หลังจากแสดงให้ผู้ชมเห็นแล้วว่าเกิดเส้นเวลาที่แตกแขนงออกไปอย่างบ้าคลั่งในตอนจบของ ‘Loki’ มือเขียนบท ไมเคิล วอลดรอน (Michael Waldron) กล่าวว่า แซม ไรมี (Sam Raimi) ผู้กำกับ ‘Doctor Strange in the Multiverse of Madness’ ต้องทำงานหนักมากเพื่อขมวดรวมเหตุการณ์ต่าง ๆ หลังจบ ‘WandaVision’ และ ‘Loki’ และนำเรื่องราวไปสู่ ‘Doctor Strange 2’

รวมถึงการจับคู่ระหว่าง สตีเฟน สเตรนจ์ (รับบทโดยเบเนดิกต์ คัมเบอร์แบตช์ – Benedict Cumberbatch) ซึ่งอยู่ในจุดที่มีพลังสูงสุดเข้ากับ สการ์เล็ต วิทช์ (รับบทโดยอลิซาเบธ โอลเซ่น – Elizabeth Olsen) แม่มดผู้ใช้พลังเวทแห่งความโกลาหล เคียงคู่ไปกับตัวละครที่เราคุ้นเคยอย่างหว่อง (รับบทโดยเบเนดิกต์ หว่อง – Benedict Wong) และตัวละครใหม่อย่าง อเมริกา ชาเวซ (รับบทโดยโซชิตล์ โกเมซ – Xochitl Gomez) พวกเขาต้องร่วมมือกันจัดการเส้นเวลาที่แตกแขนงออกไป ก่อนที่ Kang the Conqueror (รับบทโดยโจนาธาน เมเจอร์ส – Jonathan Majors) วายร้ายในตอนจบของ ‘Loki’ จะก่อสงครามพหุจักรวาลจนทำลายเส้นเวลาทั้งหมดของเฟส 4 ใน Marvel Cinematic Universe

Doctor Strange in The Multiverse of Madness, Marvel
เครดิตภาพ: imdb.com

“ผมคิดว่าสตีเฟน สเตรนจ์ผ่านอะไรมามากมายระหว่างหนังภาคแรกของเขาจนมาถึงภาคนี้” วอลดรอนผู้รับหน้าที่เขียนบท ‘Loki’ และ ‘Doctor Strange 2’ กล่าวระหว่างการให้สัมภาษณ์กับ Geek Vibes Podcast “หนังภาคแรกเต็มไปด้วยเรื่องราวจุดกำเนิดว่าเขากลายมาเป็นจอมเวทได้อย่างไร แต่ตอนนี้เขาผ่านการสู้กับธานอสมาแล้วใน ‘Avengers: Infinity War’ และ ‘Avengers: Endgame’ เขาก้าวมายืนอยู่ในจุดที่ตัวเองมีพลังสูงสุด มันจึงน่าสนใจมากในการบอกเล่าเรื่องราวของเขาต่อจากนี้”

วอลดรอนกล่าวเสริมอีกว่าการทำงานร่วมกับไรมีซึ่งเป็นผู้กำกับไตรภาคแรกของ Spider-Man นั้นยอดเยี่ยมมาก “มันเป็นประสบการณ์ครั้งหนึ่งในชีวิตเลยล่ะ เรามีช่วงเวลาดี ๆ ร่วมกันในการเขียนบทและการพัฒนาหนังเรื่องนี้ตั้งแต่ปีก่อน จากนั้นจึงเริ่มถ่ายทำที่ลอนดอนและมาพีคที่สุดในช่วงปีนี้ มันเยี่ยมมาก แซมคือผู้กำกับที่น่าทึ่ง”

Doctor Strange in The Multiverse of Madness, Marvel
เครดิตภาพ: Marvel Studios

เมื่อถูกถามว่าเขารู้สึกอย่างไรที่ได้ร่วมงานกับ Marvel Studios ถึง 2 เรื่องและยังเป็นเรื่องราวที่ต้องเชื่อมโยงถึงกัน วอลดรอนตอบว่า “มันดีนะ ยกเว้นตอนเขียนบท ‘Loki’ เพราะผมเขียนไปแล้วก็พูดกับตัวเองว่า ‘อืม นั่นต้องกลายเป็นปัญหาใน Doctor Strange 2 แน่ ๆ’ (หัวเราะ) ไม่ครับ มันดีจริง ๆ ที่เราได้ขยายจักรวาล MCU ออกไป เรียงก้อนอิฐอีกก้อนในเรื่องราวเหล่านั้นเพื่อทำให้มันน่าทึ่งและต่อเนื่องกัน มันเป็นสิ่งที่พิเศษ”

เตรียมพบกับคัมเบอร์แบตช์, โอลเซน, หว่อง, โกเมซ ร่วมด้วยราเชล แม็กอดัมส์ (Rachel McAdams) และชูวิเท็ล เอจีโอฟอร์ (Chiwetel Ejiofor) ใน ‘Doctor Strange in the Multiverse of Madness’ ซึ่งจะเข้าฉายในโรงภาพยนตร์ในวันที่ 25 มีนาคม 2022

อ้างอิง

พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส