สืบเนื่องจากการจากไปของ Joel Shumacher (โจเอล ชูมาเกอร์) ผู้กำกับรุ่นเก๋าในวัย 80 ปี ที่มีผลงานที่ทรงพลังมากมาย ก็ได้มีการพูดถึงผลงานต่าง ๆ ในอดีตของผู้กำกับระดับบล็อกบัสเตอร์ที่สตูดิโอไว้วางใจให้รับผิดชอบโพรเจกต์ยาก ๆ มากมาย โดยหนึ่งในนั้นคือ Batman Forever เมื่อปี 1995 ที่นำแสดงโดย Val Kilmer (วาล คิลเมอร์) ในบท Batman, Tommy Lee Jones (ทอมมี ลี โจนส์) ในบท Two-Face, Jimmy Carrey (จิม แคร์รีย์) รับบท Riddler และ Nicole Kidman (นิโคล คิดแมน) ในบท ด็อกเตอร์ Chase Meridian ซึ่งเป็นหนึ่งผลงานที่ทำเงินสูงสุดของเขาเลยทีเดียว

Joel Shumacher มีผลงานที่น่าจดจำมากมายในยุค 90s ไม่ว่าจะเป็น St. Elmo’s Fire (1985), The Lost Boys (1987), Flatliners (1990), Dying Young (1991), Falling Down (1993), The Client (1994), Batman Forever (1995), A Time to Kill (1996) และ 8MM (1999)

Joel Schumacher
Joel Shumacher (โจเอล ชูมาเกอร์) ภาพจาก Warner Bros.

ล่าสุดเว็บไซต์ Variety ได้รายงานเกี่ยวกับ Batman Forever เวอร์ชันตัดต่อที่ยาวกว่าที่ฉายในโรงภาพยนตร์ หรือที่เรียกว่า Extended Cut โดยมีโทนที่มืดหม่นกว่า และมีฉากต่าง ๆ ที่น่าสนใจ ดังนี้

  • วายร้ายอย่าง Two-Face หลบหนีออกจากโรงพยาบาลจิตเวช
  • Riddler บุกเข้าทำค้างคาวของ Batman และใช้ไม้เท้าอันเป็นเอกลักษณ์ของเขาเป็นอาวุธ
  • ฉากลงลึกในจิตใจของ Bruce Wayne ที่ตัดสินใจเป็น Batman ที่ดูแล้วเข้าถึงอารมณ์มากขึ้น
  • ฉากที่ Bruce Wayne ต้องเผชิญหน้ากับค้างคาวยักษ์ที่มีขนาดตัวเท่ากับมนุษย์
  • ฉากแนะนำ Dick Grayson (รับบทโดย Chris O-Donnell: คริส โอ ดอนเนลล์)
Batman Forever
Tommy Lee Jones (ทอมมี ลี โจนส์) ในบท Two-Face และ Jim Carrey (จิม แคร์รีย์) รับบท Riddler

Batman Forever ที่ฉายในโรงภาพยนตร์เมื่อปี 1995 นั้น มีความยาว 129 นาที แต่เวอร์ชันตัดต่อของผู้กำกับ Joel Shumacher นั้น มีความยาวกว่าถึง 40 นาที ซึ่งรายงานระบุว่า เน้นไปที่สภาวะจิตใจของ Bruce Wayne กับความสัมพันธ์กับจิตแพทย์สาว ด็อกเตอร์ Chase Meridian มากกว่า

Batman Forever3
Nicole Kidman (นิโคล คิดแมน) ดูเฉิดฉายมากในบท ด็อกเตอร์ Chase Meridian

นอกจากนี้ Akiva Goldsman (อากิวา โกลด์แมน) มือเขียนบทรางวัลออสการ์จาก A Beautiful Mind (2001) และเป็นผู้เขียบทร่วมของ Batman Forever ยังได้ให้สัมภาษณ์กับเว็บไซต์ IndieWire ว่า Batman Forever เวอร์ชันแรกนั้นมีเรื่องราวของการสำนึกผิดบาปที่ซับซ้อนมาก โดย Bruce Wayne ได้พบจดหมายของพ่อแม่ของเขาที่เขียนว่า “Martha และผม อยากอยู่บ้านในคืนนี้ แต่ Bruce ต้องการไปชมภาพยนตร์” ซึ่งเป็นการตอกย้ำถึงความรู้สึกในใจของ Bruce Wayne และบีบให้เขารู้สึกว่ามีส่วนต้องรับผิดชอบต่อการเสียชีวิตของพ่อแม่

Akiva Goldsman ได้กล่าวว่า ได้มีการถ่ายทำฉากนี้ และได้ทดลองฉาย แต่ผู้ชมไม่ค่อยให้ความสนใจเรื่องราวในจิตใจของตัวละครมากนัก ซึ่งน่าจะเป็นอีกหนึ่งสาเหตุที่ Warner Bros. ตัดสินใจตัดฉากเหล่านี้ออกไป

แต่ถึงกระนั้น ทางโฆษกของ Warner Bros. ได้กล่าววกับ Variety ว่า ยังไม่มีแผนจะปล่อย Batman Forever เวอร์ชัน Extended Cut ออกมาแต่อย่างใด และไม่แน่ใจว่าฟิล์มจะยังอยู่ในสภาพพร้อมให้รับชมหรือไม่

Batman Forever3
Val Kilmer (วาล คิลเมอร์) ในบท Batman หรือ Bruce Wayne

Joel Shumacher ได้เข้ามากุมบังเหียน Batman Forever ต่อจาก Tim Burton (ทิม เบอร์ตัน) ที่ปูทาง Batman (1989) และ Batman Returns (1992) ด้วยโทนมืดหม่นที่ได้แรงบันดาลใจมาจากเทพนิยายสุดดาร์ก จนประสบความสำเร็จมาก่อนแล้ว แต่ทาง Warner Bros. ต้องการให้ Joel Shumacher สร้าง Batman เวอร์ชันที่มีสีสัน และโทนที่เบามากขึ้นเป็นเรื่องแรกในแฟรนไชส์นี้

แม้ว่า Batman Forever เมื่อปี 1995 จะมิใช้ภาคที่ได้รับคำวิจารณ์ดีที่สุดในแฟรนไชส์ Batman แต่ก็ทำรายได้ (ในสหรัฐฯ) สูงสุดในปีนั้นถึง 184 ล้านเหรียญ (เทียบเท่ากับ 400 ล้านเหรียญในปัจจุบัน) ซึ่งทำให้ Joel Shumacher กลับมากำกับ Batman & Robin ในปี 1998 ด้วยความมั่นใจอย่างเต็มที่ แต่กลับประสบความล้มเหลวในแทบจะทุกด้าน

Batman & Robin
Batman & Robin (1998)

ข้อมูลอ้างอิง : indiewire

พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส