[รีวิว] Double World: แอ็กชันแฟนตาซีจีน ที่รู้ตัวอีกทีมีจุกอก

Release Date

25/07/2020

ความยาว

110 นาที

ปีที่ฉายครั้งแรก

2019 (จีน)

[รีวิว] Double World: แอ็กชันแฟนตาซีจีน ที่รู้ตัวอีกทีมีจุกอก
Our score
8.6

Double World

จุดเด่น

  1. แนวแฟนตาซีขายซีจีจีน ที่เนื้อหาก็ไม่ได้อ่อนเบาโหวงอย่างที่คิด แถมมีเรื่องให้ประหลาดใจสาแก่ใจคอหนังที่เบื่อความจำเจอีก

จุดสังเกต

  1. ซับพลอตเยอะแอบน่าเสียดายที่ขยายขยี้บางจุดน้อยไป บางฉากนี่ทรงดึงดราม่ามาโคตรดีเลย แต่ขาดนิด ๆ หน่อย ๆ ตลอด
  • บท

    8.5

  • โพรดักชัน

    8.5

  • นักแสดง

    8.5

  • ความสนุก

    9.0

  • ความคุ้มค่าแก่การรับชม

    8.5

เน็ตฟลิกซ์ ต่อยอดความสำเร็จของหนังจีนผลาญงบซีจีฟอร์มใหญ่อย่าง The Wandering Earth เมื่อปีก่อน โดยนำหนังสเกลใกล้กันจากทีมสร้างซีจีเดียวกันแต่แต่งกลิ่นเป็นหนังจีนกำลังภายในย้อนยุคแฟนตาซีสุดมันในนาม Double World หรือ 征途 มาเสิร์ฟแฟนหนังกันแบบปีชนปี

โดยหนังเรื่องนี้ยังเป็นผลงานกำกับของผู้กำกับรุ่นใหญ่จากฝั่งฮ่องกงอย่าง เท็ดดี้ เฉิน หรือ เฉินเต๋อเซิน ที่เคยมีผลงานคุ้นหูคุ้นตาในบ้านเราอย่าง หนังเฉินหลงเรื่อง วิ่งระเบิดฟัด The Accidental Spy (2001) หรือหนังย้อนยุครวมดาวบู๊ระดับพระกาฬอย่าง 5 พยัคฆ์พิทักษ์ซุนยัดเซ็น Bodyguards and Assassins (2009) เป็นอาทิ และนี่น่าจะเป็นครั้งแรก ๆ ที่เท็ดดี้ เฉินนำความเข้มข้นในการถ่ายทอดเนื้อหาหนัก ๆ บวกการกำกับหนังแอ็กชันฮ่องกงอย่างเชี่ยวกรำ มาผสมกับงานซีจีสไตล์จีนแบบจัดเต็ม กลายเป็นหนังแฟนตาซีสนุก ๆ ความยาว 110 นาทีที่สร้างความประหลาดใจให้เราได้ไม่น้อย

ส่วนที่รู้สึกว่าหนังวางแผนมาได้ดี ก็คือการปูพื้นเรื่องแบบไม่ยากเกินไปชงให้มีการโชว์การต่อสู้ได้ตลอด เหมาะกับแนวหนังแอ็กชันมาก ๆ โดยเรื่องว่าด้วย 2 อาณาจักรที่เหนือ-ใต้ที่ห้ำหั่นกันมาตลอด และแล้วอาณาจักรใต้ก็ต้องการจัดประลองยุทธเพื่อเฟ้นหาแม่ทัพใหญ่มาปกปักบ้านเมือง โดยส่งเทียบเชิญไปยัง 8 สำนักใหญ่ในแผ่นดิน บังคับให้ส่งตัวแทนมาร่วมประลองสำนักละ 3 คน โดยแก๊งพระเอกก็เป็นการรวมตัวเฉพาะกิจของตัวแทนที่ต่างคนก็มีเป้าหมายต่างกัน นิสัยใจคอต่างกัน แต่ต้องมาร่วมทางอย่างจำใจ

ฉากโชว์ก็มีตั้งแต่การฝ่าด่านแปลกตาต่าง ๆ อย่างเดินข้ามแหโซ่ที่ด้านล่างเป็นหลาวหอกแหลมและมีลูกเหล็กยักษ์กลิ้งไปมา ซึ่งผู้สร้างยังสร้างความน่าลุ้นแบบเอาไปพัฒนาตัวละครได้ด้วยโดยการออกกติกาว่าทีม 3 คนต้องถูกร้อยด้วยโซ่เส้นเดียวกันด้วย ครั้นจะมีแต่กับดักเป็นอุปสรรคก็จะไม่มัน ก็ยังมีด่านอื่น ๆ ที่ให้โชว์ซีจีกันเต็ม ๆ อย่างภารกิจล่าไข่จอมราชาอสูรในถ้ำอสูรที่มีทั้งพืชพิษและสัตว์ยักษ์ดุร้ายรออยู่ เป็นต้น หรือแบบที่ง่าย ๆ อย่างการให้ต่อสู้ประลองตัวต่อตัวก็เป็นฉากที่เซ็ตไว้ด้วยบท แบบที่คนดูชอบและเข้าใจง่ายทั้งสิ้น คือนี่ล่ะหนังแอ็กชันมันต้องประมาณนี้

แต่อย่านึกว่าหนังไม่มีอะไรนะ เราจะรู้สึกประหลาด ๆ ว่าหนังมันมีของกันตั้งแต่ช่วงต้น ๆ เรื่องเลย ที่เปิดแก๊งพระเอกออกจากหมู่บ้านมา 3 คน แล้วก็เกิดเหตุไม่คาดฝันขึ้นแบบที่ยังไม่ทันจำหน้าตัวละครบางตัวได้ด้วยซ้ำ (เอาแล้ว ๆ ๆ) ต่อมาก็ยังมีฉากดูทาสหญิงถูกบังคับให้ฆ่ากันเองกลางตลาด (แอบดาร์ก) แล้วพอมีการคัดเลือกด่านแรกเราก็เตรียมประทับใจจ๊อดกับวิธีการช่วยเพื่อนที่ขาติดระหว่างแหโซ่ได้แบบต้องอุทานในใจ (ไม่ค่อยใสแล้วโว้ยเรื่องนี้) แต่ที่ว่ามามันก็แค่หยิบยื่นบรรยากาศนิด ๆ หน่อย ๆ เพราะของจริงช่วงหลังของเรื่องนี้ ทำเอาอยากเข้าไปกระชากคอเสื้อทีมสร้างแล้วดูหน้าชัด ๆ ว่าใจคอพวกพี่ทำด้วยอะไรห๊า !!

น้องหนูหลินเฉินหาน อายุ 15 ปี แต่ฉายแววโดดเด้งมาแต่ไกล แถมเธอยังเป็นส่วนสำคัญในหนังเรื่องนี้มาก ๆ ด้วย

เหล่านี้เป็นความประหลาดใจที่ว่าหลัก ๆ ก็มาจากการมาเหนือแนวปกติสามัญของหนังซีจีจีน ที่ส่วนใหญ่มาแบบว่าใส ๆ เนื้อหาดูเพลินดูง่ายมีข้อคิดแต่ก็ไม่นิยมความหนักแบบหนังผู้ใหญ่ แต่มาเรื่องนี้ถึงเปลือกนอกจะดูเป็นหนังแฟนตาซีบู๊ ๆ มัน ๆ ที่เซ็ตภูมิเรื่องได้ง่ายน่าสนใจ แต่เนื้อลึก ๆ ฉากบางฉากคือ เกินเบอร์หนังแฟนตาซีจีนไปมาก ถ้าจะแนะนำให้ดูก็ด้วยความไม่จำเจของสไตล์หนังนี่ล่ะ

ข้อเสียของหนังก็มาแนวเดิมเลยคือซีจีบางฉากก็หลอกลอยไปนิด ถึงภาพรวมกว่า 80% จะดูดีมาก ๆ ก็ตาม แต่ไอ้ฉากที่หลุด ๆ มันดันเป็นฉากสำคัญด้วยเลยมีผลต่อความสมจริงสมจังของเนื้อหาไปเลย แต่ก็ทำใจไว้แล้วเลยไม่ค่อยมีผลอะไร การออกแบบฉากและตัวละครก็ยังไม่ได้ถือว่าโดดเด่นเป็นเอกลักษณ์นัก ยังมีมุมที่คล้ายเรื่องนั้นเรื่องนี้ แต่ก็ทำได้พอดีกับตัวเรื่อง และจุดที่รู้สึกจะดีมากถ้าทำได้คือการขยายเรื่องออกอีกสัก 30 นาที แล้วเติมขยี้จุดต่าง ๆ ที่วางปมดราม่าไว้ดีแล้วให้แน่นขึ้นไปอีก จะยอดเยี่ยมมาก ๆ เพราะตอนเราดูแบบชอบใจเลยล่ะกับการดีไซน์ฉากดราม่าที่มาน้อยแต่มาหนัก แถมไม่ได้ต่อยลม ๆ ด้วยแต่เอาเข้าเป้าแบบมีเนื้อมีหนังทั้งสิ้น ซึ่งก็แอบเสียดายล่ะว่ามีหลายประเด็นน่าจะขยี้ให้แน่น ๆ กว่านี้หน่อย

สรุป ดูดีดูเพลิน นักแสดงหน้าตาสวยหล่อ มีจุดทิ้งให้คิดได้หนัก ๆ หลายครั้ง แต่ก็ต้องทำใจนิดเรื่องการเดินเรื่องไวแบบไม่รอขยี้เพราะมีซับพลอตต้องเล่าเยอะเหมือนกัน และที่สำคัญคอหนังที่ชอบโดนผู้สร้างทำร้ายจิตใจก็น่าจะได้ทรมานบันเทิงไปพอแก้กระษัยเลยล่ะ ถึงจะไม่ได้หนักหนามากก็ตาม

พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส