นับว่าน่าตื่นเต้นไม่น้อยเลยสำหรับการร่วมงานกันครั้งแรกระหว่าง แซค สไนเดอร์ (Zack Snyder) ยอดผู้กำกับวิสัยทัศน์สุดเฉียบจากหนังซูเปอร์ฮีโร ‘Man of Steel’ ที่คราวนี้เขาจะได้หวนกลับไปสู่การทำหนังซอมบี้หลัง ‘Dawn of the dead’ งานหนังซอมบี้ที่สร้างชื่อให้เขาเป็นที่รู้จักและปูเส้นทางอาชีพอันรุ่งโรจน์ โดยคราวนี้เขากลับมาทำหนังซอมบี้แอ็กชันอย่าง ‘Army of the Dead’ โดย Beartai – Buzz ได้โอกาสอันดีในการสัมภาษณ์ทั้งแซค สไนเดอร์ ผู้กำกับภาพยนตร์และนักแสดงนำทั้ง เดฟ บอทิสตา (Dave Bautista) หนุ่มสุดล่ำเจ้าของบทแดร็กซ์ จาก ‘Guardians of the galaxy’ และ เอลลา เพอร์เนล (Ella Purnell) นักแสดงสาวดาวรุ่งจาก ‘Miss Peregrine’s Home for Peculiar Children’ มาร่วมแบ่งปันประสบการณ์และมุมมองสนุกสนานจากการถ่ายทำหนังเรื่องนี้ด้วย
บทสัมภาษณ์แซค สไนเดอร์

อะไรคือเหตุผลที่ทำให้คุณกลับมาทำหนังซอมบี้อีกครั้ง
แซค: ความจริงแล้วผมยังประหลาดใจกับตัวเองเลยนะครับ (หัวเราะ) เอาจริง ๆ หนังซอมบี้เป็นหนึ่งในประสบการณ์ทางภาพยนตร์ที่ทำให้ผมหลงรักการทำหนังเลย อันที่จริง ๆ จะเรียกว่ากลับมาสู่วงการหนังซอมบี้ผมเองก็ตะขิดตะขวงใจอยู่ลึก ๆ เพราะไอเดียนี้มันอยู่ในหัวผมมานานมากเลยจนเหมือนเราไม่ได้ห่างจากการทำหนังซอมบี้ขนาดนั้น
ทำไมคุณถึงเลือกลาส เวกัส เป็นฉากหลังในหนัง
แซค : ผมคิดว่าหนังซอมบี้มักวิพากษ์วิจารณ์สังคม ผมเคยทำหนังซอมบี้ในห้างสรรพสินค้า (Dawn of the Dead) มาแล้วซึ่งผมสามารถสร้างอารมณ์ขันจากมันได้ ดังนั้นการเอาเวกัสเป็นฉากหลังเพื่อสื่อถึงนิสัยของมนุษย์ที่ชอบเล่นการพนันก็นับเป็นอีกหนึ่งวิธีการในการเล่าเรื่องราวของตัวละครในหนังได้ครับ
แนวคิดเบื้องหลังการออกแบบตัวละครของคุณเป็นอย่างไร
แซค : คนสนใจหนังซอมบี้เพราะซอมบี้คืออสุรกาย แต่ที่จริงแล้วมนุษย์คืออสุรกายในหนังซอมบี้ครับ เพราะซอมบี้ก็คือมนุษย์ที่ไร้มนุษยธรรมผมก็เลยคิดว่าจะผลักดันมันไปอีกระดับได้ยังไงก็เลยวิวัฒนาการให้คนเห็นว่าซอมบี้ไม่ทำลายสิ่งแวดล้อม ไม่ฆ่ากันเองและมีการดูแลผู้คนในเผ่าพันธุ์ตัวเองนั่นแหละครับที่จะทำให้คนดูรู้สึกว่ามันแตกต่าง
การผ่านหนังทั้งซูเปอร์ฮีโร แฟนตาซีหรือหนังซอมบี้เองให้อะไรกับคุณในฐานะคนทำหนังบ้าง
แซค : แน่นอนครับมันเป็นการเล่าเรื่องสเกลระดับตำนานทั้งนั้น มันทั้งให้แรงบันดาลใจและทำให้ผมหลงใหลเวลาที่ต้องเล่าสัจธรรมของมนุษย์ในเรื่องเล่า ซึ่งการเปรียบเปรยของมันทำให้ผมสนใจและอยากทำให้มันน่าเชื่อถือที่สุด
สถานการณ์การระบาดของโควิด 19 มีผลต่อการเล่าเรื่องราวในหนังบ้างไหม
แซค : เราถ่ายทำก่อนเกิดโรคระบาดครับ เราเลยยังไม่ได้ใช้เครื่องวัดอุณหภูมิหรือการกักตัวนักแสดงในมาตรการถ่ายทำเลย เราก็เลยสนุกกับการถ่ายทำอย่างบ้าระห่ำมาก แต่ในขณะเดียวกันการเมืองในหนังเองก็สื่อให้เห็นชัดเจนว่ามีภาพของนักการเมืองที่แนวคิดบ้าระห่ำแบบคาวบอยกับพวกอนุรักษ์นิยมสุดขั้วให้เห็น แต่เอาเข้าจริงตอนโควิด 19 ระบาดหนังของเราก็เสร็จไปประมาณ 90 เปอร์เซ็นต์แล้วล่ะครับ มีแค่ถ่ายซ่อมบ้างฉากในช่วงเกิดสถานการณ์ระบาดบ้าง แต่ก็น่าสนใจดีครับที่มีการเปรียบเทียบหนังกับสถานการณ์ปัจจุบัน
ในหนังปล้นช่วงของการคัดคนเข้าทีมแล้วนำเสนอตัวละครด้วยการตัดต่อแบบมองทาจทำได้น่าสนใจมาก คุณนำเสนอซีนนี้เพราะชอบหนังปล้นคลาสสิกหรือแค่อยากจะยั่วล้อมัน
แซค : ไม่เลย..ผมชอบหนังปล้นทุกเรื่องแน่นอน 100 เปอร์เซ็นต์ แม้มันจะดูเป็นคอนเซปต์ที่ดูบ๊อง ๆ แต่ผมก็รักมันมากเวลาดูหนังปล้นต่าง ๆ แล้วตอนถ่ายผมก็สนุกมากเลย
หน้าต่อไปเรามีบทสัมภาษณ์ของ เดฟ บอทิสตา คลิกหน้า 2 เพื่ออ่านต่อได่้เลย