับ
“พ่อแม่และเพื่อนของฉันยอมรับในความสัมพันธ์ของฉันกับ “Schatz” แต่ครอบครัวของฉันไม่ได้แสดงความสนใจจะมาร่วมงานแต่งนี้หรอกนะ ฉันก็กะว่าจะจัดงานแต่งในหมู่เพื่อนสนิทเท่านั้น”

มิเชลล์ หลงใหลส่วน "ปีก" มากที่สุด

มิเชลล์ หลงใหลส่วน “ปีก” มากที่สุด

ยังไม่จบครับ มิเชลล์ยังวางแผนอนาคตระหว่างเธอกับ “Schatz” ให้ผู้สื่อข่าวฟังอีกด้วย
“บ้านของ “Schatz” ก็คือโรงเก็บเครื่องบิน เราสามารถมีความสุขด้วยกันที่นั่นโดยไม่มีใครมารบกวน ฉันวางแผนไว้ว่าสักวันหนึ่งฉันจะย้ายไปอยู่กับ “Schatz” ในโรงเก็บ ความฝันสูงสุดของฉัน คือการได้ใกล้ชิดเขา ได้อยู่กับเขาตลอดไป”

“ฉันจะแต่งงานกับเขาในโรงเก็บเครื่องบิน แล้วคืนนั้นฉันจะอยู่กับเขาทั้งคืน ฉันอยากให้มีใครมาทำหน้าที่แทนบาทหลวง แล้วกล่าวในพิธีว่า คุณต้องการจะสมรสกับ 737-800 ของคุณใช่ไหม แล้วฉันจะรีบตอน ตกลง ทันที แล้วจากนั้นฉันก็จะอยู่กับเขาด้วยกันไปตลอดกาล”

“ความรักของฉันเป็นรูปแบบพิเศษ และมันไม่ได้ไปทำให้ใครเดือดร้อน”

เดือดร้อนนะถ้าเจ๊จะย้ายไปอยู่ในโรงเก็บเครื่องบินเนี่ย ใครจะอนุญาตให้เจ๊มิเชลล์ไปอยู่ในนั้นล่ะ ทางที่ดีเจ๊มิเชลล์ควรขยันทำงานซื้อ 737-800 ที่ปลดระวางเก็บไว้ส่วนตัวสักลำไปเลย หาซื้อที่ดินใหญ่ ๆ ไว้ทำโรงเก็บด้วยล่ะ

อ่านแล้วเราก็คงจะสรุปได้ว่า มิเชลล์น่าจะมีอาการทางจิตประเภทหนึ่ง ซึ่งนักจิตวิทยาให้ความเห็นว่ากรณีของมิเชลล์นั้น มีอาการที่เรียกว่า objectophilia โรคหลงรักในวัตถุสิ่งของ หรือสิ่งที่ไม่มีชีวิต

 

อ้างอิง

อ้างอิง

อ้างอิง