อนิเมะของญี่ปุ่นนั้นเป็นอะไรที่สร้างความประทับใจให้กับผู้ชมเสมอ ไม่ว่าจะเป็นลายเส้นอันตื่นตาหรือว่าเนื้อหาอันตื่นใจ อีกทั้งยังมีความหลากหลายตอบสนองความต้องการของผู้ชมทุกเพศทุกวัย ใครอยากดูเรื่องราวแบบไหนก็มีให้ดูหมด อย่างใครชอบดนตรีก็มีอนิเมะมากมายหลายเรื่องที่ทำออกมาได้สนุกและน่าประทับใจมาก ๆ แถมวงดนตรีที่อยู่ในเรื่องยังเจ๋งสุด ๆ จนทำให้เราติดอนิเมะเรื่องนั้นงอมแงมเท่านั้นยังไม่พอยังติดเพลงประกอบอีกด้วย ถ้ามีวงดนตรีแบบในอนิเมะเหล่านี้จริง ๆ เชื่อว่าหลายคนจะต้องขอเป็น fc แน่นอน !
10 วงมีวงอะไรบ้าง!
Houkago Tea Time จาก K-On!
หากถามถึงวงดนตรีหญิงล้วนสุดน่ารักแป๋วแหวว คงไม่มีใครเกิน 5 สาววงดนตรีพอปร้อกหญิงล้วน Houkago Tea Time (HTT) จากอนิเมะเรื่อง ‘เค-อง! ก๊วนดนตรีแป๋วแหวว’ อันเกิดจากเด็กสาว 4 คนจากชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 ของโรงเรียนซากุระงาโอกะ ที่เริ่มก่อตั้งชมรม “keiongaku” (けいおんがく) ซึ่งแปลว่า ‘light music’ หรือดนตรีแบบเบาๆ นั่นเอง ซึ่งชื่อชมรมแบบย่อ ๆ นั้นก็คือ K-ON นั่นเองภายหลังทั้ง 4 สาวได้ตั้งชื่อวงดนตรีขึ้นมาชื่อว่า “Houkago Tea Time” ซึ่งแปลว่า วงดนตรีน้ำชาหลังเลิกเรียน และได้สมาชิกรุ่นน้องคนที่ 5 เข้ามาในภายหลัง
สำหรับสมาชิกทั้ง 5 ของวง HTT นั้นได้แก่ ฮิราซาว่า ยุย สาวน่ารักหัวทึ่ม ขี้ลืม ที่มีความสารถพิเศษทางดนตรีคือ ‘Perfect Pitch’ สามารถจับทุกสุ้มเสียงและรู้หมดว่าเสียงไหนเป็นโน้ตอะไร ยุยรับตำแหน่งลีดกีตาร์และนักร้องนำประจำวง เครื่องดนตรีประจำตัวเธอคือ กีตาร์ Gibson Les Paul Standard สี Cherry Sunburst โดยเธอตั้งชื่อให้ว่า “กีตะ (Giita)” , อากิยามะ มิโอะ สาวมาดเท่แต่ขี้อาย ขี้กลัว เธอเป็นมือเบสและนักแต่งเพลงประจำวง รวมไปถึงร้องประสานในบางเพลง เครื่องดนตรีประจำตัวของเธอคือ Fender Jazz Bass, ไทนากะ ริทสึ สาวห้าวแต่น่ารัก ประธานชมรม K-ON ดุ ๆ แบบนี้ก็ต้องตำแหน่งมือกลองสิ สไตล์ของเธอคือเป็นมือกลอง Overbass ที่ไม่ค่อยตีฉาบแคลชสักเท่าไร เครื่องดนตรีประจำตัวเธอคือ Yamaha Hipgig Drumset, โคโตบุกิ สึมุกิ หรือ มุกิจัง สาวสวยลูกคุณหนูผู้ร่ำรวย แต่หลงใหลในเสียงดนตรี หน้าที่ในวงของเธอคือเล่นคีย์บอร์ด ชงชาและหาขนมให้เพื่อน ๆ เครื่องดนตรีประจำตัวของเธอคือ Korg Triton Extreme 76 Key และ คนสุดท้าย นากาโนะ อาซึสะ น้องเล็กประจำวงเจ้าของฉายา “อาซึเนี้ยว” เนื่องจากว่าเธอนั้นเข้ากับหูแมวเป็นอย่างมาก หน้าที่ประจำวงของเธอก็คือ กีตาร์ริทึ่ม ส่วนเครื่องดนตรีประจำตัวของเธอคือ Fender Mustang สีแดง !
ส่วนแนวเพลงของวง HTT นั้นจะเป็นแนวพอปร็อกเป็นหลัก มีเพลงเด่น คือ ‘Fuwa Fuwa Time’ หรือชื่อไทยว่า ‘ช่วงเวลาที่ฟูนุ่ม’ บทเพลงเนื้อหวานในท่วงทำนองเร้าใจสไตล์ชาวร็อก นอกจากนี้ก็มี ‘Curry Nochi Rice’ , ‘Watashi no koi wa Hocchikisu’ (ความรักของฉันคือที่เย็บกระดาษ) ‘Fude Pen Boru Pen’ ,
Gohan Wa Ozaku’ , ‘Pure Pure Heart’ และอื่นๆอีกมากมาย ว่าแล้วก็ไปฟังสาว ๆ เค้าบรรเลงดนตรีกันได้เลยคร้าบบบ
Detroit Metal City
Detroit Metal City มีต้นกำเนิดเป็นมังงะสายฮาแนวตลกร้ายผลงานการเขียนของ คิมิโนริ วาคะสุงิ ตั้งแต่ปี 2005 ก่อนจะถูกนำมาทำเป็นอนิเมะ และ ภาพยนตร์ในที่สุด (แสดงนำโดย เคนอิจิ มัตสึยามะ) ว่าด้วยเรื่องของ โซอิจิ เนกิชิ เด็กหนุ่มบ้านนอกสุดติ๋ม (ที่มาพร้อมทรงผมกะลาครอบ) ที่จากบ้านเกิดเมืองนอนจากโออิดะมาสู่โตเกียว พร้อมหอบความฝันที่จะเป็นนักร้องเพลงพอปที่แสนโด่งดัง เนกิชิหอบเอาบทเพลงพอปใส ๆ สไตล์คนอารมณ์ติ๋มมาบรรเลงให้คนฟัง แต่เล่นเท่าไหร่ก็ไม่ดังสักที จนสุดท้ายได้จับพลัดจับผลูมาสู่การเป็นนักร้องร็อกในสไตล์สายเดือดอย่าง เดธ เมทัล ในวง Detroit Metal City ภายใต้ภาพลักษณ์ใหม่ที่ถูกสร้างขึ้นกลายเป็น ‘ท่านเคราเซอร์’ โยฮานส์ เคราเซอร์ที่ 2 ผู้มาจากนรกที่โหดโฉดชั่ว กับบทเพลงห่าม หยาบ ดิบ อันเป็นภัยอันตรายต่อลูกเด็กเล็กแดงสุด ๆ กลับดังสุดขั้วจนฉุดไม่อยู่ ทั้ง ๆ ที่ตัวตนที่แท้จริงภายใต้ตัวตนอันแสนโฉดนั้นกลับยังเป็นหนุ่มติ๋มคนเดิมอยู่ นี่แหละความฮาบ้าระห่ำจึงได้เกิดขึ้น
สมาชิกวง Detroit Metal City มีด้วยกันทั้งหมดสามคน คือ ท่านเคราเซอร์ (กีตาร์ร้องนำ) บุรุษสุดระห่ำจากนรก ,มาซายุกิ วาดะ หรือ อเล็กซานเดอร์ ยาหงิ มือเบสประจำวงผู้มีใจรักในสไตล์วิชวล เคย์ และ เทรุมิจิ นิชิดะ หรือ กามู มือกลองหัวตั้ง นอกจากนี้ยังมี เคสุเกะ นิชิโมโตะ หรือ ตาลุงมาโซคิสม์ หรือ ไอ้หมูสกปรก ที่ต้องรับบทเป็นคนที่ถูกท่านเคราเซอร์กระทำย่ำยีบนเวทีเวลาแสดงสด
เพลงในเรื่องก็ถือได้ว่าทำออกมาเข้าท่าเลยทีเดียว ทางฝั่งเพลงของหนุ่มติ๋มเนกิชิก็จะเป็นเพลงพอปใส ๆ ออกไปทางแนวสวีดิชพอปอะไรแบบนั้น ส่วนบทเพลงของวง Detroit Metal City หรือ DMC ก็แน่นอนว่าจะต้องร็อกระห่ำแบบเดธ เมทัล สุดเดือด ดิบ ดุ อันมีเนื้อเพลงแสนโฉดที่ฟังดูแล้วโคตรจะฮา อยากรู้ว่าเถื่อนแค่ไหนไปลองฟังกันเลยครับ
Black Stones และ Trapnest – Nana
‘Nana’ อีกหนึ่งอนิเมะดนตรียอดนิยมผลงานการสร้างสรรค์ของ ไอ ยาซาวะ ที่เคยถูกนำไปทำเป็นภาพยนตร์ด้วยเช่นกัน กับเรื่องราวดราม่าเข้มข้นของสองสาวที่มีชื่อว่า ‘นานะ’ เหมือนกัน หนึ่งคือ ‘โคมัตสึ นานะ’ หรือ ฮาจิ สาวน่ารักสายหวาน ผู้ถูกเลี้ยงดูแบบไข่ในหิน ที่เดินทางมาโตเกี่ยวเพื่อตามหาความฝัน อีกหนึ่งคือ ‘โอซากิ นานะ’ สาวพังก์ร็อกสุดเท่ นักร้องนำประจำวง ‘Black Stones’ ทั้งคู่ได้โคจรมาพบกันบนเส้นทางแห่งความฝันและเสียงดนตรี
จุดเด่นของอนิเมะเรื่องนี้นอกจากเรื่องราวความรักและดราม่าเข้มข้นชวนติดตามแล้ว ยังมีบทเพลงอันไพเราะที่เกิดจากการบรรเลงจากวงดนตรีสุดเท่สองวงนั่นคือ ‘Black Stones’ และ ‘Trapnest’ ซึ่งมีสายสัมพันธ์กันทั้งในฐานะวงคู่แข่งและคู่รัก (เพราะสมาชิกของทั้งสองวงต่างจับคู่กันให้วุ่นไปหมด) ทั้งสองวงต่างมีสมาชิกด้วยกัน 4 คนเหมือนกัน ทางฝั่งวง Black Stones วงพังก์ร็อกจุดเจ๋งจะมี ‘โอซากิ นานะ’ นักร้องนำของวงผู้มีดีไซเนอร์ วิเวียน เวสต์วูด ดีไซเนอร์พังก์ตัวแม่แห่งวงการแฟชั่น และ วงพังก์ระดับตำนานอย่าง Sex Pistols เป็นแรงบันดาลใจ , โอคาซากิ ชินอิจิ หรือ ชิน มือเบสหนุ่มผู้มาจากครอบครัวที่เหลวแหลกและเชี่ยวชาญการเล่นไพ่นกกระจอก, เทราชิม่า โนบุโอะ หรือ โนบุ มือกีตาร์ประจำวงผู้เป็นคนรักเพื่อน เวลาเมาชอบหลุดเปิดเผยความลับเป็นประจำ และเป็นคนนึงที่แอบหลังรก นานะหวานอยู่, ทาคางิ ยาสึชิ หรือ ยาสึ มือกลองขาใหญ่ประจำวงผู้ที่นานะนับถือเป็นพี่ชาย นอกจากนี้ยังมี ฮอนโจ เร็น หรือ เร็น หวานใจของสาวนานะพังก์อดีตมือเบสของ Black Stones ที่ย้ายมาเป็นมือกีตาร์ของวงคู่แข่งนั่นก็คือ Trapnest
ส่วนทางด้าน Trapnest นั้นมี เซริซาว่า เรร่า สาวลูกครึ่งอเมริกัน นักร้องนำและนักแต่งเพลงประจำวง Trapnest ผู้แอบมีความรักกับ ชิน มือเบสจากวง Black Stones, อิจิโนเสะ ทาคุมิ มือเบสเพลย์บอยหน้าหยกหัวหน้าวง Trapnest เขาเป็นอีกคนที่ติดพันกับนานะหวาน, ฟูจิเอดะ นาโอกิ มือกลองจอมเสียงดังประจำวง และเป็นเพื่อนของยาสึแห่ง Black Stones และ ฮอนโจ เร็น หรือ เร็น มือกีตาร์หวานใจนานะพังก์ที่ย้ายมาจากตำแหน่งมือเบสของวง Black Stones นั่นเอง
มาฟังบทเพลงร็อกอารมณ์เข้มจาก Black Stones และ Trapnest กัน เพลงแรกคือ ‘rose’ เป็นบทเพลงของ Black Stones และเพลงเปิดอนิเมะ ขับร้องโดย แอนนา ซึชิยะ ส่วนอีกเพลงคือ ‘a little pain’ เป็นเพลงของ Trapnest และเพลงปิดอนิเมะขับร้องโดย โอลิเวีย รัฟกิน นักร้องลูกครึ่งอเมริกันญีปุ่น
แถมให้อีกเพลงเป็นเพลงเด่นจากเวอร์ชันภาพยนตร์ก็คือเพลง ‘Glamorous Sky’ ที่แต่งโดย ป๋า hyde แห่งวง L’Arc~en~Ciel และขับร้องโดย ‘มิกะ นากาชิมะ’ ที่มารับบทเป็นสาวนานะพังก์นั่นเอง
Beck : Mongolian Chop Squad
Beck คือชื่อของวงร็อกจาก ‘Beck ปุปะจังหวะฮา’ มังงะ อนิเมะ เรื่องเยี่ยมผลงานของ ฮาโรลด์ ซาคุอิชิ (ที่ถูกนำไปทำเป็นภาพยนตร์เรียบร้อยแล้วในปี 2010) ที่ได้สร้างแรงบันดาลใจให้ใครหลายคนรู้สึกอยากมีวงดนตรีเป็นของตัวเองบ้าง เรื่องราวใน Beck เล่าถึงวัยรุ่นกลุ่มหนึ่งที่จับพลัดจับผลูมารวมตัวกันเพื่อตั้งวงดนตรีแนวร็อกที่ได้รับอิทธิพลจากเพลงร็อกทางฝั่งตะวันตกโดยใช้ชื่อว่า ‘Beck’ อันมีที่มาจากเจ้าหมาหน้าตาประหลาดที่ริวสึเกะมือกีตาร์ได้เลี้ยงไว้
Beck มีสมาชิกด้วยกันทั้งหมด 5 คน และมีอีกหนึ่งสาวคอยเป็นกำลังใจ สมาชิกในวงประกอบไปด้วย โคยูกิ ( กีตาร์/ร้องนำ) เด็กหนุ่มวัย 14 ปีผู้หน่ายชีวิตอันเรียบง่าย จนได้มาพบกับริวสุเกะที่นำพาเขาได้ได้พบกับสีสันของโลกแห่งเสียงดนตรี , ริวสุเกะ (กีตาร์) ผู้ก่อนตั้งและหัวหน้าวง เด็กนอกผู้มีความบ้าเปี่ยมไปด้วยอุดมการณ์และพลังทางดนตรีอันเข้มข้น , จิบะ (ร้องนำ) แรปเปอร์หัวฟู เฮฮา บ้าพลัง , ไทระ (เบส) มือเบสหัวทองหน้าหยก และ ซากุุ (กลอง) มือกลองยิ้มง่ายใจดีประจำวง ส่วนสาวน้อยที่เป็นกำลังใจให้กับวงและเป็นแรงบันดาลใจสำคัญของโคยูกิก็คือ มาโฮะ มินามิ น้องสาวของริวสุกะนั่นเอง
ส่วนแนวดนตรีของวง Beck นั้นจะออกไปทางร็อกตะวันตก หากใครชอบแนวนี้รับรองถูกใจแน่นอน เพราะว่าผู้เขียนนั้นตั้งใจดีไซน์ตัวละครให้มีกลิ่นอายจากทางนั้น โดยใช้แรงบันดาลใจจากศิลปินจริง ๆ อย่างเช่น โคยูกิ พระเอกของเราก็ได้รับแรงบันดาลใจมาจาก Tom Morello จากวง Rage Against the Machine ในเวลาเล่นกีตาร์ ส่วนท่าการยืนร้องเพลงเอามือไขว้หลังก็จะชวนให้นึกถึง Liam Gallagher แห่งวง Oasis ส่วน จิบะ แรปเปอร์หัวฟูก็ได้แรงบันดาลใจมาจาก Zack de la Rocha แห่งวง Rage Against the Machine เหมือนกัน และ ริวสุเกะมือกีตาร์หัวหน้าวงก็ได้รับอิทธิพลจาก Jimmy Page แห่งวง Led Zeppelin เป็นต้น ส่วนเสียงร้องเสียงบรรเลงดนตรีที่เราได้ยินกันในอนิเมะของเรื่อง Beck นั้น ผู้ให้กำเนิดเสียงเหล่านั้นก็คือวง ‘Beat Crusaders (BECR)’ วงดนตรีอินดี้ร็อกจากญี่ปุ่นที่งานดนตรีมีส่วนผสมของความเป็นร็อก พอป และพังก์ ซึ่งงานเพลงของพวกเขาได้ถูกนำเอาไปใช้ประกอบอนิเมะมากมาย อย่างเช่น Hit in the DMC ที่ใช้ประกอบ Detroit Metal City : Tribute To Krauser II เป็นต้น
หากอยากรู้ว่าโคยูกิยืนร้องเพลงเอามือไขว้หลังนั้นจะเท่และเหมือนกับป๋าเลียมแค่ไหนไปดูคลิปเพลง ‘Moon on the Water’ กันครับ (ไม่ใช่แค่ท่าเหมือนนะตัวเพลงก็ชวนให้คิดถึงงานเพลงของ Oasis เหมือนกัน)
Lucifer – Kaikan Phrase (Sensual Phrase)
Kaikan Phrase หรือ Sensual Phrase จังหวะร็อกดนตรีรัก เป็นอนิเมะแนวร็อกจากปลายยุค 90s จากมังงะของ มายุ ชินโจ ที่น่าจะถูกใจสาว ๆ ด้วยเรื่องราวความโรแมนติกระหว่าง ไอเนะ ยูกิมุระ สาวน้อย ม. ปลาย และนักร้องหนุ่มสุดฮอต ซาคุยะ โอโคอุชิ ที่เธอต้องรับหน้าที่แต่งเพลงให้กับวงร็อกนาม ‘Lucifer’ ของเขา นอกจากบทเพลงในสไตล์เจร็อกที่น่าประทับใจแล้วยังมีเรื่องราวกุ๊กกิ๊กมาให้ได้จิกหมอนกันด้วย
แถมอนิเมะเรื่องนี้ยังเป็นต้นกำเนิดของวงเจร็อกชื่อดังของญี่ปุ่นนั่นก็คือวง ‘ลูซิเฟอร์ (Λucifer)’ (ที่ร้องนำโดย มาโคโตะ ขวัญใจสาวน้อยสาวใหญ่ในยุคนั้น)] ลูซิเฟอร์เริ่มตั้งวงขึ้นเพื่อโปรโมตอนิเมะเรื่องนี้สมาชิกของวงจึงใช้ชื่อเดียวกันกับในการ์ตูน ยกเว้นแต่ มาโคโตะ นักร้องนำที่ไม่ได้เปลี่ยนชื่อเป็น ซาคุยะ โดยมี ซิงเกิลแรกชื่อ “Datenshi BLUE” ซึ่งเป็นเพลงเปิดตัวตอนที่สองของอนิเมะเรื่องนี้ ลูซิเฟอร์เล่นเพลงอีกหลายเพลงซึ่งมีเนื้อเพลงปรากฏอยู่ใน Sensual Phrase ตัวอย่างหนึ่งก็คือเพลง “Plasmagic” ซึ่งทั้งวงดนตรีในมังงะ อนิเมะ และวงลูซิเฟอร์ตัวจริงต่างก็เล่นเพลงนี้เช่นกัน ภายหลังเมื่อสมาชิกเริ่มแต่งเพลงกันเองได้แล้ว ลูซิเฟอร์จึงได้แต่งเพลงประกอบให้กับ Sensual Phrase มาโดยตลอด และถึงแม้อนิเมะจะจบลงไปแล้วแต่ทางวงก็ยังคงตัดสินใจเล่นดนตรีด้วยกันต่อ
เพลง ‘Midnight Crow’ เพลงนี้อยู่ในอัลบั้มชุดแรกของวงที่มีชื่อว่า ‘Limit Control’ และแน่นอนว่าเจ้าของเสียงร้องและท่วงทำนองอันเร้าใจจากในอนิเมะจะเป็นใครไปไม่ได้นอกจากวงลูซิเฟอร์นั่นเอง
Bakumatsu Rock
Bakumatsu Rock นั้นแรกเริ่มเดิมทีถือกำเนิดมาเป็นวิดีโอเกมก่อน แล้วจึงถูกนำมาพัฒนาเป็นมังงะและอนิเมะในที่สุด เรื่องราวของ Bakumatsu Rock นั้นย้อนกลับไปในยุคบาคุมัตสึในกลางศตวรรษที่ 19 อันเป็นช่วงที่ประเทศญี่ปุ่นกำลังจะสิ้นสุดการปกครองด้วยระบอบโชกุน โชกุน โทคุงาวะ ผู้ปกครองสูงสุด ณ ขณะนั้น ได้ทำปฏิบัติการล้างสมองผู้คนด้วยดนตรีด้วยการสร้าง ‘บทเพลงสวรรค์’ ขึ้นมาใช้ปกครองผู้คน และให้ท็อปไอดอลกลุ่ม ‘ชินเซ็นกุมิ’ เป็นผู้ขับร้องและตั้งกฎให้การแต่งเพลงหรือร้องเพลงใด ๆ นอกเหนือจากบทเพลงสวรรค์เป็นเรื่องต้องห้าม ! ด้วยเหตุนี้ ‘ซากาโมโตะ เรียวมะ’ เด็กหนุ่มผู้รักเพลงร็อกเป็นชีวิตจิตใจและบรรดาผองเพื่อนชาวร็อกของเขาจึงได้ใช้ดนตรีร็อกที่ชื่นชอบก่อกรกับความอยุติธรรมที่เกิดขึ้นและลุกขึ้นมาต่อสู้เพื่อทวงคืนอิสรภาพและความยุติธรรมกลับคืนมา
Bakumatsu Rock เป็นอนิเมะแอ็กชันที่นำเอาแรงบันดาลใจจากเรื่องราวทางประวัติศาสตร์มาผสมผสานกับความเข้มข้นของดนตรีร็อกที่ผสานเข้ากับความเป็นญี่ปุ่นจนออกมาเป็นเรื่องราวของกลุ่มคนดนตรีที่บรรเลงบทเพลงในแบบฉบับของเจร็อกอันเป็นเอกลักษณ์ ตัวละครก็ถูกดีไซน์ออกมาได้เท่ ๆ ตามสไตล์ของหนุ่มเจร็อก วงนี้เค้ามีแต่หนุ่มหล่อ ๆ แถมเล่นไปเล่นมายังมีเสื้อขาดโชว์ซิกส์แพ็กไปอีก (ฮา) แน่นอนว่าหนุ่ม ๆ Bakumatsu Rock นี่น่าจะเป็นขวัญใจของคออนิเมะสาว ๆ เป็นแน่แท้
Walküre– Macross Delta
Macross เป็นแฟรนไชส์อนิเมะสุดเข้มข้นที่เล่าเรื่องราวการต่อสู่ระหว่างดวงดาว ที่ไม่ว่าจะออกมากี่ภาคก็ มักจะมีเรื่องของเสียงดนตรีเข้ามาเกี่ยวข้องอยู่เสมอ อย่างภาคที่มีชื่อว่า Macross Δ หรือ Macross Delta ก็เช่นกัน แถมตัวละครจากในเกมยังกลายเป็นวงที่มีชื่อเสียงออกผลงานมาและได้รับการตอบรับที่ดีอย่างล้นหลามอีกต่างหาก
เรื่องราวของ Macross Delta เกิดขึ้นในปี 2067 ซึ่งเกิดเหตุระบาดที่มีชื่อว่า Vár Syndrome ที่ทำให้ผู้คนในเมืองกลายเป็นบ้าอย่างไร้สาเหตุ กลุ่มไอดอลสาว Walküre จึงรวมตัวกันเพื่อใช้บทเพลงของพวกเธอต่อสู้กับความชั่วร้ายของโรค Vár เพื่อนำความสุขสงบกลับคืนมาให้จงได้ !
ไม่เพียงแต่ตัวอนิเมะจะได้รับความนิยมแล้ว ผลงานเพลงของวงไอดอลสาว Walküre ก็ยังรับความนิยมอย่างล้มหลานอีกด้วย อย่างอัลบั้ม Walküre Attack! ซึ่งเป็นอัลบั้มเปิดตัวของวงไอดอล Walküre จากอนิเมะเรื่องนี้ ก็ทำยอดขายทะลุ 100,000 ชุด แถมยังได้รับรางวัลแผ่นเสียงทองคำจาก Recording Industry Association แห่งประเทศญี่ปุ่นด้วย
วง Walküre มีสมาชิกทั้งหมด 5 คน มีเด็กสาววัย 15 ปี (ณ ตอนนั้น ตอนนี้อายุ 19 ปีแล้ว) ชื่อว่า Junna (ยุนนะ ซาคาอิ) ทำหน้าที่ร้องเพลงให้กับตัวละคร Mikumo Guynemer ซึ่งเป็นนักร้องนำของวง (แต่คนพากย์เสียงจะเป็นคนละคนกับคนร้อง พากย์โดย เอมิ โคชิมิสึ) ซึ่ง Junna ถือว่าเป็นนักร้องนำของซีรีส์ Macross ที่อายุน้อยที่สุดเท่าที่เคยมีมา ส่วนนักร้องคนอื่น ๆ ในวง Walküre ผู้ให้เสียงพากย์ตัวละครก็จะเป็นคนร้องด้วยเช่นกัน ได้แก่ Freyja Wion (พากย์โดยมิโนริ ซุสุกิ), Kaname Buccaneer (พากย์โดย คิโยโนะ ยาสุโนะ), Makina Nakajima (พากย์โดย โนโซมิ นิชิดะ) และ Reina Prowler (พากย์โดย นะโอะ โทยามะ)
อนิเมะเรื่องนี้นอกจากจะต่อสู้กันดุเด็ดเผ็ดมันแล้วเพลงจากไอดอลสาว ๆ ก็ยังเพราะมากอีกด้วย
Girls Dead Monster – Angel Beats!
Angel Beats! แผนพิชิตนางฟ้า เป็นอนิเมะที่สร้างขึ้นจากนิยายของ จุน มาเอดะ ในชื่อ “Angel Beats! Track Zero” ว่าด้วยเรื่องของการต่อสู้ในโลกหลังความตายของกลุ่มนักเรียน ม.ปลาย ที่ขนานนามตัวเองว่ากลุ่ม “แนวรบโลกหลังความตาย SSS” ที่ท้าทายต่อกฏเกณฑ์ทั้งหลายที่ตั้งขึ้นโดยพวกประธานนักเรียนหรือเหล่า ‘นางฟ้า’ ซึ่งหากไม่ยอมปฏิบัติตามกฎของพวกเธอแล้วล่ะก็ พวกเขาจะต้อง ‘หายไป’ โดยไม่ได้กลับมาอีกเลย
นอกจากเรื่องราวแอ็กชันเข้มข้นผสมความดรามาแล้ว ยังมีเรื่องของดนตรีเข้ามาแทรกเสริมเติมความสนุกอีกด้วย โดยในเรื่องจะมีวงดนตรีที่มีชื่อว่า “Girls Dead Monster” วงร็อกหญิงล้วนสุดเท่ที่ทำให้อนิเมะเรื่องนี้มีสีสันสุด ๆ คอนเสิร์ตของวงนี้นี่ถือว่าเป็นไฮไลต์ของอนิเมะเลยล่ะ
Hibike! Euphonium
Hibike! Euphonium หรือ Sound! Euphonium อนิเมะเรื่องเยี่ยมที่ดัดแปลงจากนวนิยายของ ทาเคดะ อายาโนะ ว่าด้วยเรื่องราวของหนุ่มสาวในรั้วโรงเรียน ที่ได้สร้างจุดนัดฝันด้วยเสียงดนตรีที่ประสานร่วมกัน เพื่อทะยานก้าวไปสู่อนาคต โดยอนิเมะซีรีส์ที่ออกฉายนั้นได้ Kyoto Animation เป็นผู้สร้าง (K-On ! ก็สร้างโดยสตูดิโอนี้เช่นกัน)
วงดนตรีในเรื่องนี้จะเป็นสไตล์วงโยธวาทิต ตัวเอกของเรื่องคือ คุมิโกะ โอมาเอะ สาวน้อยน่ารักผู้มีความถนัดในการเล่นเครื่องเป่าทองเหลืองเสียงต่ำที่มีชื่อว่า ‘ยูโฟเนียม’ (Euphonium) (อันเป็นที่มาของชื่อเรื่องนั่นเอง) นอกจากนี้ก็ยังมีสาว ๆ ผู้มีใจรักในเสียงดนตรีที่มาร่วมทีมอีกมากมาย อาทิ โคซากะ เรย์นะ สาวสวยผมยาวดำขลับ ผู้มีความมุ่งมั่นที่ก้าวไปในระดับประเทศ มีความถนัดในการเล่น ‘ทรัมเป็ต’, คาโต้ ฮาซุกิ สาวน้อยผมสั้นหน้าตาสดใส แต่กลับเลือกเล่นเครื่องดนตรีตัวใหญ่เสียงทุ้มอย่าง ‘ทูบา’ ซึ่งเธอตั้งชื่อเล่นให้ว่า ‘ทูบาคาบารา’ (แหม่ชื่อเล่นยาวกว่าชื่อจริงอีกนะจ๊ะ) หรือจะเป็น ทานากะ อาสึกะ สาวแว่นเจ้าเสน่ห์ เจ้าของตำแหน่งรองประธานชมรมวงโยธวาทิตและดรัมเมเยอร์ ผู้มีความเชี่ยวชาญในการเล่น ‘ยูโฟเนียม’ เช่นเดียวกัน
ใครที่ชอบดนตรีสไตล์วงโยธวาทิตหรือบิ๊กแบนด์แจ๊สแล้วล่ะก็ไม่ควรพลาดอนิเมะเรื่องนี้เลย ยิ่งบรรเลงโดยสาวน้อยน่ารัก ๆ อีก ยิ่งไม่ควรพลาดเข้าไปใหญ่
Kid On The Slope
Kid On The Slope หรือ Sakamichi No Apollon คือผลงานมังงะของนักเขียนการ์ตูนตาหวานชื่อดัง ‘โคดามะ ยุกิ’ อันว่าด้วยเรื่องราวของมิตรภาพ ความรัก และเสียงดนตรีแจ๊ส ซึ่งต่อมาได้ถูกนำมาทำเป็นอนิเมะในปี 2012 และถูกนำมาดัดแปลงเป็นภาพยนตร์เรื่องสุดประทับใจในปี 2018 นำแสดงโดย นานะ โคมัตสึ นักแสดงสาวเจ้าเสน่ห์, นักแสดงหนุ่ม ไทชิ ทาคากาวะ และ จิเน็น ยูริ สมาชิกวง Hey ! Say Jump ! บอยแบนด์ชื่อดังของญี่ปุ่น
Kid On the Slope เป็นอนิเมะใส ๆ ที่มีกลิ่นอายความเป็นยุค 60s -70s ที่กรุ่นกริ่นไปด้วยอิทธิพลของแนวดนตรีแจ๊ส หากใครเป็นคอแจ๊สและชื่นชอบเรื่องราวของชีวิตและความรักของวัยรุ่นแล้วล่ะก็ ไม่ควรพลาดด้วยประการทั้งปวง ทั้งตัวมังงะ อนิเมะ และภาพยนตร์เลย บอกเลยว่าใครที่เป็นคอแจ๊สจะต้องชอบเรื่องนี้ ส่วนใครที่ยังไม่ค่อยรู้จักดนตรีแนวนี้ดีนักหากได้สัมผัสบทเพลงใน Kid On The Slope แล้วล่ะก็รับรองจะกลายเป็นสาวกแจ๊สไปไม่รู้ตัว
พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส