[รีวิว] Wish Dragon: อะลาดินแดนมังกรของเฉินหลง ดูเพลินจนขึ้นอันดับ 1

Release Date

11/06/2021

ความยาว

98 นาที

Our score

8.0

Wish Dragon

จุดเด่น

1. สนุกเพลิน ตัวละครเคลื่อนไหวลื่นไหลเล่นหน้าเล่นตาได้สนุก ภาพน่ารักดูง่าย ไม่มีพิษมีภัยเน้นเด็กดูได้ผู้ใหญ่ดูเพลินได้เลย

จุดสังเกต

1. พากย์ไทยแปลผิดบ้างเหมือนกัน

• บท

  8.0

• โปรดักชัน

  8.0

• พากย์ไทย

  7.5

• ความสนุกตามแนวหนัง

  8.5

• ความคุ้มค่าการรับชม

  8.5

เรื่องย่อ: ติ่น เด็กวัยรุ่นสุดมุ่งมั่นอยากกลับไปเจอ หลีนา เพื่อนซี้สมัยเด็ก หลังจากบังเอิญได้เจอมังกรพันปีชื่อ หลงจู ที่เสกทุกอย่างได้ตามคำขอและพาเขาออกไปผจญภัยเพื่อฟื้นคืนมิตรภาพ

แอนิเมชันเน็ตฟลิกซ์ที่มาแรงติดอันดับ 1 ประเทศไทยหลังจากเข้าฉายได้ไม่กี่วัน โดยได้โซนี่สตูดิโอมาเป็นผู้ผลิต แม้ตัวหนังจะดูมาขายความเป็นจีนจ๋า แต่เอาเข้าจริงงานนี้เป็นผลงานการกำกับและเขียนบทจาก คริส แอปเพลฮานส์ (Chris Appelhans) นักวาดภาพชาวอเมริกันที่เคยได้รางวัลหนังสือเด็ก Children’s Choice Book เมื่อปี 2015 และผ่านงานฝ่ายศิลป์ในหนังแอนิเมชันมากเอกลักษณ์อย่าง ‘Monster House’ (2006) และ ‘Coraline’ (2009) มาแล้ว

และเพื่อเพิ่มความน่าสนใจแอปเพลฮานส์ยังมีโปรเจกต์แอนิเมชันทางเน็ตฟลิกซ์ที่ฮือฮาตอนมีข่าวเปิดตัวพอสมควรอย่าง ‘K-Pop: Demon Hunters’ ทางเน็ตฟลิกซ์ในช่วง 1-2 ปีนี้อีกด้วย เรียกว่าเป็นดาวรุ่งสายแอนิเมชันที่กำลังสร้างผลงานเลยทีเดียว และแม้จะเพิ่งฉายไปได้ไม่กี่วัน แต่หนังก็ดีพอจนเขาก็ได้ไฟเขียวเริ่มเขียนบทสำหรับ ‘Wish Dragon’ ภาค 2 แล้วด้วยเช่นกัน

และแม้แอปเพลฮานส์จะเป็นผู้กำกับและเขียนบทแต่เอาเข้าจริง แอนิเมชัน ‘Wish Dragon’ ก็จัดเป็นงานกากี่นั้งรวมดาวดังเชื้อชาติจีนหลายคนที่อยู่ในอเมริกาเลยทีเดียว ลากตั้งแต่โปรดิวเซอร์หลักของหนังที่ได้ เฉินหลง หรีือ แจ็กกี ชาน (Jackie Chan) มาอำนวยการสร้างและให้เสียงพากย์มังกรในภาคภาษาจีน และบรรดาดาราที่มาให้เสียงพากย์ในภาคภาษาอังกฤษ ทั้ง จอห์น โช (John Cho) จาก ‘Searching’ (2018) มารับบทมังกรอธิษฐานหลงจู ดาราสาวสวยจากหนัง ‘Crazy Rich Asians’ (2018) อย่าง คอนสแตนซ์ วู (Constance Wu) มารับบทแม่ของติ่น นอกจากนี้ยังได้ดารารุ่นใหม่อย่าง นาตาชา หลิว บอร์ดิซโซ (Natasha Liu Bordizzo) และ จิมมี หว่อง (Jimmy Wong) จาก ‘Mulan’ (2020) มารับบทคู่พระนางด้วย

แอนิเมชันเรื่องนี้หากจะพูดอย่างง่ายก็คือ อะลาดินในเวอร์ชันไชน่าทาวน์ โดยเปลี่ยนยักษ์จินนี่ในตะเกียง มาเป็นมังกรหลงจูในกาน้ำชา เชื่อได้ว่านี่คงเป็นความจงใจของผู้สร้างเองเลยที่จะยั่วล้อกับเรื่องราวที่คนทั่วโลกรู้จักดี เพราะจุดแข็งของพลอตสูตรสำเร็จแบบนี้ คือผู้ชมเข้าใจเรื่องได้ไว คุมธีมเรื่องได้ง่าย และที่สำคัญเพิ่มให้ดีขึ้นย่อมง่ายกว่าสร้างเองใหม่ทั้งหมด ตรงนี้ต้องบอกว่าทำให้หนังดูสนุกมาก เพลินเลยทีเดียว แถมยังทำเงินในจีนไปได้มหาศาลทีเดียวเมื่อต้นปีที่ผ่านมาก่อนมาลงเน็ตฟลิกซ์

โดยจุดยากของการดัดแปลงนี้ก็คงเป็นการใส่เรื่องราวแบบจีนร่วมสมัย ทั้งเทพจีน ความเชื่อจีน วิถีชีวิตแบบจีนลงในงานแอนิเมชันที่ต้องการความเป็นสากลสูงทางเน็ตฟลิกซ์ ซึ่งแอปเพลฮานส์ก็ถือว่าทำสำเร็จเลยทีเดียว เพราะวัฒนธรรมจีนในเรื่องนี้สามารถอยู่อย่างลงตัว เรื่องราวของหนุ่มฐานะจนที่อยากใกล้ชิดเพื่อนสมัยเด็กที่กลายเป็นเจ้าหญิงในแวดวงชั้นสูงก็เป็นอะไรที่เข้าใจได้ง่าย รวมถึงการใผสานศิลปะการต่อสู้กังฟูในเรื่องก็ถือว่าโดดเด่นไม่ย่ำรอยอะลาดินได้ดี

และหนังยังเปิดพื้นที่ให้มังกรหลงจูที่ใช้บุคลิกขี้เล่น โฉ่งฉ่างท่าทางเล่นใหญ่ ที่ผสมระหว่าง จินนี่ และมังกรมูชู สามารถเล่นอะไรได้เยอะมาก โดยเฉพาะความรู้ทันคนไม่ยอมโดนหลอกให้พรง่าย ๆ เป็นอะไรที่ทำให้ดูต่างจากตัวละครต้นแบบได้ดี

ด้านดีไซน์ตัวละครต้องบอกว่าตัวมังกรนั้นทำได้โดดเด่นมาก รวมถึงพวกเทพจีนด้วย ทว่าสำหรับตัวละครมนุษย์ฝั่งตัวเอกนั้นออกจะธรรมดาไปสักหน่อย ไม่มีจุดน่าจำนักเหมือนพวกตัวประกอบทว่ายังโชคดีที่ได้บทหนังช่วยให้มีบุคลิกพอจดจำได้มากขึ้น เป็นฝั่งตัวร้ายเสียอีกที่ออกแบบดีไซน์ได้น่าสนใจดีทั้ง บอสหัวโล้นที่ใช้กังฟูท่าฝ่าเท้าอย่างคล่องแคล่วและดูสุขุมเยือกเย็น ทำให้หนังดูน่าลุ้นขึ้นมาก ในขณะเดียวกันสองลูกน้องตัวใหญ่ยักษ์แต่ซื่อ และตัวเล็กแต่ห้าวก็ทำให้แก๊งนี้มีสีสันมากขึ้นทีเดียว

โดยสรุป ‘Wish Dragon’ เป็นงานแอนิเมชันที่ทำออกมาได้เหมาะกับเด็กรับชมมาก ๆ มีบางจุดที่ออกแบบใหม่ได้ดีทีเดียว อย่างฉากที่ติ่นพร่ำเพ้อกับป้ายโฆษณาที่ฉายรูปหลี่นา หรือปมภูมิหลังของหลงจูที่ขับดันความเชื่อของตัวละครได้ดี แต่ก็ต้องบอกว่าหลายอย่างก็ยังทำให้นึกถึงอะลาดินหรือแม้แต่มู่หลานอยู่บ้างเหมือนกัน ทว่าก็เชื่อได้เช่นกันว่า นี่จะเป็นแอนิเมชันขวัญใจเด็ก ๆ ที่ดูสนุกและชวนหลงรักตัวละครอีกเรื่องแน่นอน

พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส