จักรวาลหนังเอเลี่ยนบุกโลกของ Cloverfield ที่ควบคุมงานสร้างโดย J.J. Abrams นั้น มีภาคต้นและภาคต่อที่ประสบความสำเร็จมาแล้วมากมาย ภาคแรกในปี 2008 นั้นแจ้งเกิดผู้กำกับ Matt Reeves จนปัจจุบันได้ทำหนังใหญ่ไปแล้วมากมาย และทำให้หนัง Found Footage กลายเป็นของฮิตที่มีหนังเรื่องอื่น ๆ ทำตามมาอีกนับจากนั้น หนังทำรายรับรวมทั่วโลกไป 172 ล้านเหรียญฯ จากทุนสร้าง 25 ล้านเหรียญฯ

ต่อมาก็มีภาคแยกที่เรื่องราวเกิดขึ้นในช่วงเวลาเดียวกับภาคแรกตามมาอีก 2 ภาคคือ 10 Cloverfield Lane (2016) ซึ่งก็ทำรายได้ไปอย่างดี รายรับทั่วโลกอยู่ที่ 110 ล้านเหรียญฯ จากทุนสร้างแค่ 15 ล้านเหรียญฯ และ The Cloverfield Paradox (2018) ที่สตรีมลง Netflix แต่เรื่องหลังนี้ไม่ค่อยได้รับคำวิจารณ์ในแง่ดี จนหลายโพรเจกต์ที่ทีแรก Abrams จะขยายจักรวาลนี้เพื่อสร้างกับ Netflix เป็นอันต้องล้มพับไป

แต่สำหรับใครที่รอภาคต่อของเรื่องราวโดยตรงจากภาคแรกเมื่อปี 2008 ข่าวนี้อาจจะทำให้ต้องตั้งใจอ่านเลยทีเดียว เพราะ Abrams และสตูดิโอ Paramount Pictures จะสานต่อเรื่องราวจากภาคแรก หลังจากหนังต้นฉบับเล่าเรื่องของกลุ่มคนหนุ่มสาวที่พยายามหนีออกจากนิวยอร์ก ในวันที่มีสัตว์ประหลาดยักษ์ถล่มเมือง หนึ่งในตัวละครถือกล้องเก็บเหตุการณ์ไปด้วย และก็กลายเป็นมาฟุตเทจที่ปรากฎอยู่ในหนัง ประหนึ่งว่ามีการค้นพบกล้องของผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์นั้น หนังถ่ายทำกันอย่างลับ ๆ และใช้การตลาดไวรัลเป็นเรื่องแรก ๆ มาช่วยสร้างความแปลกใหม่และทำให้หนังประสบความสำเร็จ

J.J. Abrams

Abrams จะอำนวยการสร้างผ่านบริษัท Bad Robots ของเขาเองเช่นเดิม รายละเอียดของเนื้อเรื่องยังคงถูกเก็บงำเป็นความลับ (เหมือนหนังส่วนใหญ่ที่ Abrams อำนวยการสร้าง) แต่ที่แน่ ๆ หนังภาคต่อจะไม่นำเสนอแบบ Found Footage ที่ให้ตัวละครเดินถือกล้องเหมือนภาคแรก แต่จะเป็นหนังที่มีการถ่ายทำและดำเนินเรื่องแบบปกติ

Joe Barton ผู้จะมาคุมงานสร้างซีรีส์ The Batman

หนังจะได้ Joe Barton มารับหน้าที่มือเขียนบท โดยเพิ่งมีผลงานเขียนบทหนัง Invasion ที่เป็นหนังเอเลียนบุกโลกเหมือนกัน ซึ่งนำแสดงโดยดาวรุ่ง Riz Ahmed จาก Sound of Metal (2020) และนักแสดงออสการ์ Octavia Spencer จาก The Help (2011) เตรียมรอสตรีมมิงทาง Amazon Prime และเขาก็เพิ่งถูกวางตัวให้มารับหน้าที่เป็นผู้ควบคุมการสร้างซีรีส์ภาคแยกของ The Batman เกี่ยวกับตำรวจของเมืองก็อทแธมที่สตรีมทาง HBO Max ด้วย งานชุกขนาดนี้น่าจะการันตีฝีมือได้ รอติดตามข่าวคราวกันต่อไป

อ้างอิง

พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส