การแพร่ระบาดของ COVID-19 ได้กระทบกับวงการภาพยนตร์เป็นอย่างมากโดยเฉพาะ ฮอลลีวูดที่หนังใหญ่ ๆ อย่าง Mission Impossible 7 The Batman Jurassic World Dominion (หรือภาค 3 ของ Jurassic World) รวมถึงผลงานของ Apple TV อย่าง The Morning Show ที่ได้รีส วิเธอร์สปูน กับ เจนนิเฟอร์ อนิสตัน แสดงนำต้องหยุดชะงัก อย่างไรก็ดีตอนนี้เริ่มมีแสงสว่างที่ปลายอุโมงค์และฮีโรคนสำคัญที่มาจะมาช่วยให้การถ่ายทำดำเนินไปได้ต่อเนื่องก็ได้แก่เทคโนโลยีของบริษัทเกมต่าง ๆ นั่นเอง

หลักการเบื้องต้นคือปัญหาหลักที่ทำให้กองถ่ายไม่สามารถดำเนินการถ่ายทำได้ในช่วงนี้คือคำสั่งให้กักตัวอยู่บ้านของรัฐบาลสหรัฐอเมริกา และความเสี่ยงในการรวมตัวกันของทีมงานจำนวนมากในกองถ่าย รวมถึงหลายแห่งในสหรัฐอเมริกายังเป็นพื้นที่เสี่ยงที่ไม่สามารถเดินทางเข้าไปได้ ดังนั้นหนทางเดียวคือการที่หนังหรือซีรีส์จะต้องถ่ายทำในสตูดิโอ ซึ่งแต่เดิมถ้าไม่สร้างฉากแบ็คดรอปเป็นสถานที่ต่าง ๆ ก็มีเทคโนโลยีกรีนสกรีนเดิมที่นักแสดงจะต้องแสดงหน้ากรีนสกรีนแล้วค่อยไปใส่ฉากหลังในคอมพิวเตอร์ทับกรีนสกรีนอีกครั้งหนึ่ง ซึ่ง ณ. สถานการณ์ปัจจุบันจะให้รวมช่างศิลป์มาสร้างฉากในสตูดิโอก็ขัดกับหลักการความปลอดภัยในช่วงนี้ ส่วนกรีนสกรีนก็ทำให้ขั้นตอนในการถ่ายทำยิ่งช้าเข้าไปอีกเพราะต้องจัดแสงและถ่ายไปปรึกษาทีมสเปเชียลเอฟเฟกต์ไปดังนั้นการถ่ายทำที่จบหน้ากล้องได้มากที่สุดคือคำตอบ

และเทคโนโลยีที่ว่าก็คือการสร้างฉากหลังเป็นสถานที่ต่าง ๆ ด้วยคอมพิวเตอร์ทั้งหมดซึ่งจะมีบริษัทไหนเหมาะไปกว่าบริษัทเกมอย่าง Epic Games และ Unity Technologies ผู้อยู่เบื้องหลังเกมดัง ๆ ทั้ง Fortnite และ Pokemon Go ที่จะล่าสุดกลายเป็นมือปืนรับจ้างให้กับ Disney และ Netflix เพื่อเนรมิตรฉากด้วยคอมพิวเตอร์กราฟิกสุดล้ำสำหรับหนังและซีรีส์เรื่องใหม่ที่จะเริ่มเปิดกล้องถ่ายทำ

WHAT THE FACT รีวิว The Irishman

The Irishman (2019)  หนังที่เคยใช้บริการฉากเสมือนจริง

ถึงตรงนี้หลายคนคง งงเต็ก เป็นไก่ตาแตกกันแล้วว่าอ้าวในเมื่อกรีนสกรีนเดิมมันเสียเวลาแล้วจะถ่ายกันยังไงล่ะเนี่ย คำตอบก็คือต่อไปภาพยนตร์จะถ่ายในสตูดิโอที่ติดจอ LED ขนาดยักษ์ความละเอียด 4K ที่จะกินพื้นที่ตั้งแต่พื้นจรดเพดานแล้วภาพฉากหลังที่เหล่าบริษัทเกมเนรมิตรมาก็จะปรากฎบนจอ ทีนี้ฉากในหนังจะพิสดารแค่ไหนก็ไม่มีปัญหาไม่ว่าจะเป็นทะเลทรายหรือสถานีอวกาศก็ทำได้หายห่วง โดยก่อนหน้านี้ก็เคยให้บริการหนังฟอร์มยักษ์อย่าง The Irishman ของ Netflix และซีรีส์ Mandalorian ของ Disney+ มาแล้ว

ซึ่งในขณะนี้สตูดิโอใหญ่ ๆ อย่าง Warner Bros., Paramount, Hulu (บริษัทสตรีมมิงเครือ Disney)  และสถานี CBS ก็เริ่มพิจารณาใช้บริการฉากเสมือนจริงกันมากขึ้น ซึ่งส่วนหนึ่งนอกจากสถานการณ์โรคระบาดบีบบังคับแล้วยังสามารถนำมาปรับใช้ในการทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากไม่ว่าจะเป็นฉากภูมิทัศน์กว้าง ๆ หรือฉากภายในห้องที่เนรมิตรได้อย่างใจ เพียงแค่สั่งให้เหล่ากี๊คกราฟิกเนรมิตรฟรอมโฮมฉากต่าง ๆ จากบ้านแถมผู้กำกับยังสั่งปรับได้ดั่งใจจะเอาฟ้าสีไหนหรือให้กราฟิกสัตว์ประหลาด ขยับตัว ขยับปีก แบบไหนก็ได้ดั่งใจเลย

ซึ่งทาง คิม ลิเบรรี หัวหน้างานสายเทคโนโลยีของ Epic ยังสำทับให้หมั่นไส้เล่นอีกว่านี่คือคำตอบของงานกองถ่าย พ.ศ. นี้เลย ยิ่งในช่วงไวรัส ​COVID-19 ระบาดแบบนี้ เทคโนโลยีฉากเสมือนจริงเป็นหาทางที่จะทำให้หนังได้ถ่ายกันเร็วขึ้น โดยเฉพาะฉากภูมิทัศน์กว้าง ๆ ที่สถานการณ์โรคระบาดทำให้การเดินทางและการขนทีมงานออกไปถ่ายหนังเป็นเรื่องแสนสาหัสและไม่ปลอดภัย

WHAT THE FACT ฮอลลีวูดจับมือบริษัทเกมพลิกโฉมการถ่ายทำภาพยนตร์

ฉากสู้กับ มัดฮอร์น ใน The Mandalorian ซีซันแรก

แต่จะหาว่า คุณคิม เขาโม้ก็กะไรอยู่..เพราะผลงานมันฟ้องมานานแล้ว โดยเฉพาะเทคโนโลยีของ Unreal ของ EPIC ได้เคยเนรมิตรฉากทะเลทรายสุดลูกหูลูกตาเป็นฉากหลังในซีนบู๊ตอนแรกของ. Mandalorian ซีซันแรกที่ แมนดาลอเรียน พะบู๊กับแรดอวกาศอย่างตัว มัดฮอร์น ที่หลายคนเคยซู้ดปากด้วยความเมามันส์มาแล้ว. ซึ่งแน่นอนว่าเทคโนโลยีนี้ก็น่าจะได้มีบทบาทต่อไปโดยเฉพาะใน  The Mandalorian ซีซัน 3 ที่ได้ประกาศเตรียมงานสร้างเรียบร้อยแล้ว.

อ้างอิง  

 

 

พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส