[รีวิว] The Chair : จิกกัดทุกกระเบียด อารมณ์ขันแบบร้าย ๆ
Our score
7.2

จุดเด่น

  1. ซีรีส์จิกกัด แสบสันต์ กัดตลอดทั้งเรื่องและวิพากษ์สังคมแบบจัง ๆ ทุกมิติ
  2. หยิบประเด็นดราม่าที่คุ้นเคยเอามาเล่นแบบจับต้องง่ายและร่วมสมัย
  3. สายวิจารณ์วรรณกรรม หรือหนอนหนังสือและสายเสียดสีสังคมอาจชอบเรื่องนี้มาก ๆ

จุดสังเกต

  1. เนื้อหาย่อยง่ายแต่หลาย ๆ มุกตลกก็แอบเคี้ยวยากอยู่บ้าง สำหรับใครที่ไม่เก็ทมุกตลกฝรั่ง หรือไม่รู้จักวรรณกรรมที่ถูกหยิบยกเข้ามามีบทบาทในเรื่อง
  • ความสมบูรณ์ของบท

    6.5

  • คุณภาพงานสร้าง

    7.5

  • คุณภาพนักแสดง

    7.5

  • คุณภาพการเล่าเรื่อง

    7.5

  • ความคุ้มค่าในการรับชม

    7.0

เรื่องราวของ ‘คิม จียุน’ (แซนดร้า โอห์) ในช่วงที่เธอรับตำแหน่งหัวหน้าภาควิชาวรรณคดีภาษาอังกฤษที่มหาวิทยาลัยเพมโบรคอันโด่งดัง เธอเป็นผู้หญิงเอเชียคนแรกที่ได้รับตำแหน่งนี้ และเส้นทางการเป็นหัวหน้าของเธอในครั้งนี้ไม่ได้สะดวกสบาย เพราะมีปัญหามาให้เธอแก้สารพัด ไม่ว่าจะเป็นการบริหารงานท่ามกลางบรรดาอาจารย์อาวุโส ที่เธอต้องเป็นหัวหน้าของพวกเขา ปัญหาเรื่องการเพิ่มจำนวนนักศึกษามาลงทะเบียน เรื่องการประท้วงของนักศึกษากับพฤติกรรมของ ‘บิล ด็อบสัน’ (เจย์ ดูพลาส) ที่ทำให้นักศึกษาไม่พอใจ แล้วไหนจะปัญหาส่วนตัวเรื่องลูกบุญธรรมและความสัมพันธ์ของเธออีก โอ้ย!! เยอะเลยจ้ะปัญหาที่หัวหน้าคนใหม่จะต้องเจอ เพราะสังคมอเมริกันนั้นช่างร้ายกาจ

THE CHAIR (L to R) SANDRA OH as JI-YOON and JAY DUPLASS as BILL Cr. ELIZA MORSE/NETFLIX © 2021

หยิบประเด็นร่วมสมัยมาจิกกัดแบบร้ายกาจ

ซีรีส์เรื่องนี้มี 6 ตอนเท่านั้นเองค่ะ แถมแต่ละตอนก็กินเวลาไม่ถึงครึ่งชั่วโมง แต่เป็นครึ่งชั่วโมงที่จิกกัดตลอดเวลา เรียกว่ากัดไม่ปล่อยและไม่มีตรงกลางเอาซะเลย เนื้อเรื่องเอนเอียงไปทางแนวคิดขวาจัดและซ้ายจัด แบ่งขาวแบ่งดำกันโชะเชะ ทุกสิ่งทุกอย่างแสดงออกอย่างสุดโต่ง หลายประเด็นที่หยิบมาเล่นในเรื่องนี้จัดว่าเป็นเรื่องที่ร่วมสมัย ที่โดดเด่นมาก ๆ ก็เรื่องของการเหยียดผิว เหยียดเพศ การไม่ยอมรับความต่างทางความคิดและการแอนตี้นาซีอย่างรุนแรง

THE CHAIR Cr. ELIZA MORSE/NETFLIX © 2021

ซีรีส์ตอกย้ำการจิกกัดนี้ด้วยการใส่บทสนับสนุนเข้าไปที่ การวิจารณ์วรรณกรรม โดยยกเอาวรรณกรรมคลาสสิกระดับโลกอย่าง ‘โมบีดิ๊ก’ (Moby Dick) ของ ‘เฮอร์แมน เมลวิลล์’ มาใส่ให้เป็นประเด็นสนับสนุนของเรื่องเข้าไปอีก ทั้งเนื้อหาในวรรณกรรมชิ้นนี้และการกล่าวถึงในด้านอื่น ๆ ก็ถูกหยิบเอามาพูดถึง ซึ่งเป็นประเด็นที่บรรดาอาจารย์รุ่นเก่าเลี่ยงที่จะพูด แต่มันเป็นสิ่งที่นักศึกษาให้ความสนใจและต้องการจะวิพากษ์วิจารณ์นี่สิ ทำไงล่ะ อาจารย์รุ่นใหม่ก็ปรับปรุงเนื้อหาการสอนโดยที่ ใส่ความทันสมัยเข้าไปจนคลาสของอาจารย์รุ่นใหม่เต็มเอี้ยดแตกต่างกับคลาสของอาจารย์อาวุโสแบบฟ้ากับเหว

THE CHAIR (L to R) BOB BALABAN as RENTZ and NANA MENSAH as YAZ Cr. ELIZA MORSE/NETFLIX © 2021

ในจุดนี้ก็ขอแวะเล่าถึง โมบีดิ๊ก กันสักหน่อยสำหรับผู้ชมบางท่านที่อาจจะไม่รู้จักวรรณกรรมชิ้นนี้นะคะ โมบีดิ๊ก เป็นวรรณกรรมที่พูดถึงเรื่องการเดินทางของอิชมาเอล กะลาสีเรือ กับ กัปตันอาฮับที่มีความแค้นต่อ Moby Dick  วาฬยักษ์จอมโหดที่ทำให้ขาของเขาขาด  เนื้อเรื่องจะสื่อถึงเรื่องชนชั้น ฐานะทางสังคม ความคิดความเชื่อ ความเหลื่อมล้ำของหญิง-ชาย และบุคลิกเกรี้ยวกราดเกินเบอร์ของกัปตันอาฮับ ซึ่งในเรื่องนี้ก็ได้หยิบประเด็นเหล่านี้มาในบทวิจารณ์วรรณกรรมได้เจ็บแสบ

ร้ายยิ่งกว่าคือการแอบกัด

เรื่องนี้นอกจากการจิกกัดแบบโต้ง ๆ แล้ว ซีรีส์ยังบอกว่า สาขาด้านวรรณคดีมีนักศึกษาให้ความสนใจน้อยลงเรื่อย ๆ อาจารย์อาวุโสจึงถูกเพ่งเล็งและบีบให้เกษียณเพราะไม่มีนักศึกษาสนใจเข้าคลาส แต่พวกเขาจะสนใจเป็นพิเศษถ้าเอาวิชาเหล่านั้นมาโยงเข้ากับเรื่องที่กำลังเป็นประเด็นทางสังคม และแอบกัดแบบตอดใต้โต๊ะเข้าไปอีกในเรื่องของ ทัศนคติของอาจารย์อาวุโสทั้งหลายที่ล้าหลัง เป็นเต่าล้านปี เป็นตัวแทนของความคร่ำครึที่สมควรปลดระวาง เพราะลำพังจะแบกสังขารมาทำงานก็ไม่ไหวจะเคลียร์ จุดนี้กัดแรงมากแถมอาจารย์บางท่านยังถูกด้อยค่าแบบไม่ควรจะเป็น และจงใจทำให้ออกมาโอเวอร์เกินเบอร์แบบติดตลกที่โอ้โห กัดเก่งงงง

THE CHAIR (L to R) NANA MENSAH as YAZ and BOB BALABAN as RENTZ Cr. ELIZA MORSE/NETFLIX © 2021

แต่ข้างฝ่ายนักศึกษาก็โดนกัดไม่แพ้กัน เพราะบทซีรีส์ใส่ความเรื่องเยอะ หัวรั้น หูอื้อและเข้าใจผิดง่าย ขี้ทึกทักของนักศึกษาไปเต็ม ๆ ทั้งความคิดเยอะของประเด็นชาติพันธุ์ การต่อต้านนาซี ความเท่าเทียม จนไม่ว่าเรื่องอะไรก็จับมาเป็นประเด็นดราม่าไปซะหมด แน่นอนว่าบางเรื่องจะคิดมากก็ไม่แปลกเพราะมันก็น่าคิดและเป็นเรื่องที่เปลี่ยนบริบทไปแล้วในสังคมสมัยใหม่ แต่หลาย ๆ เรื่องเพียงหยุดฟังสักนิดแบบใจเย็น ๆ ไม่หัวร้อน ไม่คิดว่าตัวเองต้องถูกอยู่ฝ่ายเดียวความวุ่นวายไม่เกิดแน่ ๆ ซึ่งซีรีส์ก็เสนอในแง่มุมแบบไม่มีตรงกลาง ให้เห็นชัด ๆ ไปเลยว่า อะไรที่มันไม่มีความเทามันก็เกิดปัญหาได้ง่าย ๆ

ลึกเข้าไปอีกคือจิกกัดมันทั้งระบบ

ซีรีส์หรือภาพยนตร์ที่จิกกัดระบบบริหารมีมากมาย แต่ก็เห็นจะมีเรื่องนี้ที่กัดได้อย่างแยบยล แสบ ๆ คัน ๆ และน่าตีซะจริง ๆ ก็คือการจิกกัดไปถึงการทำงานในระบบของหน่วยงานภายใน ที่คีย์ของมันก็อยู่ที่ชื่อเรื่องนี่แหละจ้ะ The Chair ที่หมายความว่า การแก้ปัญหาบนเก้าอี้ในที่ประชุม ไม่ได้มีใครลงมาดูปัญหาที่แท้จริงว่าโลกวิ่งไปถึงไหนแล้ว แต่ผู้มีอำนาจก็มักจะชอบถกปัญหาต่าง ๆ จากมุมมองของตัวเองอยู่

THE CHAIR Cr. ELIZA MORSE/NETFLIX © 2021

โดยใช้ความมุ่งมั่นของ คิม จียุน ตัวเอกของเรื่องเป็นตัวแทนของคนที่พยายามจะแก้ปัญหา พยายามเข้าหาทั้งวัยรุ่นและผู้อาวุโสอย่างสุดความสามารถ พยายามทำความเข้าใจนักศึกษา และพยายามทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในระบบของมหาวิทยาลัย เพื่อความผาสุขของทุกฝ่ายและหน้าที่การงานของตัวเอง และกว่าจะพบคำตอบที่เหมาะสมที่สุดก็เล่นเอาชีวิตวุ่นวายแบบไม่น่าจะเป็น

ดูไปขำไปค่ะเบา ๆ สำหรับใครที่เข้าใจประเด็นสังคมเป็นอย่างดี เรื่องนี้กัดได้แสบใช่เล่นเชียวละ

The Chair : หัวหน้าใหม่ใจเกินร้อย

  • ผลิต : Tyler Romary , Hameed Shaukat
  • กำกับภาพ : Jim Frohna
  • จำนวนตอน : 6 ตอน / ตอนละ 30 นาที

พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส