ทิ้งห่างจากอัลบั้มแรก ‘nerd eye view’ ไปร่วม 3 ปี แต่ละหว่างทางก็ปล่อยเพลงออกมาเป็นซิงเกิลตลอด ทำให้เสียงเพลงเพราะ ๆ ในห้วงอารมณ์รักอันเศร้าซึ้งของพอปดูโอ ข้าว ปณิธิ เลิศอุดมธนา (ร้องนำ) และ ที พิษณุ หทัยพัธลักษณ์ (กีตาร์) ในนาม “Fellow Fellow” ไม่เคยหายไปจากเพลย์ลิสต์ของเรา จนกระทั่งได้เพลงออกมาจนพอที่จะออกอัลบั้มแล้ว ‘Good But Not Enough’ จึงได้ถือกำเนิดออกมาในรูปแบบของ Digital Album ในปีนี้

‘Good But Not Enough’ มาพร้อม 8 บทเพลงที่รวบรวมเอาซิงเกิลที่เคยปล่อยออกมาก่อนหน้านี้ บวกกับหนึ่งซิงเกิลใหม่ล่าสุดที่ปล่อย MV ออกมาในวันเดียวกับที่ปล่อยอัลบั้ม นั่นคือเพลง ‘ที่สุด’ ที่ได้ Kob Flat Boy มาฟีเจอริงด้วย พอฟังทั้งหมด 8 เพลงโดยรวมแล้วต้องเรียกได้ว่างานเพลงชุดนี้ให้ความรู้สึกที่อิ่มเอมอบอุ่น ละมุน เศร้า เป็นงานเพลงที่ฟังเพลินมาก ๆ มีพัฒนาการจากอัลบั้ม ‘nerd eye view’ ด้วยการเปลี่ยนผ่านจากความเป็นอะคูสติกมาสู่พรมแดนของซาวด์อิเล็กทรอนิกส์ เติมสีสันอันสดใหม่และทดลองทำอะไรที่แตกต่างออกไปรวมไปถึงการร่วมงานกับ แทน Lipta ในฐานะโปรดิวเซอร์ที่เป็นส่วนผสมใหม่ที่สำคัญที่ช่วยเติมเต็มสีสันและความสมบูรณ์ให้กับงานเพลงของวง อีกทั้งยังมีศิลปินคุณภาพทั้งเบื้องหน้าและเบื้องหลังอีกมากมายไม่ว่าจะเป็น Chilling Sunday , Kob Flat Boy ,โอ้ เสกสรร, ปกป้อง จิตดี,  Lukell และ Machina เป็นต้น จนออกมาเป็นงานเพลงพอปร่วมสมัยในสไตล์มินิมอลที่มีส่วนผสมของงานดนตรีอันหลากหลาย (ที่ลงตัว) ไม่ว่าจะเป็น พอป ซินธ์พอป อาร์แอนด์บี นีโอ-โซล หรือว่า นู-ดิสโก้

ในส่วนของเนื้อหาของเพลงก็คงไว้ซึ่งลายเซ็นของ Fellow Fellow ที่มีความเรียบง่าย คมคาย และใส่ความเนิร์ดเหมือนในอัลบั้ม ‘nerd eye view’ ซึ่งเป็นความเนิร์ดในความรัก ที่จะมีแง่มุมของการพูดคุยกับตัวเอง การน้อยใจ ปลอบใจ และพยายามเรียนรู้ในความรู้สึกของตัวเอง ภาพรวมของเพลงในอัลบั้มเหมือนเป็นเรื่องราวแห่งอารมณ์รักที่ทั้งหวาน ขม อม เศร้า และซึ้งของผู้ชายคนหนึ่งที่เป็น “คนดี” แต่ยัง “ดีไม่พอ” ในสายตาของใครคนนั้นก็เลยยังไม่สมหวังในความรักสักที

แพ้ทุกที (Looper)

แทร็กแรกและซิงเกิลแรกของอัลบั้ม ที่ทำให้เราได้สัมผัสทิศทางใหม่ (ที่คงไว้ซึ่งเอกลักษณ์) ของ Fellow Fellow ที่มีความความร่วมสมัยและเป็นมินิมอลซินธ์พอปมากยิ่งขึ้น แต่ยังคงมีวิธีการร้องแบบ R&B และสไตล์ดนตรีแบบ neo-soul และเป็นครั้งแรกที่ ‘ที’ ซึ่งปกติจะเล่นกีตาร์เป็นหลัก ได้มาทำหน้าที่ร่วมร้องในท่อนฮุคร่วมกันกับข้าว และพบว่าเสียงของทีก็ไพเราะไม่แพ้กัน แถมเสียงร้องของสองคนนี้ยังผสมผสานเข้ากันได้อย่างดีอีกด้วย นอกจากนี้ยังมีสีสันจากเติมการร้องกึ่งแร็ป การ adlib รวมไปถึงในช่วงท้ายที่มีการร้องท่อนคอรัสแบบวน ๆ ที่ล้อกันไปกับชื่อและความหมายของเพลงที่พูดถึงการเป็น ‘ผู้แพ้’ ในเกมของความรักที่ยอมเป็นฝ่ายวนลูปในวังวนความสัมพันธ์ที่ไม่มีทางกลายมาเป็นผู้ชนะได้อีกต่อไป

Followers

บทเพลงอารมณ์สดใส ถ่ายทอดห้วงอารมณ์แห่งความสุขและรอยยิ้มที่เรามีจากการที่ได้ติดตามเฝ้ามองใครสักคนผ่านหน้าจอโทรศัพท์ แรงบันดาลใจจากการใช้เทคโนโลยีในชีวิตประจำวันของเรา ที่โทรศัพท์ไม่ได้มีไว้โทรอย่างเดียวอีกต่อไป แต่อาจมีไว้สำหรับแอบส่องใครสักคนที่เราชอบ นอกจากจะมีท่วงทำนองอันสดใสและเนื้อหาที่ร่วมสมัย ในภาคดนตรีเพลงนี้ยังใส่ความเป็นดนตรี Nu-Disco ที่สนุกสนานไว้ในโครงสร้างเพลงที่เรียบง่ายกับการดีไซน์เมโลดี้ที่ติดหูคนฟัง และการใช้คอร์ดวนที่จำง่าย วนไปในจังหวะที่สนุกสนานผ่านการเรียบเรียงดนตรีระดับเฉียบจาก ปกป้อง จิตดี แห่งวง Plastic Plastic อีกทั้งยังมีการร้องแบบไลน์คู่แปดครั้งแรกของ ‘ข้าว’ และ ‘ที’ ในท่อนฮุค ด้วยการร้องเมโลดี้เหมือนกันแต่ร้องคนละเรนจ์ คนนึงร้องต่ำ อีกคนร้องสูง แต่เสียงขนานกันไปซึ่งเป็นวิธีที่มักได้ยินในผลงานของศิลปินต่างประเทศ

ไม่สนิทอย่าทัก (feat. Chilling Sunday)

“ไม่สนิทอย่าทัก” บทเพลงที่นำเสนอสถานการณ์ที่เราได้พบเจอคน ๆ หนึ่งที่เราคิดว่าสามารถลืมไปได้แล้ว แต่เพียงแค่เขาทักมา อาจจะทำให้ความทรงจำทุกอย่างหวนกลับมาเหมือนเดิม เติมเสน่ห์ด้วยการร้องในสไตล์ R&B และ การร้องกึ่งแรปในท่อน verse อีกทั้งยังเติมเต็มความสมบูรณ์ของบทเพลงด้วยเสียงเพราะ ๆ ของ ปาล์ม Chilling Sunday ทำให้เป็นเพลงเศร้าที่ฟังแล้วเพลินเลยทีเดียว

เริ่มกลัว

“เริ่มกลัว” บทเพลงรักเศร้าที่เล่าถึงสถานการณ์ความรักที่ยังคงมีอยู่ แต่หลาย ๆ สิ่งที่เปลี่ยนไปทำให้เราเริ่มกลัวว่า พรุ่งนี้ความรักของเราอาจจะจบลงจริง ๆ ความมินิมอลของภาคดนตรีช่วยขับเน้นให้อารมณ์เศร้าที่มีถูกถ่ายทอดออกมาผ่านเสียงร้องได้อย่างเต็มที่ เพลงนี้มี ตุ๊กตา จมาพร แสงทอง มาร้องคอรัสด้วย

เมษา (feat. Blacksheep)

“เมษา” บทเพลงที่ได้แรงบันดาลใจมาจากประสบการณ์ความรักของ “ข้าว” ที่ถ่ายทอดมาเป็นเพลงช้าแนวซินธ์พอปได้อย่างลงตัว เพลงนี้เป็นซิงเกิลแรกของ Fellow Fellow ที่มีการใส่ท่อนแรปเข้าไปในเพลงโดยได้ “Blacksheep” แรปเปอร์รุ่นใหม่ที่มีฝีมือไม่ธรรมดามาช่วยถ่ายทอดอารมณ์เข้มข้นเติมเต็มความสมบูรณ์ของบทเพลงผ่านการแรป ผสานไปกับภาคดนตรีที่เรียบเรียงได้อย่างลงตัวโดย Machina และเนื้อร้องที่เรียบง่ายแต่แฝงไว้ด้วยความคมคายของภาษา ทำให้เพลง “เมษา” เต็มไปด้วยกลิ่นอายของความรักที่มีความคิดถึงเข้ามาเป็นส่วนผสม เป็นตัวแทนความทรงจำในช่วงเวลาที่หวนกลับมาอีกครั้ง

ที่สุด (feat. Kob Flat Boy)

“ที่สุด” ห้วงอารมณ์แห่งความเหงาของคนที่คิดถึงรักเก่าที่ผ่านพ้นไป ซึ่งยังคงอยู่ในใจของเราอย่างชัดเจน ยังคงคิดถึงที่สุด อยากเจอที่สุด และรักเธอที่สุด ถ่ายทอดผ่านท่วงทำนองที่เรียบง่ายและได้อารมณ์ เพลงนี้เป็นอีกซิงเกิลที่มีท่อนแรปใส่เข้ามา โดยได้ Kob Flat Boy มาแรปร่ายบรรยายความเป็นที่สุดของเธอคนนั้น “เหมือนวิญญาณหลุดจากร่าง เห็นตัวเดินไปข้างหน้า แต่ใจยังอยู่กับที่ ไม่รู้เป็นผีหรือว่าเป็นบ้า ถ้าฉันเป็นกินเนสบุ๊ก ฉันคงจะเขียนชื่อเธอในลิสต์ ในฐานะที่เธอนั้นเป็นที่สุด ในทุกๆอย่างของชีวิต”

ดีลีต

“คุณเคยพยายามลบใครสักคนออกจากความทรงจำไหม?”

เพลงนี้มันคือ Eternal Sunshine of The Spotless Mind ในร่างของเพลง พูดถึงความพยายามที่จะลบเลือนใครคนนึงออกไปจากใจ แต่สุดท้ายก็พบว่าใครคนนั้นยังคงยืนอยู่ที่เก่า ที่ ๆ เคยมีเรากับเขาและความทรงจำที่งดงาม เพลงนี้ถือว่าเป็นซิงเกิลแรกที่ ที มือกีตาร์มาทำหน้าที่ร้องนำแบบเต็มตัว ทำให้พบว่าเพลงที่ทีร้องก็มีเอกลักษณ์ที่น่าประทับใจไปอีกแบบ

ทำดีแล้ว

บางทีคำว่า “ความพยายามอยู่ที่ไหน ความสำเร็จอยู่ที่นั่น” อาจต้องมีข้อยกเว้นไว้สำหรับเรื่องความรัก ที่ความพยายามไม่ได้เป็นสิ่งการันตีว่าเราจะสมหวังในรักเสมอไป “ทำดีแล้ว”เพลงพอปเศร้าเหงาปลุกเร้าอารมณ์ของคนแอบรักจึงเป็นเสมือนบทเพลงปลอบใจที่ Fellow Fellow มอบให้กับคนที่แม้จะพยายามเท่าไหร่ก็ไม่ได้ใจคนที่รักมาครอง เพลงนี้ถูกถ่ายทอดผ่านเนื้อเพลงในสไตล์ของ Fellow Fellow ใช้คำง่ายแต่ได้อารมณ์  ใครที่กำลังท้อใจกับรักที่แบกเอาไว้ เจอเพลงนี้ไปก็อาจช่วยให้สบายใจเหมือนมีใครสักคนมาอยู่ใกล้ ๆ และบอกเราว่า“เราทำดีที่สุดแล้ว” ในภาคดนตรีเพลงนี้ Fellow Fellow ลงมือเรียบเรียงด้วยตัวเอง โดยกลับไปเน้นงานดนตรีที่มีความเป็นอะคูสติกทำให้อารมณ์และการเรียบเรียงดนตรีให้ความรู้สึกเหมือนเพลงในชุด ‘nerd eye view’ ซึ่งทำออกมาได้ดีมีความลงตัวเป็นบทเพลงเศร้าซึ้งที่อารมณ์ถึงจริง ๆ

‘Good But Not Enough’ เป็นอีกหนึ่งอัลบั้มดี ๆ ที่ฟังเพลินมาก ถึงแม้ว่าจะเคยฟังเพลงเหล่านี้ไปแล้วตอนที่ปล่อยออกมาเป็นซิงเกิลแต่การได้ฟังต่อ ๆ กันไปเป็นอัลบั้ม ที่ร้อยเรียงเรื่องราวและอารมณ์ในจังหวะแบบที่ศิลปินต้องการก็เป็นอะไรที่ให้ความรู้สึกลื่นไหลและเพลินใจไปกับท่วงทำนองของพวกเขาได้อย่างอิ่มเอม

สุดท้ายแล้วชื่ออัลบั้ม ‘Good But Not Enough’ นัยหนึ่งเหมือนเป็นภาพรวมของอัลบั้มที่สะท้อนภาพของชายคนหนึ่งที่เป็น “คนดี” “ทำดีแล้ว” (พยายามที่สุดแล้ว) แต่ว่าก็ยัง “ดีไม่พอ” เพราะฉะนั้นก็เลยยังไม่สมหวังในความรักสักที เรื่องเล่าในอัลบั้มจึงเป็นเรื่องราวของผู้ชายที่ดีแต่ไม่มีความรักที่สมหวังดังตั้งใจ ในอีกนัยหนึ่งคำว่า ‘Good But Not Enough’ ก็เปรียบเหมือนเป็นการที่ Fellow Fellow กำลังจะบอกเราว่างานเพลงชุดนี้ถ้าคุณฟังแล้วบอกว่า “ดีแล้ว” พวกเขาก็คงจะรับไว้แต่ถึงอย่างนั้นก็ยังรู้สึกว่ามันยังดีไม่พอ งานต่อ ๆ ไปพวกเขาจะต้องทำให้มันดียิ่งกว่านี้ไปอีก ซึ่งเราเชื่อว่ามันจะเป็นเช่นนั้น และเราจะรอคอยฟังผลงานใหม่ ๆ จาก Fellow Fellow กันต่อไปครับ

ฟัง Digital Album ‘Good But Not Enough’ จาก Fellow Fellow ได้แล้ววันนี้

Apple Music

Spotify

พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส