[รีวิวอนิเมะ] “Goblin Slayer” ล้างแค้นก็อบลินในโลกแฟนตาซีที่นำเสนอเนื้อหาโคตรดาร์ก!!
Our score
7.7

จุดเด่น

  1. เนื้อเรื่องดาร์กมาก เหมาะกับสายฮาร์ดคอร์
  2. เนื้อเรื่องมีเป้าหมายชัดเจน เปิดเรื่องได้น่าสนใจ
  3. เคมีของตัวละครในเรื่องน่าสนใจ

จุดสังเกต

  1. ภาพยังดูเป็นอนิเมะยุคเก่าอยู่
  2. ฉากแอ็กชันทำออกมายังไม่ค่อยสนุกเท่าไหร่
  3. เนื้อหาเต็มไปด้วยความรุนแรงไม่เหมาะกับเด็ก

ว่าด้วยเรื่องอนิเมะแนวแฟนตาชีที่มีเรื่องของเอลฟ์ ผู้กล้า นักเดินทาง และโลกที่เต็มไปด้วยสิ่งมีชีวิตที่สุดแสนจะน่าอัศจรรย์มักจะเป็นการ์ตูนที่ทำออกมาให้ผู้ชมรู้สึกสบายสมอง น่ารัก สดใส แต่มันไม่ใช่กับเรื่อง “Goblin Slayer” ที่มีฉากหน้าดูเหมือนจะเป็นอนิเมะแนวผู้กล้าผจญภัยทั่ว ๆ ไป แต่อย่าให้รูปหน้าปกมันหลอกคุณ เพราะการ์ตูนเรื่องนี้เต็มไปด้วยหลายสิ่งที่ไม่เหมาะกับเด็กไม่ว่าจะเรื่องของเพศ ความรุนแรง และการเล่าเรื่องที่เรียกว่าดาร์กมากพอจะทำให้ผู้ใหญ่หดหู่ได้ตั้งแต่อีพีแรก ๆ

สามารถรับชม “Goblin Slayer” ได้ผ่านทาง NETFLIX

แนะนำตัวละคร

ก็อบลินสเลเยอร์ – นักเดินทางระดับเงิน ชายผู้ทำเควสต์ทุกอย่างที่เกี่ยวกับการล่าก็อบลินโดยไม่สนใจเรื่องสิ่งตอบแทน

นักบวชหญิง – นักเดินทางเริ่มต้นระดับกระเบื้อง

นักธนูไฮเอลฟ์ – หญิงสาวชาวเอลฟ์นักผจญภัยระดับเงิน ที่มีอายุมากกว่า 2000 ปี เธอเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการยิงธนู

ชาแมนดวอร์ฟ – ชายแก่เผ่าคนแคระ นักผจญภัยระดับเงิน เป็นผู้เชี่ยวชาญด้านอาวุธ โลหะ และ สุรา

นักบวชลิซาร์ด – เผ่าลิซาร์ด นักผจญภัยระดับเงิน หน้าโหดแต่ใจดี หลายครั้งที่เค้ามักจะทำหน้าที่คอยห้ามเวลาคนในปาร์ตี้มีปากเสียงกัน

เนื้อเรื่องย่อ

***เนื้อหาต่อไปนี้มีการสปอยล์อีพี1 แนะนำว่าใครที่ยังไม่ได้ดูให้ข้ามไปก่อนนะครับผม

ปล. ตัวละครในเรื่องนี้จะไม่มีชื่อ จะถูกเรียกตามอาชีพ เพศ และเผ่าของตัวเอง (ยกเว้นตัวละครเอก)

นักบวชหญิง หญิงสาวที่มีความฝันอยากจะเป็นนักผจญภัยได้ตัดสินเข้ารับตราเหรียญที่เป็นเหมือนเครื่องยืนยันว่าเค้าได้เข้ามาสู่โลกของนักผจญภัยอย่างเต็มตัว โดยตรานี้จะแบ่งออกเป็นสิบระดับตามความสามารถของคนนั้น ๆ โดยนักบวชหญิงได้รับตราที่ถือว่าเป็นมือใหม่สุดนั่นก็คือตราระดับกระเบื้อง หลังจากนั้นเธอก็ได้ถูกชวนเข้าปาร์ตี้โดยกลุ่มนักผจญภัยระดับกระเบื้องด้วยกันเอง โดยเควสต์ที่ปาร์ตี้นี้ชวนเธอให้ไปทำด้วยกันนั่นก็คือการล่าก็อบลินนั่นเอง

ซึ่งเควสต์ล่าก็อบลินสำหรับมือใหม่นั้นมักจะถูกมองว่าเป็นเรื่องง่าย ๆ เพราะพวกมันมีขนาดเล็กและดูไม่มีพิษภัยทำมอนตัวอื่น ๆ ที่มีขนาดใหญ่กว่า จนสุดท้ายด้วยความที่ นักบวชหญิง เองก็เป็นมือใหม่และยังไม่มีเพื่อนร่วมเดินทางด้วยจึงตัดสินใจไปกับปาร์ตี้นี้ แต่ทว่าก็อบลินในเรื่องนี้นั้นมันฉลาดระดับนึงและพวกมันอาศัยอยู่ร่วมกันเป็นฝูงใหญ่ โดยปาร์ตี้ใหม่ของนักบวชหญิงนี้หลังจากที่เข้าไปในถ้ำก็ถูกก็อบลินฆ่าตายหมด ส่วนผู้หญิงบางคนก็ถูกก็อบลินลากไปข่มขืน

ซึ่งในขณะที่นักบวชหญิงกำลังวิ่งหนีและเข้าตาจนเธอก็ได้ถูกช่วยเหลือโดยชายหนุ่มที่สวมเกราะเหล็กทั้งตัว เขาคนนั้นมีชื่อว่า ก็อบลินสเลเยอร์ เขาคือนักผจญภัยระดับเงินและเป็นชายที่ทำเพียงภารกิจล่าก็อบลินเท่านั้น นั่นก็เพราะในอดีตเค้ามีประวัติที่ไม่ดีเกี่ยวกับก็อบลิน (อยากรู้ต้องไปดูเองนะครับ) หลังจากนั้นนักบวชหญิงก็ประทับใจในอุดมการณ์ของ ก็อบลินสเลเยอร์ และตัดสินใจช่วยเหลือเขา และออกผจญภัยร่วมกันเพื่อที่จะกวาดล้างก็อบลินให้หมดไปจากโลกนี้

ความรู้สึกหลังดู

หดหู่ตั้งแต่อีพีแรก เปิดเรื่องมาได้ชวนให้ติดตามต่อสุด ๆ

สารภาพเลยว่าที่ผมเริ่มดูเรื่องนี้เพราะว่าถูกรูปหน้าปกหลอกมา คิดว่านี่คงเป็นอนิเมะแฟนตาซีทั่ว ๆ ไปที่เดินเรื่องแบบการผจญภัยในโลกที่เต็มไปด้วยสิ่งน่าอัศจรรย์ สดใส ๆ แอ็กชันร่ายเวทย์ใส่กันตู้มต้าม แต่ว่ามันไม่ใช่เลย การ์ตูนเรื่องนี้เดินเรื่องด้วยความแค้นของ ก็อบลินสเลเยอร์ ที่มีต่อก็อบลิน นั่นจึงเป็นปมชวนให้สงสัยและอยากรู้ว่าทำไมตัวละครนี้ถึงมีความแค้นกับก็อบลินขนาดนี้ ทำไมถึงต้องสวมเกราะทั้งตัวตลอดเวลา และหน้าตาของเค้าใต้หน้ากากจะเป็นอย่างไร ก็อบลินเกิดมาจากอะไรกันแน่ มีหลายคำถามค้างคาใจจนทำให้อดที่จะดูต่อไปเรื่อย ๆ ไม่ได้จริง ๆ

ซึ่งผมเปิดมาดูอีพีแรกจบนี่ก็ต้องอึ้งไปสักพักเลย เพราะการ์ตูนเรื่องนี้จัดเต็มเรื่องความรุนแรงมาก ๆ เลือดสาดกระจาย และมันหดหู่มากเวลาเห็นก็อบลินจับผู้หญิงในเรื่องนี้ไปข่มขืน ซึ่งต้องเกริ่นถึงก็อบลินในเรื่องนี้ก่อนว่ามันเป็นสัตว์ประหลาดที่ค่อนข้างจะเจ้าเล่ห์ พวกมันมักจะชอบบุกหมู่บ้านขโมยของ และจับผู้หญิงมาข่มขืนเพื่อขยายเผ่าพันธุ์ตัวเอง และถึงแม้ว่ามันจะตัวเล็ก แต่มันก็มีจำนวนมากพอที่จะจัดการกับนักผจญภัยเก่ง ๆ ได้เลย และที่สำคัญในทุก ๆ รังของก็อบลินพวกนี้จะมีตัวหัวหน้าอยู่ ซึ่งพวกตัวระดับหัวหน้าแต่ละรังก็จะมีความสามารถแตกต่างกันออกไป บ้างก็ใช้เวทย์ได้ บ้างก็ตัวใหญ่แข็งแรง นั่นจึงทำให้การสู้กับบอสในเรื่องนี้ก็เป็นอีก 1 เสน่ห์ที่น่าสนใจจริง ๆ

การเดินเรื่องทั้งหมดล้วนถูกขับเคลื่อนด้วยก็อบลิน

เวลาดูเรื่องนี้จะมีหลายอย่างที่ทำให้เรารู้สึกเหมือนเล่นเกมแนว RPG อยู่เลย มีการเก็บเลเวลอัปแรงก์ มีสกิลหลากหลายรูปแบบไม่ว่าจะสายดาเมจ หรือ ซัปพอร์ต มีการรับเควสต์ ตั้งปาร์ตี้ มีมอนสเตอร์และสัตว์ประหลาดมากมายอยู่ในโลกใบนี้ ซึ่งมันก็เป็นเพียงฉากหลังของอนิเมะเท่านั้น เพราะสุดท้ายแล้วเราแทบจะไม่เห็นมอนตัวอื่น ๆ เลยนอกจากก็อบลิน ไม่มีการสำรวจโลกเพิ่มการเดินทางของตัวละครก็คือไปเพื่อล่าก็อบลินเท่านั้น ไม่มีการตั้งใจอัปแรงก์อย่างเอาจริงเอาจัง แรงก์อัปก็เพราะแค่ฆ่าก็อบลินเยอะเท่านั้น สรุปคือการเดินเรื่องในอนิเมะเรื่องนี้มักจะมีก็อบลินเป็นแรงผลักดันเสมอ

แอ็กชันยังไม่ค่อยหวือหวาน่าประจับใจนัก ไม่มีท่าไม้ตายใด ๆ ที่น่าจดจำเลยสักอย่าง

ผมไม่ชอบฉากใช้พลังเวทหรือการใช้สกิลในอนิเมะเรื่องนี้เลย เพราะการนำเสนอช่วงที่ร่ายเวทหรือกำลังจะใช้สกิลมันค่อนข้างจะยืดเยื้อและไม่มีท่าไม้ตายอะไรทำให้ผมจดจำได้เลยหลังดูจบ ถ้าอธิบายง่าย ๆ อย่างหากเรานึกถึงท่าสักท่าในการ์ตูนเรื่อง ดราก้อนบอล เราก็จะนึกถึง พลังคลื่นเต่า ถ้าเป็นเรื่อง นารูโตะ ก็ กระสุนวงจักร ใช่มั้ย แต่สำหรับเรื่องนี้ผมจำท่าต่าง ๆ ที่ตัวละครในเรื่องใช้ไม่ได้สักท่าเลย

ซึ่งท่าต่าง ๆ ที่ตัวละครใช้ในเรื่องนี้คือเวิ่นเว้อมาก สกิลต่าง ๆ ในเรื่องจะถูกเรียกว่า ปาฎิหาริย์ เวลาจะใช้ทีก็เหมือนบทสวดยาว ๆ แบบข้าแต่พระแม่ธรณีผู้เปี่ยมเมตตาบลาๆๆๆๆๆๆ คือแบบ ยาวมากกกก!! จำไม่ได้สักอย่าง (ฮา) นอกจากชื่อจะจำยากแล้วเวลาสู้จริงส่วนมากก็มักจะจบด้วยแค่เอาดาบไปฟันฉับ ๆ ธนูยิงปิ้ว ๆ ชนะ จบ!! เวทส่วนใหญ่เหมือนเอาไว้ใช้สำหรับซัปพอร์ตเฉย ๆ นั่นจึงทำให้แอ็กชันในเรื่องนี้ค่อนข้างจะทั่ว ๆ ไปไม่ค่อยหวือหวานัก

เนื้อเรื่องไม่ได้มีแค่ความดาร์กเท่านั้น มีช่วงพักเล่นมุขชวนให้ผ่อนคลายแทรกอยู่เรื่อย ๆ

แต่ก็ใช่ว่าตัวเนื้อเรื่องจะมีแค่ช่วงหดหู่เท่านั้น ยังมีจังหวะแทรกมุขตลกเล็ก ๆ ตลอดการเดินเรื่องให้เรารู้สึกลืมเรื่องราวร้าย ๆ อยู่บ้าง แต่มุขตลกในเรื่องมักจะไม่ค่อนทัชกับคนดูสักเท่าไหร่หากเราไม่ได้อินกับตัวละครในเรื่อง เพราะมุกต่าง ๆ จะมาจากคาแรกเตอร์ในเรื่อง เช่นเอลฟ์ที่มีอายุ 2000 แต่น่ารักและดูเด็กกว่าคนแคระห์ที่อายุเพียง 170 ปี ก็จะมีการแซะกันเวลาเดินทางและทะเลาะกันอยู่บ่อย ๆ แต่ดันมีตัวหน้าโหดแต่ใจดีคอยห้ามเสมอ มีเด็กน้อยไร้เดียงสาขำคิกคักน่ารักสไตล์ญี่ปุ่น และตัวเอกสุดขรึมและจริงจังแต่กลับดูซื่อ ๆ ในบางสถานการณ์ ซึ่งมันก็เป็นเคมีการเข้ากันของตัวละครสูตรสำเร็จที่มีให้เห็นทั่ว ๆ ไปตามอนิเมะเพื่อให้คนดูเกิดความผูกพันกับตัวละคร

ภาพสไตล์อนิเมะยุคเก่า ที่ยังอาจไม่ถูกใจคนยุคนี้สักเท่าไหร่

ในแง่ของเรื่องภาพผมมองว่ามันธรรมดามาก ซึ่งจะให้อารมณ์เหมือนนั่งดูอนิเมะยุคเก่า ๆ ที่ความคมชัดจะสู้อนิเมะยุคนี้ไม่ได้เลย มุมกล้องก็ยังให้ความรู้สึกธรรมดาไม่มีลูกเล่นหรือการเคลื่อนกล้องที่ให้ความรู้สึกว้าวสักเท่าไหร่เมื่อเทียบกับอนิเมะสมัยนี้

แต่หากพูดถึงเรื่องมู้ดโทนถือว่าทำออกมาได้ยอดเยี่ยม ฉากไหนดาร์กภาพก็หม่นหมองและรู้สึกสิ้นหวังสุด ๆ หรือฉากไหนที่ผ่อนคลายก็กลายเป็นการ์ตูนแฟนตาซีสดใสไปซะอย่างนั้น และที่ผมชอบมาก ๆ คือความใจถึงในการนำเสนอเรื่องภาพที่รุนแรงของการ์ตูนเรื่องนี้ มันชัดมากข่มขืนก็คือข่มขืนจริง ๆ (แต่ไม่โป๊ขนาดเห็นทุกเรือนร่างนะ) ฉากเลือดสาดก็เห็นฉากที่โดนแทงโดนฟันจริง ๆ

สรุป

นี่ไม่ใช่การ์ตูนสำหรับเด็ก เราจะพบเจอกับเนื้อเรื่องที่ชวนให้รู้สึกหดหู่ ความรุนแรง เลือดสาด และฉากข่มขืนโป๊เปลือยมากมาย (แต่ก็มีจังหวะน่ารักผ่อนคลายแทรกอยู่บ้าง) แม้นี่จะเป็นการ์ตูนที่อยู่ในโลกที่ดูแฟนตาซีแต่ประเด็นหลัก ๆ ไม่ใช่การพาคนดูออกผจญภัยร่วมกับตัวละคร เพราะเนื้อเรื่องทั้งหมดจะดำเนินโดยผ่านการล้างแค้นก็อบลินของตัวละครเอก

และถึงแม้ว่าเรื่องนี้จะไม่ได้มีกราฟิกที่ดูดีเท่ากับอนิเมะยุคนี้เรื่องอื่น ๆ ไม่ได้มีฉากแอ็กชันที่เท่จนน่าจดจำ แต่หากคุณเป็นผู้ชื่นชอบการ์ตูนดาร์ก ๆ แนะนำว่าขอให้ลองดูแค่อีพีแรกก่อนเลย เพราะนี่คือการ์ตูนที่เปิดเรื่องมาได้น่าสนใจมาก ๆ ใครที่มีรหัส NETFLIX อยู่ในมือก็ลองเข้าไปดูกันได้เลยครับผม แนะนำ ๆ

พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส